Baramizi Lab logo

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Trends) ปี 2025-2026

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Trends)

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Trends) ปี 2025-2026

สรุปภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

ในปี 2024 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกทะลุ 17 ล้านคัน คิดเป็นกว่า 20% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดทั่วโลก และคาดว่าในปี 2025 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านคัน เติบโตสูงกว่า 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน ราคาชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีความสามารถในการแข่งขันใกล้เคียงกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ขณะเดียวกัน โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟฟ้าก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว สนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างมากขึ้น

1. ยอดขายและส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก

  • ยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปี 2024 สูงกว่า 17 ล้านคัน เติบโต 25% เมื่อเทียบกับปี 2023

  • คิดเป็นกว่า 20% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดทั่วโลก

  • จีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่สุด จำหน่ายรถ EV กว่า 11 ล้านคัน คิดเป็นเกือบ 50% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศ และคิดเป็นเกือบสองในสามของยอดขาย EV โลก

  • สหรัฐฯ มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าราว 1.6 ล้านคัน เติบโต 10%

  • ยุโรปได้รับผลกระทบจากการถอนเงินอุดหนุน แต่ยังรักษาสัดส่วนยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ประมาณ 20%

2. แนวโน้มภูมิภาคและตลาดเกิดใหม่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

  • ตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และละตินอเมริกาเป็นภูมิภาคที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตเร็วที่สุด

  • สัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยและเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 9% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในภูมิภาค

  • ละตินอเมริกามียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่า 60% ในปี 2024 โดยเฉพาะบราซิลที่จำหน่ายรถ EV กว่า 125,000 คัน

3. ประเภทและรุ่นรถในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

  • รถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV (Battery Electric Vehicle) เป็นสัดส่วนหลักของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก อยู่ที่ 67% ในปี 2024 โดยเฉพาะในอินเดียที่ BEV มีสัดส่วนเกือบ 100%

  • รถยนต์แบบ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) มีสัดส่วนสูงสุดในสหรัฐฯ ราว 20%

  • รถ SUV และ MPV พลังไฟฟ้าเติบโตโดดเด่นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

  • รถพาณิชย์ขนาดเล็กและรถสามล้อไฟฟ้าในประเทศกำลังพัฒนาขยายตัวอย่างรวดเร็ว

4. การลดต้นทุนแบตเตอรี่และผลต่อราคาในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

  • ราคาชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเฉลี่ยลดลง 20% ในปี 2024 เหลือ 115 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

  • คาดว่าจะลดต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อ kWh ภายในปี 2026 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสู่ราคาที่เทียบเท่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

  • สาเหตุหลักมาจากส่วนเกินกำลังผลิตเซลล์แบตเตอรี่ในจีน ราคาวัตถุดิบที่ลดลง และการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรง

5. การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จไฟฟ้าในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

  • มูลค่าตลาดสถานีชาร์จไฟฟ้าทั่วโลกอยู่ที่ 39.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024

  • คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 24.4% ไปจนถึง 363.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2034

  • แนวโน้มการติดตั้ง DC Fast Charger เติบโตเร็วกว่า AC Charger ช่วยลดระยะเวลาชาร์จและรองรับการเดินทางไกลได้ดีขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

  • อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการลงทุนต่อสถานียังค่อนข้างสูง

6. คาดการณ์แนวโน้มอนาคตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ปี 2025-2026

  • BloombergNEF คาดว่าในปี 2025 ยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตถึง 22 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้น 25% จากปี 2024

  • การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าจะส่งผลให้ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 2.4 เท่าภายในปี 2030 ทั้งจากรถยนต์ รถบัส และยานพาหนะขนาดเล็กในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

  • เทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ เช่น solid-state battery จะเริ่มมีบทบาท คาดว่าราว 10% ของความต้องการแบตเตอรี่ทั่วโลกในปี 2035 จะมาจากเทคโนโลยีนี้

  • ประเทศนอร์เวย์คาดว่าจะเป็นภูมิภาคแรกที่สัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในฟลีตเหนือกว่า ICE ภายในปี 2030 ตามด้วยจีนในปี 2033 และเยอรมนีในปี 2039

สรุป

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2025-2026 ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาชุดแบตเตอรี่ที่ลดลง และโครงสร้างพื้นฐานชาร์จไฟฟ้าที่ขยายตัว สนับสนุนให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าก้าวขึ้นเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคทั่วโลกในอนาคตอันใกล้นี้

RECOMMEND

การคาดการณ์อนาคตธุรกิจด้วย Strategic Foresight: กรณีศึกษา IKEA และ Shell
read more
09.07.2025 54

‘ปักหมุด’ อนาคตของธุรกิจ ผ่านแว่น IKEA และ Shell

มองอนาคต 3 รูปแบบ: อนาคตที่น่าจะเป็น อนาคตเป็นไปได้ และ อนาคตที่อยากให้เป็น ผ่าน 2 กรณีศึกษา บริษัทชั้นนำต่างๆ ในโลกธุรกิจไม่ได้เพียงสร้างผลกำไรในปัจจุบัน แต่กำลัง “ลงทุน” ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง การลงทุนในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่ตัวเลขทางการเงิน แต่คือการทุ่มเททรัพยากร ทั้งเวลา, บุคลากร, และการวิจัย เพื่อทำความเข้าใจ และสร้างธุรกิจให้พร้อมในวันข้างหน้า เครื่องมือสำคัญที่บริษัทเหล่านี้ใช้คือ “การคาดการณ์อนาคตเชิงกลยุทธ์” (Strategic Foresight) และเครื่องมือในการใช้งานก็คือ “The Futures Cone” (กรวยแห่งอนาคต) ซึ่งช่วยให้มองเห็นภาพอนาคตที่หลากหลาย ตั้งแต่ อนาคตที่น่าจะเกิดขึ้น (Probable), อนาคตที่เป็นไปได้ (Plausible), ไปจนถึงการเลือกสร้างอนาคตที่อยากให้เป็น (Preferable) แม้จะดูคล้ายการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ที่ทำหน้าที่ ป้องกัน (Defensive) มูลค่าของธุรกิจในปัจจุบันจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น หรือการวิจัยและพัฒนา (R&D) ซึ่งเป็นการ ต่อยอด (Incremental) สร้างมูลค่าใหม่โดยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิม หรือสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อยู่ใกล้เคียงกับธุรกิจหลั […]

index วัดผลการสร้างแบรนด์
read more
04.07.2025 345

วัดผลการสร้างแบรนด์ยังไงให้ได้ผลลัพธ์ที่ทุกคนยอมรับ?

ก่อนจะพูดถึงกลยุทธ์หรือเครื่องมือไหนๆ อยากชวนคุณติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกก่อนนะคะ  สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มองว่า “แบรนด์” เป็น “สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้” และนั่นคือมุมมองที่ทำให้หลายคนยัง “ลังเล” ว่าจะลงทุนสร้างแบรนด์ดีไหม แค่ลังเล อาจทำให้คุณพลาดโอกาสสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว ✅ การลงทุนกับการสร้างแบรนด์คือสิ่งที่ถูกต้อง ✅ การสร้างแบรนด์ไม่จำเป็นต้องใช้งบเสมอไป เพราะการสร้างแบรนด์คือการควบคุมทุกจุดสัมผัสของลูกค้าให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพียงแค่มีเข็มทิศที่แม่นยำ และควบคุมทุกประสบการณ์ให้ไปในทิศทางนั้น หากมีงบ ก็สามารถเพิ่มพลังความสร้างสรรค์ให้แตกต่างจนลูกค้าจดจำได้ไม่รู้ลืม 🅾️ แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่มั่นใจคือ “จะวัดผลแบรนด์อย่างไร?” ยอดขายขึ้นหมายถึงแบรนด์ดีหรือไม่? ถ้ายอดขายไม่ขึ้น แปลว่าแบรนด์แย่หรือเปล่า? เราเข้าใจความสับสนตรงนี้ดีค่ะ เพราะแม้แต่คนที่อยู่ในวงการแบรนด์มานาน ยังต้องกลับมาตั้งคำถามนี้กับตัวเองอยู่บ่อย ๆ Baramizi Lab กับการพัฒนาเครื่องมือวัดแบรนด์ Baramizi Lab (ซึ่งหมวกหนึ่งคือนักวิจัยเพื่อการพัฒนาแบรนด์) เข้าใจหัวอกหัวใจนักสร้างแบรนด์ทุกคนใน […]

Future of Cheese
read more
03.07.2025 313

Future of Cheese: ถอดรหัสกระแสอาหารโลกผ่านมุมมองชีส

ขนาดตลาดชีสโลกและไทย: โอกาสเติบโตที่ไม่ควรมองข้าม ตลาดชีสโลกกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่า 93.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดการณ์ว่าจะเติบโตด้วยอัตรา CAGR 5.08% จากปี 2025-2033 เพื่อไปสู่มูลค่า 153.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2033 ในขณะที่แหล่งข้อมูลอื่นคาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโตไปสู่ 210.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2030 Global cheese market size projections showing steady growth from 2024 to 2030, with various forecasting models สำหรับตลาดไทย ชีสกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากมูลค่า 2,146.5 ล้านบาทในปี 2563 เติบโตเป็น 4,924.1 ล้านบาทในปี 2567 ซึ่งคิดเป็นการเติบโต 7.6% ในปีที่ผ่านมา การเติบโตนี้สะท้อนอัตรา CAGR 23.07% ระหว่างปี 2020-2024 แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของชีสในตลาดไทย Thai cheese market showing dramatic growth from 2020 to 2024, with market value more than doubling สาเหตุที่ทำให้เกิดเทรนด์ชีส 1. อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย การเติบโตของเทรนด์ชีสได้รับอิทธิพลอย่างมากจากโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok ที่มี hashtag #cottagecheese ได้รับการดูมากกว่า 500 […]

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Trends)
read more
02.07.2025 379

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Trends) ปี 2025-2026

สรุปภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2024 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกทะลุ 17 ล้านคัน คิดเป็นกว่า 20% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดทั่วโลก และคาดว่าในปี 2025 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านคัน เติบโตสูงกว่า 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน ราคาชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีความสามารถในการแข่งขันใกล้เคียงกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ขณะเดียวกัน โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟฟ้าก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว สนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างมากขึ้น 1. ยอดขายและส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปี 2024 สูงกว่า 17 ล้านคัน เติบโต 25% เมื่อเทียบกับปี 2023 คิดเป็นกว่า 20% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดทั่วโลก จีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่สุด จำหน่ายรถ EV กว่า 11 ล้านคัน คิดเป็นเกือบ 50% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศ และคิดเป็นเกือบสองในสามของยอดขาย EV โลก สหรัฐฯ มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าราว 1.6 ล้านคัน เติบโต 10% ยุโรปได้รับผลกระทบจากการถอนเงินอุดหนุน แต่ยังรักษาสัดส่วนยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ประมาณ 20% 2. แนวโน้มภูมิภาคและตลาดเกิด […]

ชาไทยไม่ใส่สี
read more
25.06.2025 249

เทรนด์ชาไทยไม่ใส่สี: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย

แบรนด์ชั้นนำหลายแห่งประกาศผลิตชาไทยที่ไม่ใส่สี Sunset Yellow FCF ซึ่งเป็นสีสังเคราะห์ที่ทำให้ชาไทยดั้งเดิมมีสีส้มสดใส เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การแข่งขันของแบรนด์ชั้นนำ คาเฟ่ อเมซอน นำหน้าเปิดขาย คาเฟ่ อเมซอน ได้ประกาศตัวเป็น “เจ้าแรก” ที่ขายชาไทยไม่ใส่สี โดยเริ่มขายเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2025 ภายใต้ชื่อ “Premium Thai Tea” ซึ่งคัดสรรใบชาอัสสัมคุณภาพดีจากจังหวัดน่าน ผ่านการเบลนด์สูตรพิเศษโดย Tea Master ให้รสชาติโทนวานิลลาหอมละมุน และหวานนุ่มแบบคาราเมลไลซ์ จำหน่ายในราคา 60 บาท ชาตรามือ เตรียมวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม ชาตรามือ แบรนด์ชาไทยเก่าแก่กว่า 80 ปี เตรียมวางจำหน่าย “ชาไทยไม่ใส่สี” ภายในเดือนกรกฎาคม 2025 โดยใช้สูตรดั้งเดิมที่ตัดสีสังเคราะห์ Sunset Yellow ออกทั้งหมด พร้อมเปิดตัวเมนูใหม่ “ชาไทยสีธรรมชาติ” ในไตรมาส 3 ซึ่งใช้สีผสมอาหารจากธรรมชาติ เช่น แครอท ในการแต่งเติมสี เหตุผลเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลง ปัญหาของสี Sunset Yellow FCF สี Sunset Yellow FCF เป็นสีผสมอาหารสังเคราะห์ที่ทำให้ชาไทยมีสีส้มสดใส อย่างไรก็ตาม สารนี้ถูกห้ามใช้หรือควบคุมการใช้ในหลายประเท […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง