Baramizi Lab logo

ทิศทาง Food delivery ทั้งไทยและต่างประเทศ

ทิศทาง Food delivery ทั้งไทยและต่างประเทศ

ตลาด Food Delivery ในไทยปี 2567 ยังมีเทรนด์ที่ลดลงต่อเนื่อง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้มีการประเมินว่าในปี 2567 มูลค่าตลาด Food Delivery จะอยู่ที่ประมาณ 8.6 หมื่นล้านบาท  หรือหดตัว 1.0% จากปี 2566 แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการสั่งอาหารเฉลี่ยต่อครั้งน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น (Price per Order) ประมาณ 2.8% จากค่าเฉลี่ยในปี 2566 หรือ มีราคาเฉลี่ยประมาณ 185 บาทต่อครั้งของการสั่ง ซึ่งจะมีผลตามมาต่อทั้งจำนวนครั้งและปริมาณการสั่งให้ลดลง

ปัจจุบัน ตลาด Food Delivery ในหลายประเทศกำลังเผชิญกับแนวโน้มขาลงไม่ต่างจากประเทศไทย แม้ว่าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่น สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเห็นการเติบโตชะลอตัวเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงและต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ส่งผลให้บริการต้องปรับราคาให้สูงขึ้นเพื่อรักษากำไร ขณะที่ในญี่ปุ่น การเพิ่มขึ้นของต้นทุนการจัดส่งและการแข่งขันจากผู้เล่นหลายราย ทำให้บริษัทฟู้ดเดลิเวอรี่ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดและกำไร 

การเติบโตของตลาด Food Delivery ทั่วโลก

รายได้ในตลาดบริการจัดส่งอาหารออนไลน์คาดว่าจะสูงถึง 1.22 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR 2024-2029) ที่ 9.49% ส่งผลให้มีปริมาณตลาดที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.92 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2572

 

ภาคบริการจัดส่งอาหารออนไลน์ทั่วโลก ซึ่งประเมินว่ามีมูลค่ามากกว่าหนึ่งล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 ถูกครองตลาดโดยผู้เล่นหลัก ได้แก่ DoorDash (สหรัฐอเมริกา), Zomato (อินเดีย), Grab (สิงคโปร์) และ Delivery Hero (เยอรมนี) 

 

ปัจจัยที่ทำให้ตลาดชะลอตัว

การชะลอตัวของตลาดบริการจัดส่งออนไลน์เริ่มเห็นได้ชัดเจนในช่วงเวลาหลังจากโลกเข้าสู่ภาวะปกติใหม่อีกครั้ง พบว่ามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนอย่างมากมาย โดยผู้คนมีแนวโน้มที่จะ :

  • เปลี่ยนมารับประทานอาหารนอกบ้าน: การเดินทางไปรับอาหารที่ร้านเองเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและได้รับประสบการณ์ออกนอกบ้าน
  • ซื้ออาหารกลับไปที่บ้านเพื่อทาน: การซื้ออาหารมาที่บ้านเพื่อให้มีความสะดวกและประหยัด
  • ประกอบอาหารเองที่บ้าน: การทำอาหารในบ้านเพื่อดูแลสุขภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการสั่งอาหารออนไลน์ที่เป็นปัจจัยก่อให้เกิดการชะลอตัว เช่น

  • ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น: ค่าบริการส่งอาหารที่สูงขึ้นทำให้ผู้ใช้บริการลดลง
  • คุณภาพของอาหารที่ได้รับไม่ตรงปก: ปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของอาหารที่ไม่ได้รับตามที่คาดหวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรสชาติและหน้าตา
  • ความล่าช้าในการส่งอาหาร: ปัญหาเกี่ยวกับเวลาการจัดส่งที่ล่าช้า

 

การแข่งขันและกลยุทธ์ของตลาด Food Delivery

ตลาด Food Delivery ได้มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่างบริษัทและแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อแย่งฐานลูกค้าและส่วนแบ่งในตลาด ซึ่งแต่ละเจ้าก็จะมีกลยุทธ์ทางธุรกิจหลายรูปแบบที่สามารถใช้เพื่อที่จะได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น

  1. การเสนอโปรโมชั่นและส่วนลด : ใช้โปรโมชั่นและส่วนลดเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าที่มีอยู่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่คาดหวังว่าจะมีการสั่งอาหารมาก เช่น วันหยุด หรือช่วงเวลาที่มีงานเฉลิมฉลอง
  2. การพัฒนาแอปพลิเคชันและเทคโนโลยี : การพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง เช่น การทำให้ระบบการสั่งซื้อและการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  3. ความสะดวกสบายในการใช้บริการ : การมีการจัดส่งที่รวดเร็วและตรงเวลา เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจและเชื่อถือ
  4. การสนับสนุนลูกค้า : การให้บริการลูกค้าที่ดี รวมถึงการตอบสนองต่อข้อร้องเรียนหรือปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  5. การตลาดและการโฆษณา : การใช้กลยุทธ์การตลาดและการโฆษณาที่ชัดเจน เช่น การใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อเพิ่มการรับรู้และความนิยมของบริการ Food Delivery
  6. การควบคุมคุณภาพ : การมีการควบคุมคุณภาพอาหารและการบริการที่ดี เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

ผลประกอบการของ Food Delivery เจ้าใหญ่ในประเทศไทย

บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ แกร็บ

ภาพรวม 4 ปี บริษัทแกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด รายได้ของปี 2566 เพิ่มขึ้นมากถึง 15,622,426,576 บาท โดยกำไรสุทธิที่บริษัทได้รับในปีนี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยส่งผลให้บริษัทนี้สามารถกลับมาทำกำไรได้ในปี 2565 หลังจากขาดทุนในปี 2564

ผลประกอบการ

  • ปี2563 ขาดทุนสุทธิ 284,280,850 บาท
  • ปี2564 ขาดทุนสุทธิ 325,252,107 บาท
  • ปี2565 กำไรสุทธิ 576,134,254 บาท
  • ปี2566 กำไรสุทธิ 1,308,464,289 บาท

บริษัท ไลน์แมน (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ไลน์แมน

ภาพรวม 4 ปี ไลน์แมน ยังมีปัญหาหารขาดทุนสุทธิสะสม เช่นกัน โดยในปี 2566 บริษัทมีภาวะการเงินที่ดีขึ้น โดยมีรายได้รวมสูงสุด 11,634 ล้านบาททำให้ผลประกอบการในปี 2566 ขาดทุนสุทธิลดลงจาก 2,730 ล้านบาท เป็นขาดทุนสุทธิ 253ล้านบาท

ผลประกอบการ

  • ปี2563 ขาดทุนสุทธิ 1,114,666,254 บาท
  • ปี2564 ขาดทุนสุทธิ 2,386,522,457 บาท
  • ปี2565 ขาดทุนสุทธิ 2,730,849,262 บาท
  • ปี2566 ขาดทุนสุทธิ 253,806,613 บาท

บริษัท เดลิเวอรี่ ฮีโร่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ฟู้ดแพนด้า

ภาพรวม 4 ปี ฟู้ดแพนด้า ยังมีปัญหาหารขาดทุนสุทธิสะสม แต่ในปี 2566 บริษัทฟู้ดแพนด้า ประสบกับภาวะการเงินที่ดีขึ้น ซึ่งปรากฏในผลกำไรสุทธิที่บวกเข้ากับสถานการณ์ของบริษัทหลังจากขาดทุนในปี 2565 ซึ่งตกต่ำลงจากปี 2564 และ 2563 ที่มีการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

ผลประกอบการ

  • ปี2563 ขาดทุนสุทธิ 3,595,901,657 บาท
  • ปี2564 ขาดทุนสุทธิ 4,721,599,978 บาท
  • ปี2565 ขาดทุนสุทธิ 3,255,107,979 บาท
  • ปี2566 ขาดทุนสุทธิ 522,486,848 บาท

บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด หรือ โรบินฮู้ด

ภาพรวมในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โรบินฮู้ด ประสบปัญหาขาดทุนสุทธิมาต่อเนื่อง แม้ในปี 2566 จะมีรายได้รวมสูงสุดถึง 724,446,267 บาท จากการขายสินค้าและบริการ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 538,245,295 บาท แต่ก็ยังมีรายจ่ายที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน 

ผลประกอบการ

  • ปี2563 ขาดทุนสุทธิ 87,829,231 บาท
  • ปี2564 ขาดทุนสุทธิ 1,335,375,337 บาท
  • ปี2565 ขาดทุนสุทธิ 1,986,837,776 บาท
  • ปี2566 ขาดทุนสุทธิ 2,155,727,184 บาท

โดยล่าสุด บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCBX ได้แจ้งยุติการให้บริการแอปพลิเคชั่น Robinhood หนึ่งในฟู้ดเดลิเวอรี่ ที่เคยได้รับความนิยมจากผู้บริโภค หลังจากประสบปัญหาขาดทุนสะสม 4 ปี รวมกันสูงถึง 5,565 ล้านบาท

ด้วยขนาดตลาด Food Delivery ในไทยที่ยังคงมีแนวโน้มลดลงในปี 2567 และผลกระทบจากการปรับตัวของตลาดทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับความท้าทายที่คล้ายคลึงกัน ผู้เล่นหลักในตลาดจึงต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงและการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค สถานการณ์ดังกล่าวจึงเป็นที่น่าจับตาว่าการแข่งขันในสมรภูมิ Food Delivery ของประเทศไทยจะดำเนินต่อไปอย่างไร และนโยบายของภาครัฐจะสามารถสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้มากน้อยเพียงใดในอนาคต 

ผู้เขียน

นางสาวจินต์ศุจี มณฑิราลัยพร

 

ที่มา

https://www.posttoday.com/business/710520 

https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/Food-Delivery-cis3452-FB-2023-02-02.aspx 

https://techsauce.co/news/thailand-food-delivery-market-2024#:~:text=%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%20Food%20Delivery%20%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%94,kasikornresearch 

https://www.facebook.com/thestandardwealth/videos/2766491230181237 

https://www.mckinsey.com/industries/technology-media-and-telecommunications/our-insights/ordering-in-the-rapid-evolution-of-food-delivery 

https://www.thansettakij.com/business/economy/600219 

RECOMMEND

read more
30.09.2024 137

วัฒนธรรมกินเจ กับตลาดโปรตีนทางเลือก (Alternative Protein)

เทศกาลกินเจปีนี้ตรงกับช่วงวันที่ 3 ต.ค. – 11 ต.ค. 2567 เป็นระยะเวลา 9 วัน ที่คนไทยจำนวนหนึ่งเลือกที่จะ “กินเจ” คืองดบริโภคเนื้อสัตว์ โดยกินเจมีวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ทั้งกินเจเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น, กินเจเพื่อทำบุญ และกินเจเพื่อละเว้นกรรม (ที่เกิดจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต) โดยประมาณการ เม็ดเงินค่าใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ช่วงเทศกาลกินเจน่าจะมีมูลค่าหลายพันล้านบาท อย่างไรก็ตาม นอกจากเทศกาลกินเจที่เกิดขึ้นแล้วจบในช่วงไม่กี่วันในหนึ่งปี เรายังมีไลฟ์สไตล์การงดบริโภคเนื้อสัตว์ที่กินประจำตลอดทั้งปี โดยมีหลากหลายชื่อเรียก ไม่ว่าจะเป็น กินเจ (ที่กินได้หลายแบบ) กินมังสวิรัติ กินแบบวีแกน เหล่านี้มีข้อบังคับการกินที่แตกต่างกันไป ข้อมูลจากชุดข้อมูลวิจัยเทรนด์ Future Food Business Trends 2025 โดยศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซ็ปต์แห่งอนาคต บารามีซี่ แล็บ มีข้อมูลว่า มีคนไทยไม่กินเนื้อสัตว์ 7.8% ของประชากรทั้งหมด จากข้อมูลตลาดดังกล่าวทำให้มองเห็นโอกาสของธุรกิจโปรตีนทางเลือก (Alternative Protein) คือการกินโปรตีนทางเลือกเข้ามาแทนโปรตีนแบบดั้งเดิมที่ผลิตจากระบบปศุสัตว์ ซึ่งอาจประกอบไปด้วยโปรตีนจากพืช เช่น ถั่ว […]

read more
18.09.2024 107

อุตสาหกรรมเกมขาขึ้น กับโอกาสของประเทศไทย

ในช่วงไม่นานมานี้ คอเกมส์น่าจะกำลังเพลิดเพลินอยู่กับเกมส์ Black Myth: Wukong เกม Action RPG ฟอร์มยักษ์ที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมคลาสสิคชื่อดังของจีน “ไซอิ๋ว” (Journey to the West)  ล่าสุด ทา Stream DBได้ระบุว่า Black Myth: Wukong กวาดยอดผู้เล่นได้กว่า 1 ล้านคน หลังเปิดให้เล่นภายในระยะเวลาเพียง 30 กว่านาที ถือว่าได้รับความนิยมสูง ตอกย้ำกระแสและความน่าสนใจของเกมนี้ได้เป็นอย่างดี ตลาดเกมส์ทั่วโลกกำลังเติบโต 2.1% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ตลาดเกมส์จะสร้างรายได้ 187.7 พันล้าน $ ในปี 2024 โดยเกมส์คอมพิวเตอร์มีมูลค่า 43.2 พันล้าน $ มีสัดส่วนที่ 23% เกมส์จากเครื่องเล่นเกมส์ (Console) 51.98 พันล้าน $ ด้วยสัดส่วน 28%  ในขณะที่เกมส์มือถือขนาด 92.6 พันล้าน $  กินส่วนแบ่ง 49% อีกหนึ่งสัญญาณที่เป็นตัวชี้วัดการเติบโตของอุตสาหกรรมเกม คือ ‘โพนี่ หม่า’ ซีอีโอ ‘เทนเซ็นต์’ คืนบัลลังก์ ‘มหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง’ ของจีนอีกครั้ง! ด้วยทรัพย์สินสุทธิสูงถึง 44,000 ล้านดอลลาร์ (มั่งคั่ง 1.4 ล้านล้านบาท) แซงหน้า “จงซานซาน” เจ้าของแบรนด์น้ำแร่ หนงฟู่ (Nongfu Spring) ที่หล่นไปอยู่ดันดับ 2 ซึ่งปัจจัยหนึ่งคือ […]

Baramizi Lab
read more
17.09.2024 246

อนาคตของอุตสาหกรรมเนื้อหมู: แนวโน้มและโอกาสที่น่าตื่นเต้น

ในปี 2025 อุตสาหกรรมปศุสัตว์จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะในวงการเนื้อหมู ซึ่งเป็นผลมาจากการวิจัยร่วมกันระหว่าง Baramizi Lab และ Zoetis บริษัทเวชภัณฑ์สัตว์ระดับโลก การวิจัยนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้อุตสาหกรรมอาหารเติบโต แต่ยังเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการสร้างแบรนด์สำหรับธุรกิจสินค้าเกษตรและสินค้าแปรรูปจากเนื้อหมูอีกด้วย 1. ผู้บริโภคทานเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น อุตสาหกรรมเนื้อหมูจึงต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง เช่น เนื้อหมูที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และมีสารอาหารอย่างโอเมกา 3 ตัวอย่างเช่น ไส้กรอกโอเมกา 3 จาก Wampler’s farm ที่ช่วยเพิ่มคุณค่าด้วยกรดไขมันโอเมกา 3 ของ DHA และ EPA ซึ่งสนับสนุนการพัฒนาของหัวใจและสมอง หรือแพลตฟอร์ม Hakko Hub ที่สนับสนุนการหมักเนื้อสัตว์ ทำให้เนื้อสัตว์ย่อยง่ายขึ้น และเพิ่มความเข้มข้นของวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินบี และธาตุเหล็ก 2. ผู้บริโภคทานเพื่อรับประสบการณ์แปลกใหม่ รสชาติและรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่กำลังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค วงการอาหารจึงพัฒนาสินค้าและประสบการณ์ให้ครอบคลุมชีวิตประจำวันมากขึ้น เช่น ก […]

Superfansindex.com
read more
13.09.2024 293

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแบรนด์เราสุขภาพดีแค่ไหน?

ในหลายๆ ธุรกิจมักจะนึกถึงยอดขายที่จะทำให้รู้สึกว่าแบรนด์เรายังมีลูกค้าซึ่งก็ส่งผลต่อสุขภาพของแบรนด์ได้เช่นเดียวกัน แต่แท้ที่จริงแล้วแบรนด์คุณอาจจะสุขภาพไม่ดีก็ได้ เหมือนร่างกายคนถ้าไม่ไปตรวจสุขภาพเราก็จะไม่รู้ว่าข้างในร่างกายเป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่ภายนอกเรายังรู้สึกปกติอยู่  เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเกิดปัญหา และอาจส่งผลให้ปัญหานั้นลามใหญ่โตซึ่งต้องใช้ทั้งเงินและเวลาในการแก้ไข การวิจัยตรวจสอบสุขภาพแบรนด์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่แบรนด์ควรจะทำอย่างต่อเนื่อง เปรียบเหมือนการเอ๊กซเรย์แบรนด์…เพราะหากรู้ก่อนย่อมสามารถแก้ปัญหาได้เร็วกว่า จากภาพข้างต้นหากทุกแท่งมีฐานที่กว้าง การันตีได้เลยว่าแบรนด์คุณสุขภาพดี เพราะการลงงบไปกับสื่อหรือการสร้างประสบการณ์นั้นสามารถได้ใจลูกค้าจนเกิดความเป็น Superfans ได้ (ความเป็น Superfans ของแบรนด์ คือ ขั้นสุดที่แบรนด์ควรไปให้ถึงและเก็บให้ได้มากที่สุด หรือที่เราเรียกว่า สาวกของแบรนด์)  รูปแบบการตรวสอบสุขภาพแบรนด์  โดยทั่วไปสามารถพบได้ 3 รูปแบบ 1.การวิจัยเพื่อตรวจสอบรายปี  เหมาะสำหรับแบรนด์/ องค์กรที่มีการลงงบการตลาด การทำแคมเปญต่างๆ ในช่วงระหว่างปี เพื่อให้เราสามารถรู้ได้ว่ารู […]

read more
11.09.2024 277

ตลาด Sustainable Fashion กับการเติบโต 22.9% ต่อปี

Sustainable Fashion หรือ แฟชั่นแบบยั่งยืนที่เคยเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ในอุตสาหกรรมแฟชั่นโดยรวม กำลังได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วเนื่องจากผู้บริโภคตระหนักถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและจริยธรรมมากขึ้น ในปี 2024 ตลาดแฟชั่นยั่งยืนระดับโลกมีมูลค่า 8.1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตถึง 33.1 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2033 ด้วยอัตรา CAGR 22.9% ในช่วงคาดการณ์ปี 2024 – 2033 แม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แต่ผลกระทบของแฟชั่นยั่งยืนกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากแบรนด์และผู้ค้าปลีกรายใหญ่ต่างนำแนวทางการปฏิบัติที่ยั่งยืนเข้ามาใช้ในธุรกิจของตน การเพิ่มขึ้นของแบรนด์แฟชั่นยั่งยืน ร่วมกับการนำโครงการริเริ่มสีเขียวมาใช้โดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นแล้ว กำลังผลักดันตลาดให้ก้าวไปข้างหน้า พร้อมแรงหนุนจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม อุตสาหกรรมแฟชั่นยั่งยืนมีโอกาสอีกมากมาย เช่น ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคที่ต้องการความโปร่งใสในกระบวนการผลิตและการจัดหาวั […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง