Baramizi Lab logo

เจาะ Insight Gen Alpha

เจาะ Insight Gen Alpha

Generation Alpha คือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี 2010 ถึง 2025 โดยพวกเขาเป็นรุ่นแรกที่เกิดในศตวรรษที่ 21 และเป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายทั้งทางเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ และฐานะทางการเงิน พวกเขาถูกเรียกว่า “มินิมิลเลนเนียล” และด้วยอัตราการเกิดที่มากกว่า 2.5 ล้านคนต่อสัปดาห์ ทำให้กลุ่มนี้เติบโตแซงหน้า Gen Z อย่างรวดเร็วในฐานะเจเนอเรชั่นที่ใหญ่ที่สุดและมีความหลากหลายที่สุดในโลก โดยคาดว่าภายในปี 2025 จะมีกลุ่มเจนอัลฟ่าทั่วโลกถึง 2 พันล้านคน แม้ว่าปัจจุบันพวกเขาเหล่านี้จะยังเป็นเด็กก็ตาม

เจนอัลฟ่าได้รับอิทธิพลอย่างมากจากเทคโนโลยีและผู้สร้างเนื้อหากลุ่ม Gen Z ที่มีอิทธิพลต่อสื่อของพวกเขา นอกจากนี้ เหตุการณ์ต่าง ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้มีผลกระทบอย่างมากต่อบุคลิกและค่านิยมของพวกเขา ทำให้พวกเขาได้รับการขนานนามว่าเป็น “Gen C” หรือ “Generation COVID” เนื่องจากชีวิตของพวกเขาได้รับผลกระทบจากโรคระบาดใหญ่ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และจิตวิทยา เหตุการณ์เหล่านี้จะทิ้งร่องรอยยาวนานไว้กับเจเนอเรชั่นนี้ ทำให้พวกเขามีความสำคัญต่อครอบครัวมากขึ้น และมองว่าการทำงานจากที่บ้านเป็นเรื่องปกติ 

เมื่อพูดถึงพฤติกรรมการบริโภคของเจเนอเรชั่นอัลฟ่า พวกเขามีแนวโน้มจะให้ความสำคัญกับการซื้อสินค้าจากบริษัทที่มีความเป็นดิจิทัลสูง เนื่องจากพวกเขาใช้เวลาหน้าจอมากกว่ารุ่นก่อน ๆ และมีความเชี่ยวชาญในการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว ประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งการระบาดของโรคและมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในช่วงที่ผ่านมาได้เร่งให้เจนอัลฟ่าพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลในการสื่อสารกับผู้คนมากขึ้น ซึ่งต่อไปนี้คือสิ่งที่จะอธิบาย ลักษณะสำคัญของคนเจนนี้ได้เป็นอย่างดี

  • มีการศึกษาที่สูงขึ้น: คาดว่าจะเป็นคนรุ่นที่มีการศึกษาสูงที่สุดเนื่องจากเข้าถึงเทคโนโลยีและข้อมูลได้ง่ายทำให้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกได้ลึกซึ้งมากกว่าคนรุ่นก่อน 
  • การบูรณาการเทคโนโลยี: บูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่น โดยที่ AI เป็นส่วนสำคัญของความเป็นจริง มีทักษะด้านเทคโนโลยีที่เหนือกว่าพ่อแม่และไม่เคยได้สัมผัสโลกที่ไม่มีเทคโนโลยี
  • การเรียนรู้ส่วนบุคคล: คุ้นเคยกับการเข้าถึงข้อมูลในทันที ดังนั้นการบรรยายและรูปแบบการเรียนรู้แบบเก่าๆ นั้นจะเริ่มล้าสมัยสำหรับพวกเขา และชอบประสบการณ์การเรียนรู้ส่วนบุคคลและการศึกษาออนไลน์
  • การโต้ตอบทางโซเชียลมีเดีย: ใช้โซเชียลมีเดียเป็นรูปแบบหลักในการโต้ตอบกับผู้อื่นแต่ก็เป็นดาบสองคมสำหรับสิ่งนี้ คือ ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว การกลั่นแกล้งทางออนไลน์และการได้รับการยอมรับทางสังคม
  • การให้ความสำคัญกับการเป็นเจ้าของ: ไม่สนับสนุนเศรษฐกิจแบบแบ่งปันซึ่งแตกต่างจากเจนก่อนหน้าค่อนข้างมาก คนเจนนี้ชอบที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินมากกว่าเช่าเอา
  • เคร่งศาสนาน้อยลง: ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะท้าทายกฎเกณฑ์ต่างๆ ทางสังคมมากกว่าคนรุ่นก่อนๆ จึงทำให้มีความเชื่อทางศาสนาน้อยลง และท้าทายบรรทัดฐานทางสังคมมากขึ้น
  • เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา: ความรู้สึกนึกคิดของพวกเขาเปลี่ยนแปลงอยู่เกือบตลอดเวลา พวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นปัจเจกชนมากกว่าคนรุ่นก่อนหน้า ทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้
  • พลวัตของสถานที่ทำงาน: จะเป็นกลุ่มแรงงานที่ใหญ่ที่สุด สนับสนุนเทคโนโลยีมากกว่าการโต้ตอบระหว่างมนุษย์ แนวทางการทำงานและการแก้ปัญหาของพวกเขาจะแตกต่างจากคนรุ่นอื่นๆ  ด้วยการเติบโตมาพร้อมกับแหล่งความคิดที่หลากหลายและเปิดกว้างกว่า 

นอกจากความแตกต่างที่เห็นได้ชัดจากลักษณะของคนเจเนเรชั่นอัลฟ่าแล้วนั้น คำพูดหรือแสลงของคนเจนนี้ก็แตกต่างกับคนรุ่นก่อนๆ และกำลังเป็นเทรนด์หนึ่งที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ คือศัพท์ฮิตติดปากของเจนอัลฟ่า (Gen Alpha, Generation Alpha) ยกตัวอย่าง เช่น

  • Skibidi หมายถึง สถานการณ์ที่ไม่ค่อยดี สิ่งชั่วร้าย หรืออะไรที่มีความหมายเชิงลบ
  • Rizz หมายถึง ความสามารถพิเศษ โดยเฉพาะในด้านความมีเสน่ห์ ความเจ๋ง หรืออะไรก็ตามที่บ่งบอกถึงสไตล์ การดึงดูดให้คนหลงใหล หรือความฮอต
  • Ohio หมายถึง นำมาใช้กับเรื่องที่แปลก ไม่ว่าจะเป็นความแปลกประหลาด หรือความน่ากลัว
  • Sigma หมายถึง คนที่โดดเด่น เป็นผู้นำ และมีลักษณะที่ดูสันโดษเบาๆ มีความหมาป่าเดียวดาย มีความเท่และป๊อปปูลาร์

สิ่งเหล่านี้ได้บ่งบอกเกี่ยวกับพฤติกรรมและลักษณะของเจเนเรชั่นอัลฟ่าที่แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อนๆ เพราะบทบาทจากเทคโนโลยีที่เข้ามามีอิทธิพลในชีวิตประจำวันตั้งแต่ยังเด็กทำให้มุมมองที่มีต่อโลกกว้างขวางเป็นอย่างมาก ร่วมถึงการที่ต้องเติบโตในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้คนในรุ่นนี้ที่แนวโน้มที่ชอบปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นผ่านเทคโนโลยีมากกว่า และในอนาคตอันใกล้นี้เจเนเรชั่นนี้จะกลายเป็นกลุ่มคนที่เยอะที่สุดและมีอิทธิพลต่อทุกภาคส่วนอย่างแน่นอน

ผู้เขียน

นางสาวจินต์ศุจี มณฑิราลัยพร

 

ที่มา

https://talkatalka.com/blog/gen-alpha-insight/ 

https://plus.thairath.co.th/topic/everydaylife/104587

RECOMMEND

read more
08.10.2025 64

จาก T-Pop สู่ T-Beauty: เมื่อวัฒนธรรมไทยกลายเป็นพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมความงาม

สรุปวิเคราะห์ T-Beauty Trend ในปี 2025 ความนิยมและความเติบโตของตลาด T-Beauty ตลาดความงามในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยมูลค่ารวมมากกว่า 6.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 และอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 9-10% ตลาดนี้ได้นำเสนอระบบนิเวศน์ครบวงจรที่ผสมผสานวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการตลาดดิจิทัล โดยมีแบรนด์ไทยเป็นที่สนใจและได้รับการยอมรับในตลาดโลกมากขึ้น การจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และช่องทางค้าปลีกหลักๆ มีบทบาทสำคัญ อิทธิพลของวัฒนธรรมและไอดอล T-Pop ความสำเร็จของ T-Beauty ได้รับแรงสนับสนุนจากวัฒนธรรมป๊อปไทยหรือ T-Pop เช่น นักแสดงจากละครแนว BL และศิลปินดังอย่าง Lisa จาก BLACKPINK ที่กลายเป็นหน้าโฆษณาของแบรนด์ทั้งในและต่างประเทศ ลักษณะความงามที่เน้นความเป็นธรรมชาติ แบบ “Swai Meiku” คือความสมดุลระหว่างสไตล์เอเชียและตะวันตกที่ดูสวยแบบไม่ตั้งใจแต่ตั้งใจ ทำให้เกิดกระแสแรงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เทรนด์สกินแคร์ที่โดดเด่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็ว เช่น เซรั่ม Exosome, ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Growth Factors และเปปไทด์ ซึ่งเน้นการปรับปรุงสุขภาพผิวตามชีววิทยาเฉพาะตัวของผ […]

thai cities safety resilience trend
read more
02.10.2025 328

แนวโน้มจะเป็นอย่างไรเมื่อ World Bank เตือน GDP ไทยอาจลด 7-14% ในปี 2593 เพราะภัยพิบัติโลกร้อน

แม้เราจะเดินทางมาถึงช่วงท้ายของปี 2025 แต่ประเทศไทยยังคงเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติหลากหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงสถานการณ์โลกที่กำลังเผชิญกับภัยพิบัติที่มากขึ้นเรื่อยๆ หากเทียบข้อมูลย้อนหลัง จำนวนภัยพิบัติทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากเพียง 23 ครั้งในปี 1950 กลายเป็นกว่า 361 ครั้งในปี 2019 ซึ่งล้วนเเล้วเเต่เป็นผลของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับประเทศไทย แม้จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 258 ล้านตัน คิดเป็น 0.76% ของการปล่อยทั้งหมดทั่วโลกในปี 2020 (ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 24) แต่กลับถูกจัดอยู่ใน ประเทศที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลก ความเสี่ยงนี้ครอบคลุมเกือบทุกมิติ ตั้งแต่ผลผลิตทางการเกษตรและประมงชายฝั่ง ไปจนถึงการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และฐานทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่เป็นเสน่ห์สำคัญของประเทศ รายงานของ ธนาคารโลก (World Bank) ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เตือนว่า หากไทยยังขาดมาตรการรับมือที่จริงจัง ภาวะโลกร้อนอาจทำให้ GDP ของประเทศลดลงถึง 7–14% ภายในปี 2593 โดยเฉพาะต่อประชากรเปราะบางกว่า 9.4 ล้านคน ซึ่งมีมากถึง 8 ล้านคนที่อย […]

Wellness Economy 5.0
read more
25.09.2025 203

Wellness Economy 5.0 พลังขับเคลื่อนไทยสู่ศูนย์กลางสุขภาพโลก

แนวคิดเศรษฐกิจสุขภาพยุคใหม่ในไทยธุรกิจไหนได้ประโยชน์มากที่สุด Wellness Economy 5.0 Wellness Economy 5.0 คือแนวคิดเศรษฐกิจสุขภาพยุคใหม่ในไทย ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยยึดสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะในยุคที่ไทยกำลังกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ (super-aged society) ภายในปี 2033 แนวคิดนี้ไม่ใช่แค่การรักษาโรค แต่คือการส่งเสริมการใช้ชีวิตเชิงป้องกันและทำให้สุขภาพดีเป็นวิถีชีวิตที่รวมถึงความงาม อาหารสุขภาพ การออกกำลังกาย และการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ Key Idea ของ Wellness Economy 5.0 มุ่งเน้นความสมดุลทั้งทางกาย ใจ อารมณ์ และสังคมผ่านการดำเนินชีวิตที่ดี เกิดการบูรณาการระหว่างเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และรูปแบบการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ผลักดันธุรกิจความงาม อาหารเพื่อสุขภาพ บริการออกกำลังกาย และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นอุตสาหกรรมหลัก รัฐบาลและภาคเอกชนร่วมลงทุนและพัฒนาระบบสาธารณสุขและ wellness hubs เพื่อรองรับตลาดผู้สูงวัยและสุขภาพดีแบบองค์รวม Wellness Economy ในไทยปี 2023 มีมูลค่าตลาดประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท เติบโตสูงจากกลุ่มนักท่องเที่ยวสุขภาพที่เพิ่มขึ้นและการผสมผสาน […]

Longevity Trend
read more
24.09.2025 197

Longevity Trend
”เมื่อ ‘วัยทำงาน’ ยาวนานขึ้น โอกาสของคนรุ่นใหม่จะเหลือเท่าไหร่?”

อายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ปีในทุกๆ 10 ปี) ตำแหน่งงานเก่าๆ ยังไม่ว่างให้คนรุ่นใหม่เข้าทำงาน Longevity Trend แนวโน้ม Longevity Trend หรือแนวโน้มคนมีอายุยืนยาวขึ้น ส่งผลให้คนจำนวนมากเลือกหรือจำเป็นต้องเกษียณช้าลงจากเดิม โดยอายุเกษียณที่เคยอยู่ราว 60 ปี เริ่มถูกปรับเพิ่มเป็น 65 ปีขึ้นไป ทั้งในไทยและในหลายประเทศ เพราะคนมีสุขภาพดีขึ้น เรียนรู้และทำงานได้นานขึ้น พร้อมกับระบบสวัสดิการและนโยบายที่สนับสนุนให้คนยังคงมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานมากขึ้น ขณะที่การเกษียณช้าช่วยให้มีรายได้และสวัสดิการทางการเงินที่มากขึ้น ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตและการแยกตัวจากสังคมได้ด้วย และการทำงานต่อเนื่องยังช่วยให้สมองและร่างกายได้รับการกระตุ้น ช่วยยืดอายุขัยโดยรวม สาเหตุของการเกษียณช้าลง อายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ปีในทุกๆ 10 ปี) คนสูงอายุในยุคใหม่มีสุขภาพดีขึ้น เขียนได้ ชำนาญและมีประสบการณ์มากกว่ารุ่นก่อน ระบบสวัสดิการ ศูนย์ดูแลสุขภาพ และโครงสร้างทางสังคมที่สนับสนุนให้คนสูงอายุทำงานต่อได้ ความจำเป็นด้านการเงิน เช่น รายได้ที่ไม่เพียงพอจากเงินออมและ […]

read more
01.10.2025 651

Event Tourism พลังสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ประเทศไทยพร้อมหรือยัง…ที่จะสร้างกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์สู่ระดับนานาชาติ?   กิจกรรมและงานอีเวนต์ ไม่ว่าจะเป็น เทศกาลศิลปะ ดนตรี อาหาร กีฬา หรือวัฒนธรรม ล้วนมีพลังในการเปลี่ยน “พื้นที่หนึ่ง ๆ” ให้กลายเป็น “จุดหมายการท่องเที่ยวระดับโลก” สำหรับประเทศไทย กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ไม่เพียงช่วยสร้างความสุข แต่ยังสร้างเศรษฐกิจ การจ้างงาน และทำให้ประเทศเป็นที่จดจำในสายตานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ  เพื่อให้ก้าวสู่เวทีโลก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงมีการศึกษาศักยภาพกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ระดับนานาชาติของประเทศไทย และได้ใช้เครื่องมือ Future Scenario (ฉากทัศน์แห่งอนาคต) ในการออกแบบ “ภาพอนาคตของ Event Tourism” เพื่อให้เราเห็นว่ากิจกรรมแบบไหนที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้อย่างแท้จริง  ถ้าว่าเคยติดตามคอนเทนต์ของบรารามีซี่ แล็บจะทราบว่าเครื่องมือวิจัยที่เรียกว่า Future Scenario คือ ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้ในอนาคตของแบรนด์ หรือคือ ไอเดียแก้ปัญหาที่น่าสนใจ ที่เราอยากได้ทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง  อ่านบทความ Brand Future Scenario […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง