Baramizi Lab logo

“Crown Expression” คลื่นมหาชนร่วมแสดงออกและปลดปล่อย สร้าง Soft Power ที่มีจุดร่วมของคนทั้งโลก

17
04.2024
view
667
SHARE

“Crown Expression” คลื่นมหาชนร่วมแสดงออกและปลดปล่อย สร้าง Soft Power ที่มีจุดร่วมของคนทั้งโลก

เพราะเทศกาลสงกรานต์บ้านเราอยู่บนกระแสเทรนด์ของ Event Tourism ที่ชื่อ “Crown Expression” แม้ฉากหน้าจะดูไทยไทย แต่เนื้อในนั้นโดนใจ Inner ที่เป็นสากล สงกรานต์บ้านเราจึงสามารถเป็น Soft Power ที่ทรงพลังระดับโลกได้

เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา Baramizi Lab ได้ร่วมทำวิจัยกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในหัวเรื่องการศึกษาศักยภาพกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ระดับนานาชาติของประเทศไทย เราได้ทำการ Spot Event Tourism Trend ประจำปีล่าสุดเพื่อค้นหาแนวโน้มการสร้างสรรค์ประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงกิจกรรมมาไว้เพิ่มพลังให้กับการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงกิจกรรมของประเทศไทยให้ขึ้นสู่ระดับนานาชาติได้

ด้วยกระบวนการศึกษาผ่านข้อมูลทุติยภูมิและทำการ Spot กรณีศึกษากว่า 100 กรณีศึกษาของงานกิจกรรมและเทศกาลประเภทต่างๆ ที่ทำหน้าที่ดึงดูดการท่องเที่ยวทั่วโลก เราพบเจอถึง 12 เทรนด์ที่น่าสนใจสำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกิจกรรม บางแนวโน้มนั้นก็เป็นแนวโน้มที่มีมาแต่เดิมอยู่แล้วอันเนื่องจากมันสอดคล้องไปกับความต้องการดั้งเดิมของมนุษย์เราที่กระตุ้นให้เราออกเดินทางได้ บางแนวโน้มเป็นความคาดหวังที่ Emerging ใหม่จากแรงกระทบของ Megatrend บางแนวโน้มตัวมันอาจไม่ใหม่มากแต่มีรายละเอียดที่ใหม่ขึ้นมา ไว้จะมาเล่าทั้ง 12 แนวโน้มให้ฟังอีกครั้งนะคะ : )

แต่วันนี้เอาเรื่องนี้ก่อน หนึ่งในแนวโน้มที่น่าสนใจและช่วยไขความกระจ่างให้กับความฮอตฮิตของเทศกาลสงกรานต์บ้านเราคือแนวโน้มที่ชื่อว่า “Crown Expression” คือประสบการณ์ของงานอิเวนต์ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ปลดปล่อยตัวเองจากโลกความเป็นจริง สามารถแสดงออกทางด้านอารมณ์หรือร่างกายได้อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ห้อมล้อมด้วยคนหมู่มากในการร่วมทำกิจกรรมที่มีความหมายเดียวกัน  อยากให้ทุกคนสังเกตค่ะ แนวโน้มนี้…เกิดขึ้นจาก Inner ภายในจิตใจของพวกเราที่ว่า ในการใช้ชีวิตบางทีก็มีอะไรที่อัดอั้นบ้างอะไรบ้าง (55) แล้วเราก็มีอารมณ์อยากปลดปล่อย อยากขว้างปา อยากทำลาย ยิ่งถ้าได้ทำแล้วได้แข่งขันกับคนอื่นด้วยนี่ยิ่งมันส์! แต่ๆๆๆ ในชีวิตจริง ใครจะให้เราทำอย่างนั้นกันล่ะ มันเดือดร้อนคนอื่นและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน แล้วๆๆๆ ในขณะเดียวกันนั้น ก็มีงานกิจกรรมมหกรรมประเภทหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ทำอะไรอย่างนั้นเกิดขึ้นเต็มไปหมดรอบโลกของเรา 🤣 แต่มาในรูปแบบและที่มาที่แตกต่างกันแต่ล้วน Serve Needs หรือตอบโจทย์ความต้องการแบบเดียวกัน บางที่ก็เป็นเรื่องราวของวัฒนธรรม บางที่ก็เป็นเรื่องศาสนา บางที่ก็มาจากฤดูกาลของพืชผลทางการเกษตร หรือไม่ก็เกิดจากการรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ เริ่มต้นจากทำกันเองเชื่อกันเองในพื้นที่ของตนแล้วค่อยๆ ขยายวงใหญ่ขึ้นเติบโตขึ้นจนถึงจุดที่กลายเป็นสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้

เทรนด์ Crown Expression จากการ Spot ข้อมูลในรอบปีนี้ สามารถสรุป Key Experience สำคัญได้ 3 ประการได้แก่

1. Crowd on Public: การรวมตัวของฝูงชนในพื้นที่สาธารณะสร้างประสบการณ์ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป

2. Splashing: การได้ขว้างปา ปลดปล่อย สิ่งต่างๆ ใส่กัน จากวัตถุดิบทางธรรมชาติใน  ท้องถิ่นนั้นๆ ทำให้เกิดประสบการณ์ที่สนุกสนาน หลุดออกจากโลกที่เป็นอยู่

3. Release and Move on: การได้ปลดปล่อยและทิ้งสิ่งที่เกิดขึ้นภายในงาน เพื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่ในโอกาสต่อไป

เทศกาลสงกรานต์เข้าข่ายแนวโน้มนี้เต็มๆ เลยค่ะ ถอดรหัสความเจ๋งของเทศกาลที่ทำให้เป็น Soft Power ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาได้ น่าจะประกอบด้วยองค์ประกอบ ดังนี้ 1) มีรากมีที่มาที่อิงกับวัฒนธรรมและวันสำคัญของคนไทยทั้งประเทศ 2) รูปแบบของกิจกรรมมาในรูปแบบของการได้ปลดปล่อย (+ทำลายล้าง 55) ได้แข่งขันต่อสู้ (เล็กๆ) 3) เป็นวัฒนธรรมร่วมที่คนทั้งประเทศตอบรับอย่างแข่งขันและพร้อมมีส่วนร่วม แต่ก็ยังเกิดวัฒนธรรมย่อยที่มีอัตลักษณ์เฉพาะของตัวเองแตกต่างกันไป ทำให้เกิดความหลากหลายที่น่าสนใจ องค์ประกอบข้อ 3) นี้ ส่วนตัวในตอนที่วิเคราะห์โจทย์วิจัยที่เกี่ยวกับประเด็นของงานท่องเที่ยวเชิงกิจกรรมระดับนานาชาติคิดว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด

นอกจากเทศกาลสงกรานต์ของบ้านเราแล้ว ยังมีงานกิจกรรมและเทศกาลอื่นๆ ที่น่าสนใจในเทรนด์นี้ คอนเทนต์นี้เราพาไปลองเที่ยวชมกันค่ะ 😁☺️

Burning Man

งานเทศกาลที่เน้นเรื่องชุมชน ศิลปะ การแสดงออก และการพึ่งพาตนเอง จัดขึ้นทุกปีทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ชื่อของงานมาจากพิธีการเผาหุ่นจำลองไม้ขนาดใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ซึ่งเรียกว่า The Man การเผานี้จะเกิดขึ้นในคืนสุดท้ายของงานเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการได้ปลดปล่อยและทิ้งสิ่งที่เกิดขึ้นภายในงานเพื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่ในโอกาสต่อไป โดยภายในงานผู้คนที่เข้าร่วมจะใช้ไลฟ์สไตล์แบบสุดโต่ง เช่น การแสดงงานศิลปะที่มีความเฉพาะตัว การใช้ชีวิตด้วยการแลกเปลี่ยนสิ่งของไม่มีการใช้เงิน เทศกาล Burning Man จัดตั้งโดย Burning Man Project ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร

 

Holi Festival

เทศกาลโฮลี มีการจัดขึ้น 2 วันในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งเทศกาลนี้เรียกอีกอย่างว่า “เทศกาลแห่งสีสัน” ผู้คนมากมายจะออกมาเฉลิมฉลองด้วยการสาดสีหรือป้ายสีซึ่งมีลักษณะเป็นฝุ่นผงใส่กันอย่างสนุกสนาน ฝุ่นผงสีจะทำมาจากธรรมชาติ อาทิ ดอกทองกวาว บีทรูท และขมิ้น เป็นต้น การสาดสีจะเล่นกันเฉพาะช่วงเช้าจนถึงเที่ยงวันเท่านั้นจากนั้นผู้คนจะแยกย้ายไปพักผ่อนแล้วเมื่อตกเย็นจะออกมาพบปะสังสรรค์กันแจกขนมหวานและสวมกอดกัน

La Tomatina

เทศกาลดั้งเดิมของสเปนที่จัดขึ้นในเมือง Buñol ทางตะวันออก โดยผู้เข้าร่วมจัดปามะเขือเทศใส่กัน ผู้คนมากถึง 20,000 คนจะจ่ายเงินคนละ 12 ยูโร เพื่อเข้าร่วมเทศกาล เพียงเวลาไม่นานพื้นที่ถนนก็ชุ่มไปด้วยเนื้อสีแดง งานนี้จัดขึ้นในวันพุธสุดท้ายของเดือนสิงหาคมของทุกปี งานเทศกาลนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการต่อสู้แย่งชิงอาหารระหว่างเด็กๆ ในท้องถิ่นในปี 1945 ในเมืองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่ผลิตมะเขือเทศ

Crown Expression แนวโน้มสำคัญที่โดนใจผู้คนถ้าลองต่อยอดดูเราอาจจะสร้างสรรค์ Event Tourism ที่เป็น Soft Power เพิ่มเติมพลังการดึงดูดผู้คนสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งได้อีกมากมายอย่างแน่นอนค่ะ 🥰🥰

อาจจะใส่ไว้ตั้งแต่ข้อความกลุ่มแรกก่อนแตกเข้ารายภาพ

 

บทความวิเคราะห์โดย

ปรมา ทิพย์ธนทรัพย์ (โจ้ง)

Baramizi Lab Director

ข้อมูลวิจัยเทรนด์โดย Trend Researcher Team ของ Baramizi Lab

โครงการศึกษาศักยภาพกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ระดับนานาชาติของประเทศไทย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://burningman.org
https://www.holifestival.org/#google_vignette

RECOMMEND

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย
read more
05.12.2025 68

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย

ตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยปี 2026 กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี AI พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความคาดหวังด้านความรวดเร็วและความเป็นส่วนตัวที่สูงขึ้น ประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 65.4 ล้านคน (91% ของประชากร) และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 56.6 ล้านคน (79.1% ของประชากร) โดยค่าใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลคาดว่าจะแตะ 34.5 พันล้านบาท (+10% YoY)​ บมความนี้สรุป 10 เทรนด์หลักที่นักการตลาดไทยต้องเข้าใจและปรับตัวให้ทันในปี 2026 ตั้งแต่การใช้ AI แบบ Agentic, การตลาดผ่าน Social Commerce, ไปจนถึงความสำคัญของ Sustainability และ Omnichannel Experience โดยแต่ละเทรนด์จะมีผลกระทบโดยตรงต่อกลยุทธ์การตลาดและการลงทุนของธุรกิจไทยในปีหน้า 1. Agentic AI Marketing: จาก Generative AI สู่ AI ผู้ช่วยที่แท้จริง ปี 2026 เป็นปีที่ AI จะก้าวจากเครื่องมือสร้างคอนเทนต์ (Generative AI) ไปสู่ “Agentic AI” ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างอัตโนมัติและชาญฉลาด AI ในปี 2026 จะไม่ใช่แค่ตอบคำถามหรือสร้างภาพ แต่จะสามารถวางแผนแคมเปญ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ปรับกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ และดำเนินการตั […]

NEO Luxury Trend
read more
02.12.2025 95

NEO Luxury Trend
ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่แค่สิ่งของ
แต่คือประสบการณ์

ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่ “ของ” แต่คือ “ประสบการณ์ คุณค่า และความหมาย” โลกของ Luxury กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในปี 2025 ไม่ได้ถูกนิยามด้วยโลโก้หรือสัญลักษณ์สถานะอีกต่อไป แต่สะท้อนถึงความ เข้าใจตัวตน คุณค่าชีวิต และความตั้งใจในการเลือกบริโภค (Intentional Consumption) มากกว่าที่เคย ผู้บริโภคกลุ่ม Luxury โดยเฉพาะ Millennials และ Gen Z ไม่ได้มองความหรูในฐานะการแสดงความมั่งคั่ง แต่มองว่า Luxury คือ “คุณภาพของชีวิต” และ “ประสบการณ์ที่มีความหมาย” ที่พวกเขาเลือกลงทุนอย่างตั้งใจ ทำให้เกิดแนวคิด NEO Luxury – New Luxury Paradigm ที่ผสมผสานความยั่งยืน เทคโนโลยี ประสบการณ์เฉพาะบุคคล และหัตถศิลป์เข้าด้วยกัน บทความนี้จะพาไปสำรวจ 5 หลักการสำคัญที่กำลังกำหนดความหมายใหม่ของ Luxury ในปี 2025 1. Quiet Luxury: ความหรูหราแบบเงียบ ๆ ที่ซ่อนความเข้าใจลึกซึ้งในคุณภาพ Quiet Luxury กลายเป็นตัวแทนของความหรูยุคนี้อย่างแท้จริง เพราะผู้บริโภคไม่ได้ต้องการประกาศความร่ำรวย แต่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง ใช้งานได้นาน และบ่งบอกตัวตนกับคนที่ “เข้าใจจริง” ลักษณะเด่นของ Quiet Luxury คุณภาพเหนือปริมาณ: เลือกสินค้าชิ้นสำคัญแทนกา […]

read more
19.11.2025 718

ความมืดเริ่มเป็นความงามใหม่

สำรวจ ‘ความมืด’ ในฐานะเฉดใหม่ของการออกแบบโลกประสบการณ์ ในอดีต “ความมืด” มักถูกผูกกับภาพของความกลัว, ภัยอันตราย หรือสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ในยุคที่ผู้คนเริ่มโหยหาความสงบ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ และประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน “ความมืด” กำลังถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นทรัพยากรทางวัฒนธรรมและทางธุรกิจที่ทรงพลัง กรอบคิดว่าด้วยการใช้ความมืดเป็นแกนกลางในการออกแบบประสบการณ์และรูปแบบธุรกิจ (Dark Experience) Dark Experience คือแนวคิดของธุรกิจที่ใช้ “ความมืด” เป็นหัวใจของการออกแบบประสบการณ์ ไม่ใช่เพื่อทำให้ผู้คนหวาดกลัว แต่เพื่อ “มองเห็น” สิ่งที่สำคัญกว่าเดิม ทั้งตัวเอง ธรรมชาติ และเรื่องราวที่เคยถูกกลบอยู่ในเงามืดของสังคม สาระสำคัญของ Dark Experience Business คือการใช้ความมืดเป็น “เครื่องมือในการออกแบบประสบการณ์” แทนที่จะใช้แสงและสิ่งเร้าเข้มข้นแบบที่ธุรกิจยุคก่อนมักใช้ดึงความสนใจผู้บริโภค สังคมปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหา Overstimulation อย่างหนัก ทั้งจากแสงไฟ เมือง 24 ชั่วโมง และหน้าจอที่อยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา ทำให้สมองแทบไม่เคยได้พักจากการประมวลผล สิ่งต่างๆ เหล่านี้สะสมเป็นความล้าโดยไม่รู้ตัว […]

read more
21.11.2025 611

7 Key Economic Trends จาก The Standard Economic Forum 2025

งาน The Standard Economic Forum 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5–7 พฤศจิกายน 2568 ในธีม “Thailand’s Next Frontier” รวบรวมผู้นำระดับโลก นักเศรษฐศาสตร์ และผู้กำหนดนโยบายกว่า 100 คน เพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจไทย ภายในงานมีการเน้น 3 ความท้าทายหลัก (3D Challenges) ก่อนเข้าสู่เทรนด์เฉพาะทาง ได้แก่ 3D Challenges ก่อนที่จะเจาะลึกในเทรนด์เฉพาะ มาทำความเข้าใจภาพรวมที่กว้างขึ้นก่อน ผู้นำธุรกิจไทยได้ระบุถึง “3 ความท้าทาย Digitalization (การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล) เทคโนโลยีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นรากฐานของการแข่งขัน เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนคิดเป็น 15.5% ของ GDP โลกแล้ว โดย 70% ของมูลค่าใหม่ทั่วโลกคาดว่าจะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มดิจิทัลในทศวรรษหน้า Deglobalization (การทวนกระแสโลกาภิวัตน์)  โลกกำลังแตกออกเป็นส่วนๆ จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ จีน และพันธมิตร ไทยต้องวางตำแหน่งตัวเองใน “จุดยืนที่เป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์” (Geopolitical Neutral Position) และ “ผู้สร้างสมดุลอย่างสร้างสรรค์” (Creative Balancer) เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ […]

read more
03.11.2025 643

“Gartner” เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมธุรกิจปี 2569

ในปี 2569 จะเป็นปีที่สำคัญต่อผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ต้องเผชิญกับการหยุดชะงัก นวัตกรรม ไปจนถึงความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน เทรนด์เทคโนโลยีทั้งหมดในปีหน้าจะเชื่อมโยงกับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-driven world) และเชื่อมต่อกัน ตลอดเวลา ซึ่งองค์กรธุรกิจต้องขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ ดำเนินงานด้วยความเป็นเลิศ และสร้างความไว้วางใจทางดิจิทัลไปพร้อมกัน ผู้นำองค์กรต้องเผชิญกับ การหยุดชะงัก (Disruption) นวัตกรรม และความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็ว 10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญแห่งปี 2569 1. AI Supercomputing Platforms  AI Supercomputing Platforms (แพลตฟอร์ม AI ซูเปอร์คอมพิวติ้ง) เป็นการรวมพลังของ CPU, GPU, ชิป AI ASICs และการประมวลผลแบบนิวโรมอร์ฟิก (จำลองสมองมนุษย์) ช่วยให้องค์กรจัดการงานที่ซับซ้อนมหาศาล ปลดล็อกประสิทธิภาพและนวัตกรรม ต้องอาศัย Orchestration Software เพื่อจัดการเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนโดยอัตโนมัติ คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 องค์กรชั้นนำ 40% จะใช้สถาปัตยกรรม Hybrid Computing (เพิ่มจาก 8% ในปัจจุบัน) ตัวอย่างการใช้งาน: คิดค้นยาใหม่ในไม่กี่สัปดาห์ (แทนที่จะใช้เวลาหลายป […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง