Baramizi Lab logo

Generative AI plugin with App & Gadget เสริมความแกร่งให้แอปและอุปกรณ์ด้วยปัญญาประดิษฐ์

Generative AI plugin with App & Gadget เสริมความแกร่งให้แอปและอุปกรณ์ด้วยปัญญาประดิษฐ์

Generative AI เครื่องมือของคนยุคใหม่

Generative Artificial Intelligent หรือ Generative AI คือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อสร้างเนื้อหาใหม่ เช่น รูปภาพ ข้อความ เสียง หรือวิดิโอ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับเนื้อหาจากชุดข้อมูลเดิมที่กำหนด ทำงานโดยการเรียนรู้รูปแบบและความสัมพันธ์ในอินพุต จากนั้นจึงใช้ความรู้นี้เพื่อสร้างตัวอย่างข้อมูลใหม่ขึ้นมา ในช่วงที่ผ่านมาเรียกว่า Generative AI กำลังเป็นน่านน้ำใหม่ที่จะพลิกโฉมวิธีการทำงานในหลายสายงาน สามารถย่นย่อระยะเวลาการทำงาน หรือการศึกษาข้อมูลได้ดี ทำได้ง่ายเพียงแค่เราป้อนคำถาม หรือ Prompt ข้อมูลเพื่อเป็น Input ใส่เข้าไป ตัวระบบก็จะประมวลผลคำตอบออกมาให้อย่างกระชับ ตรงประเด็น เข้าใจได้ง่าย และใช้งานได้จริง Generative AI ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานมาก จึงทำให้เกิดการแข่งขันอย่างแพร่หลาย มีผู้เล่นเข้ามาในตลาดมากมาย ด้วยการแข่งขันที่สูงก็ได้ช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปให้ไกลกว่าเดิม นอกเหนือจาก ณ ปัจจุบันที่เป็นลักษณะ Chat Bot ถาม- ตอบ  หรือโปรแกรมสร้างภาพและวีดีโอขึ้นใหม่ Generative AI กำลังเข้าไปเสริมพลังให้กับ Application หรือ Gadget หลายตัวให้อัจฉริยะมากขึ้น

Apple Intelligence การร่วมมือกันของ Apple และ OpenAI

ล่าสุด Apple Intelligence นวัตกรรม AI ล่าสุดของ Apple ได้เปิดตัวชุดเครื่องมือการเขียนขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการสื่อสารของผู้ใช้ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ เครื่องมือเหล่านี้ใช้ความสามารถด้านภาษาที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อมอบคุณสมบัติต่างๆ เช่น สรุปการบรรยายแบบทันที ย่อบทสนทนากลุ่มยาวและจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนเพื่อลดสิ่งรบกวนสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นการพิสูจน์อักษรข้อความหรือการสรุปเนื้อหาด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว เครื่องมือการเขียนยังรวมอยู่ในแอพต่างๆ อีกด้วย Apple Intelligence ยังปรับปรุง Siri ด้วยความเข้าใจภาษาที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และด้วยฟังก์ชันใหม่ๆ เช่น การพิมพ์ไปยัง Siri ที่เปิดตลอดเวลา 

ทั้งนี้ Apple ให้ความเป็นส่วนตัวยังคงเป็นรากฐานที่สำคัญ โดยการประมวลผลบนอุปกรณ์ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่หลุดไปไหน แม้ว่า Apple Intelligence จะเป็นการร่วมมือและใช้ประโยชน์จาก ChatGPT ของ OpenAI สำหรับงานต่างๆ เช่น การแสดงภาพหรือการสืบค้นเอกสาร ความก้าวหน้าเหล่านี้แสดงถึงการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านประสบการณ์ผู้ใช้ ด้วยการนำเสนอเครื่องมือสื่อสารที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้มากขึ้นและขยายขีดความสามารถทั่วทั้งระบบของ Apple โดยสามารถให้บริการได้บน iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max และ iPad กับ Mac ที่มีชิป M1 เป็นต้นไป

การร่วมมือกันของ Grab กับ OpenAI

Grab Holdings บริษัทสตาร์ทอัพยูนิคอร์นสิงค์โปร์ได้ประกาศความร่วมมือกับ OpenAI ผู้พัฒนา Chat GPT ในการนำเทคโนโลยี Generative AI เข้ามาใช้ในแอพลิเคชั่นของ Grab ที่ครอบคลุมบริการสั่งอาหาร จองรถ ส่งของ ไปจนถึงบริการทางการเงิน ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการร่วมมือครั้งแรกที่ OpenAI เข้ามาบุกธุรกิจในอาเซียน Grab ได้แถลงถึงการนำนวัตกรรมด้านข้อความและคำสั่งเสียงเข้ามาทำงานร่วมกับแอพลิเคชั่นเพื่อให้ผู้ใช้งานใช้ได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุและผู้พิการ พร้อมหาช่องทางในการใช้ AI กับแชทบอตของแพลตฟอร์มในระบบ Customer Support ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น นอกจากการปรับปรุงคุณภาพฟีเจอร์ข้อความและคำสั่งเสียง Grab ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าจะนำเทคโนโลยีการระบุภาพจาก OpenAI เข้ามาพัฒนาแผนที่ของ GrabMaps เพื่อให้การอัปเดตสถานะของไรเดอร์ทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

ปัจจุบัน Grab มีผู้ใช้งานราว 40 ล้านคนที่ใช้งานบนแพลตฟอร์มในแต่ละเดือนใน 8 ประเทศอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไทย กัมพูชาและพม่า  และบริษัทก็ใช้ AI มาระยะหนึ่งแล้วในการค้นหาไรเดอร์ที่อยู่ใกล้ลูกค้าที่สุด หาเส้นทางที่ประหยัดเวลามากที่สุด ไปจนถึงแปลเมนูอาหารท้องถิ่นเป็นภาษาอังกฤษและจีน หากมองกลับกันในฝั่งของ OpenAI การร่วมมือกันครั้งนี้น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ช่วยให้ ChatGPT มีความสามารถในการเข้าใจภาษาในประเทศอาเซียนมากขึ้น

นอกเหนือจากที่กล่าวไปข้างต้น ยังมีการร่วมมือกันระหว่าง AI และบริษัทอื่นอีกหลายเจ้า ยกตัวอย่างเช่น

Microsoft : บริษัทได้รวมโมเดลภาษาของ OpenAI ซึ่งรวมถึง ChatGPT เข้ากับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น บริการ Microsoft Office และ Azure AI การบูรณาการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและแอปพลิเคชันการบริการลูกค้าด้วยความสามารถ AI การสนทนาขั้นสูง

Zoom : ได้มีการร่วมมือกับทั้ง OpenAI และบริษัท AI อื่นๆ เพื่อปรับปรุงการประชุมเสมือนจริงและปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ การทำงานร่วมกันนี้เกี่ยวข้องกับการบูรณาการ AI สำหรับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ การถอดเสียงการประชุม และความช่วยเหลือที่ขับเคลื่อนโดย AI ในระหว่างแฮงเอาท์วิดีโอ

Samsung : Gemini Pro บน Vertex AI ช่วยให้ Samsung มีคุณสมบัติที่สำคัญของ Google Cloud รวมถึงความปลอดภัย ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการปฏิบัติตามข้อกำหนดของข้อมูล ผู้ใช้ Galaxy S24 series ยังสามารถได้รับประโยชน์ทันทีจาก Imagen 2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการแพร่กระจายข้อความเป็นภาพที่ล้ำสมัยที่สุดของ Google จาก Google DeepMind จนถึงปัจจุบัน

แนวโน้มของ Generative AI ในอนาคต

เทคโนโลยีปัจจุบันสนับสนุน Generative AI ให้มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้การทำงานของง่ายขึ้น และลดเวลาการทำงานลง ต้องขอบคุณการลงทุนจำนวนมหาศาลจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่และห้องปฏิบัติการวิจัย จากการวิเคราะห์ของ Gartner ได้มีการแบ่งวิวัฒนาการของ AI ไว้สามปี ตั้งแต่ปี 2569-2571

  • ปี 2569

ธุรกิจกว่า 75% จะใช้ AI เพื่อสร้างข้อมูลลูกค้าสังเคราะห์เพิ่มขึ้นจากที่มีน้อยกว่า 5% ในปี 2566 การสร้างข้อมูลสังเคราะห์ในการเติบโตของธุรกิจ ช่วยให้องค์กรสามารถจำลองสภาพแวดล้อมและระบุโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ พัฒนากลุ่มลูกค้า การเดินทางและประสบการณ์ของลูกค้า

  • ปี 2570

GenAI มากกว่า 50% ที่องค์กรต่างๆ ใช้จะเป็นโมเดลเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมหรือฟังก์ชั่นทางธุรกิจเพิ่มขึ้นจากประมาณ 1% ในปี 2566 เพราะความต้องการ GenAI ได้เพิ่มขึ้นในหลายภาคส่วน 

  • ปี 2571

การใช้งาน GenAI 30% จะได้รับการปรับให้เหมาะสมโดยใช้วิธีคำนวณแบบอนุรักษ์พลังงานซึ่งได้รับการสนับสนุนจากความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืน เนื่องจากการนำเครื่องมือ Generative AI มาใช้อย่างรวดเร็วทำให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ต้องมีการหาพลังงานทดแทนและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับทั้งบริการภายในองค์กรและบริการคลาวด์จะได้รับการปรับแต่งสำหรับ AI

นอกจากนี้การใช้จ่ายด้านปัญญาประดิษฐ์ในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการมีมูลค่ารวมประมาณ 200 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ตามรายงานของ Grand View Research แต่ตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 820% เกินกว่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตลาด AI คาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 37% ต่อปีจนถึงสิ้นทศวรรษนี้

โดยรวมแล้ว อนาคตของ AI จะทั้งน่าตื่นเต้นและท้าทาย ด้วยเทคโนโลยี AI ที่กำหนดวิถีชีวิต ทำงาน และโต้ตอบกับโลกรอบตัวเรา ในขณะที่ AI มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแน่ใจว่าการพัฒนานั้นเป็นไปตามหลักจริยธรรม ความโปร่งใส และความมุ่งมั่นในการสร้างประโยชน์ให้กับมนุษยชาติ

ผู้เขียน

นางสาวจินต์ศุจี มณฑิราลัยพร

ที่มา

https://www.businesstoday.in/technology/news/story/apple-nears-deal-with-openai-to-put-chatgpt-on-iphone-report-429178-2024-05-11 

https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-05-11/apple-closes-in-on-deal-with-openai-to-put-chatgpt-on-iphonehttps://www.facebook.com/share/p/gT6PFLPLpVB1MzXT/

https://www.standard.co.uk/news/tech/apple-deal-openai-chatgpt-iphone-b1157470.html 

https://thestandard.co/grab-coperate-openai-by-using-ai/ 

https://thestandard.co/grab-coperate-openai-by-using-ai/ 

https://www.gartner.com/en/articles/3-bold-and-actionable-predictions-for-the-future-of-genai#:~:text=By%202026%2C%2075%25%20of%20businesses,less%20than%205%25%20in%202023

https://finance.yahoo.com/news/artificial-intelligence-ai-market-could-094500916.html 

https://thestandard.co/wealth-in-depth-apple-intelligence/ 

 

RECOMMEND

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย
read more
05.12.2025 244

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย

ตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยปี 2026 กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี AI พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความคาดหวังด้านความรวดเร็วและความเป็นส่วนตัวที่สูงขึ้น ประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 65.4 ล้านคน (91% ของประชากร) และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 56.6 ล้านคน (79.1% ของประชากร) โดยค่าใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลคาดว่าจะแตะ 34.5 พันล้านบาท (+10% YoY)​ บมความนี้สรุป 10 เทรนด์หลักที่นักการตลาดไทยต้องเข้าใจและปรับตัวให้ทันในปี 2026 ตั้งแต่การใช้ AI แบบ Agentic, การตลาดผ่าน Social Commerce, ไปจนถึงความสำคัญของ Sustainability และ Omnichannel Experience โดยแต่ละเทรนด์จะมีผลกระทบโดยตรงต่อกลยุทธ์การตลาดและการลงทุนของธุรกิจไทยในปีหน้า 1. Agentic AI Marketing: จาก Generative AI สู่ AI ผู้ช่วยที่แท้จริง ปี 2026 เป็นปีที่ AI จะก้าวจากเครื่องมือสร้างคอนเทนต์ (Generative AI) ไปสู่ “Agentic AI” ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างอัตโนมัติและชาญฉลาด AI ในปี 2026 จะไม่ใช่แค่ตอบคำถามหรือสร้างภาพ แต่จะสามารถวางแผนแคมเปญ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ปรับกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ และดำเนินการตั […]

NEO Luxury Trend
read more
02.12.2025 103

NEO Luxury Trend
ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่แค่สิ่งของ
แต่คือประสบการณ์

ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่ “ของ” แต่คือ “ประสบการณ์ คุณค่า และความหมาย” โลกของ Luxury กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในปี 2025 ไม่ได้ถูกนิยามด้วยโลโก้หรือสัญลักษณ์สถานะอีกต่อไป แต่สะท้อนถึงความ เข้าใจตัวตน คุณค่าชีวิต และความตั้งใจในการเลือกบริโภค (Intentional Consumption) มากกว่าที่เคย ผู้บริโภคกลุ่ม Luxury โดยเฉพาะ Millennials และ Gen Z ไม่ได้มองความหรูในฐานะการแสดงความมั่งคั่ง แต่มองว่า Luxury คือ “คุณภาพของชีวิต” และ “ประสบการณ์ที่มีความหมาย” ที่พวกเขาเลือกลงทุนอย่างตั้งใจ ทำให้เกิดแนวคิด NEO Luxury – New Luxury Paradigm ที่ผสมผสานความยั่งยืน เทคโนโลยี ประสบการณ์เฉพาะบุคคล และหัตถศิลป์เข้าด้วยกัน บทความนี้จะพาไปสำรวจ 5 หลักการสำคัญที่กำลังกำหนดความหมายใหม่ของ Luxury ในปี 2025 1. Quiet Luxury: ความหรูหราแบบเงียบ ๆ ที่ซ่อนความเข้าใจลึกซึ้งในคุณภาพ Quiet Luxury กลายเป็นตัวแทนของความหรูยุคนี้อย่างแท้จริง เพราะผู้บริโภคไม่ได้ต้องการประกาศความร่ำรวย แต่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง ใช้งานได้นาน และบ่งบอกตัวตนกับคนที่ “เข้าใจจริง” ลักษณะเด่นของ Quiet Luxury คุณภาพเหนือปริมาณ: เลือกสินค้าชิ้นสำคัญแทนกา […]

read more
19.11.2025 728

ความมืดเริ่มเป็นความงามใหม่

สำรวจ ‘ความมืด’ ในฐานะเฉดใหม่ของการออกแบบโลกประสบการณ์ ในอดีต “ความมืด” มักถูกผูกกับภาพของความกลัว, ภัยอันตราย หรือสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ในยุคที่ผู้คนเริ่มโหยหาความสงบ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ และประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน “ความมืด” กำลังถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นทรัพยากรทางวัฒนธรรมและทางธุรกิจที่ทรงพลัง กรอบคิดว่าด้วยการใช้ความมืดเป็นแกนกลางในการออกแบบประสบการณ์และรูปแบบธุรกิจ (Dark Experience) Dark Experience คือแนวคิดของธุรกิจที่ใช้ “ความมืด” เป็นหัวใจของการออกแบบประสบการณ์ ไม่ใช่เพื่อทำให้ผู้คนหวาดกลัว แต่เพื่อ “มองเห็น” สิ่งที่สำคัญกว่าเดิม ทั้งตัวเอง ธรรมชาติ และเรื่องราวที่เคยถูกกลบอยู่ในเงามืดของสังคม สาระสำคัญของ Dark Experience Business คือการใช้ความมืดเป็น “เครื่องมือในการออกแบบประสบการณ์” แทนที่จะใช้แสงและสิ่งเร้าเข้มข้นแบบที่ธุรกิจยุคก่อนมักใช้ดึงความสนใจผู้บริโภค สังคมปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหา Overstimulation อย่างหนัก ทั้งจากแสงไฟ เมือง 24 ชั่วโมง และหน้าจอที่อยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา ทำให้สมองแทบไม่เคยได้พักจากการประมวลผล สิ่งต่างๆ เหล่านี้สะสมเป็นความล้าโดยไม่รู้ตัว […]

read more
21.11.2025 624

7 Key Economic Trends จาก The Standard Economic Forum 2025

งาน The Standard Economic Forum 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5–7 พฤศจิกายน 2568 ในธีม “Thailand’s Next Frontier” รวบรวมผู้นำระดับโลก นักเศรษฐศาสตร์ และผู้กำหนดนโยบายกว่า 100 คน เพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจไทย ภายในงานมีการเน้น 3 ความท้าทายหลัก (3D Challenges) ก่อนเข้าสู่เทรนด์เฉพาะทาง ได้แก่ 3D Challenges ก่อนที่จะเจาะลึกในเทรนด์เฉพาะ มาทำความเข้าใจภาพรวมที่กว้างขึ้นก่อน ผู้นำธุรกิจไทยได้ระบุถึง “3 ความท้าทาย Digitalization (การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล) เทคโนโลยีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นรากฐานของการแข่งขัน เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนคิดเป็น 15.5% ของ GDP โลกแล้ว โดย 70% ของมูลค่าใหม่ทั่วโลกคาดว่าจะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มดิจิทัลในทศวรรษหน้า Deglobalization (การทวนกระแสโลกาภิวัตน์)  โลกกำลังแตกออกเป็นส่วนๆ จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ จีน และพันธมิตร ไทยต้องวางตำแหน่งตัวเองใน “จุดยืนที่เป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์” (Geopolitical Neutral Position) และ “ผู้สร้างสมดุลอย่างสร้างสรรค์” (Creative Balancer) เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ […]

read more
03.11.2025 690

“Gartner” เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมธุรกิจปี 2569

ในปี 2569 จะเป็นปีที่สำคัญต่อผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ต้องเผชิญกับการหยุดชะงัก นวัตกรรม ไปจนถึงความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน เทรนด์เทคโนโลยีทั้งหมดในปีหน้าจะเชื่อมโยงกับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-driven world) และเชื่อมต่อกัน ตลอดเวลา ซึ่งองค์กรธุรกิจต้องขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ ดำเนินงานด้วยความเป็นเลิศ และสร้างความไว้วางใจทางดิจิทัลไปพร้อมกัน ผู้นำองค์กรต้องเผชิญกับ การหยุดชะงัก (Disruption) นวัตกรรม และความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็ว 10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญแห่งปี 2569 1. AI Supercomputing Platforms  AI Supercomputing Platforms (แพลตฟอร์ม AI ซูเปอร์คอมพิวติ้ง) เป็นการรวมพลังของ CPU, GPU, ชิป AI ASICs และการประมวลผลแบบนิวโรมอร์ฟิก (จำลองสมองมนุษย์) ช่วยให้องค์กรจัดการงานที่ซับซ้อนมหาศาล ปลดล็อกประสิทธิภาพและนวัตกรรม ต้องอาศัย Orchestration Software เพื่อจัดการเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนโดยอัตโนมัติ คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 องค์กรชั้นนำ 40% จะใช้สถาปัตยกรรม Hybrid Computing (เพิ่มจาก 8% ในปัจจุบัน) ตัวอย่างการใช้งาน: คิดค้นยาใหม่ในไม่กี่สัปดาห์ (แทนที่จะใช้เวลาหลายป […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง