Baramizi Lab logo

ระดับความสุขของคนทั้งโลก โดย Gallup World Poll

ระดับความสุขของคนทั้งโลก โดย Gallup World Poll

 

Gallup World Poll ได้มีการสำรวจผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 1,000 คนในเกือบทุกประเทศในประเด็นต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการประเมินชีวิตปัจจุบันในระดับตั้งแต่ 0-10 โดยรายงานความสุขโลกจะเฉลี่ยคะแนนจากการประเมินชีวิตต่อประเทศในช่วงระยะเวลาสามปี (ปี 2564-2566)

ประเทศที่มีความสุขที่สุด 3 อันดับแรก นำโดยประเทศฟินแลนด์ เดนมาร์ก และไอซ์แลนด์ ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักนับตั้งแต่การสำรวจในปี 2023 ประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งอยู่ในอันดับสุดท้ายของคะแนน มีความสุขต่ำที่สุดจากระดับ 1.7 และเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่ติด 10 อันดับแรกของประเทศที่มีค่าเฉลี่ยความสุขน้อยที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศในแอฟริกา

ทวีปอเมริกากลาง และอเมริกาเหนือ

ประเทศคอสตาริกาอยู่ในอันดับที่ 12 เป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในอเมริกาเหนือและอเมริกากลาง โดยเอาชนะแคนาดาด้วยคะแนน 0.1 หรือสามอันดับ

รายงานดังกล่าวเน้นย้ำถึงปรากฏการณ์ที่น่าสนใจสำหรับสองประเทศที่มีเศรษฐกิจพัฒนาแล้วมากที่สุดในภูมิภาค ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 23) และแคนาดา (อันดับที่ 15) ซึ่งผู้สูงวัยมีความสุขมากกว่าคนหนุ่มสาวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นรูปแบบที่เห็นได้ในยุโรปนอร์ดิกเช่นกัน

สาธารณรัฐโดมินิกันยังคงเป็นประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในภูมิภาค แต่ก็น่าสังเกตว่ายังคงมีความสุขมากกว่าประเทศอื่นๆ ในชุดข้อมูลมากกว่าครึ่งหนึ่ง

ทวีปอเมริกาใต้

ประเทศอุรุกวัยอยู่ในอันดับที่ 26 ซึ่งเป็นผู้นำประเทศที่มีความสุขที่สุดในอเมริกาใต้และอยู่ในอันดับที่ 5 ที่มีความสุขที่สุดในทวีปอเมริกา ในขณะที่ประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 79 เป็นประเทศที่ไม่มีความสุขที่สุดในอเมริกาใต้ แม้ว่าจะไต่ขึ้นมามากกว่า 29 อันดับในสองฉบับล่าสุดก็ตาม

ทวีปยุโรป

นอกเหนือจากการจัดอันดับความสุขอันดับต้นๆ ของประเทศในยุโรปขนาดเล็กที่ร่ำรวยแล้ว รายงานยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าทวีปนี้กำลังมองเห็นการบรรจบกันของระดับความสุขระหว่างยุโรปกลางและตะวันออกและยุโรปตะวันตก ซึ่งเป็นช่วงที่ยุโรปตะวันตกมีความสุขมากขึ้นในทศวรรษก่อนๆ

ประเทศยูเครนซึ่งขณะนี้ใช้เวลาสองปีเต็มในการต่อสู้กับการรุกรานของประเทศรัสเซีย จึงทำให้กลายเป็นประเทศที่ไม่มีความสุขที่สุดในยุโรป โดยอยู่ในอันดับที่ 105 

ทวีป ตะวันออกกลางและเอเชียกลาง

ในตะวันออกกลางและเอเชียกลาง ประเทศอิสราเอลอยู่ในอันดับที่ 5 เป็นผู้นำระดับความสุขของภูมิภาคโดยตำแหน่งลดลงหนึ่งอันดับนับตั้งแต่ปี 2023

รายงานตั้งข้อสังเกตว่าการสำรวจของ Gallup ในอิสราเอลเกิดขึ้นหลังวันที่ 7 ตุลาคม ก่อนสงครามจะตามมา ดังนั้นการประเมินชีวิตจึงลดลง 0.9 ในปีนี้ ซึ่งมีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่ส่งผลต่อคะแนนรวมสุดท้าย อย่างไรก็ตาม การสำรวจในประเทศปาเลสไตน์ (อันดับที่ 103 ของโลก) เกิดขึ้นเมื่อต้นปีก่อนวันที่ 7 ตุลาคม

ในเอเชียกลาง ความสุขของคนในประเทศอัฟกานิสถานไม่เพียงแต่วัดได้ต่ำที่สุดในโลกเท่านั้น แต่คะแนนยังลดลงครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งเรียกได้ว่าแย่ที่สุดในบรรดาประเทศทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกัน

ทวีปเอเชียตะวันออก และโอเชียเนีย

ขณะเดียวกันประเทศโซนเอเชียใต้และตะวันออก ประเทศสิงคโปร์ (อันดับที่ 30) และไต้หวัน (อันดับที่ 31) แซงหน้าประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอย่างประเทศจีน (อันดับที่ 60) ญี่ปุ่น (อันดับที่ 51) และอินเดีย (อันดับที่ 126) ในเรื่องระดับความสุขของคนในประเทศ

โดยประเทศไทยนั้นได้ค่าเฉลี่ยความสุขอยู่ที่ 6.0 (อันดับที่ 58) เท่ากับประเทศเพื่อนบ้านบางส่วนอย่างประเทศมาเลเซีย เวียดนามและฟิลิปปินส์ ทั้งยังสูงเป็นอันดับที่ 9 หากวัดกันแค่ภายในทวีปเอเชียเท่านั้น 

แถบโอเชียเนียนั้น ประเทศออสเตรเลีย (อันดับที่ 10) และนิวซีแลนด์ (อันดับที่ 11) การกระจายความสุขสะท้อนให้เห็นถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา และกลุ่มนอร์ดิก โดยที่ผู้สูงวัยมีความสุขมากกว่าคนหนุ่มสาวเป็นอย่างมาก

ทวีปแอฟริกา

ทวีปแอฟริกาที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก คิดเป็น 9 ประเทศจาก 10 ประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลก โดยหลายประเทศกระจุกตัวอยู่รอบเกรตเลกส์ของแอฟริกา ประเทศเลโซโทเป็นประเทศที่ไม่มีความสุขที่สุดในแอฟริกาและแย่ที่สุดเป็นอันดับสาม ผู้อยู่อาศัยในประเทศนี้มักอพยพไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างแอฟริกาใต้ ทั้งเพื่อค้นหาโอกาสและหลบหนีความไม่มั่นคงทางอาหารอย่างต่อเนื่องจากภัยแล้งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก

ในทางกลับกัน ประเทศลิเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในแอฟริกา ได้เห็นการฟื้นตัวของเสถียรภาพทางการเมืองเมื่อเร็วๆ นี้ สงครามกลางเมืองครั้งที่สองของประเทศสิ้นสุดลงในปี 2563 และเมื่อเร็ว ๆ นี้ 3 ฝ่ายปกครองหลักได้ตกลงร่วมกันเกี่ยวกับกรอบการทำงานสำหรับรัฐบาลที่เป็นเอกภาพ

ภาพ : Visual Capitalist

ที่มา : Gallup World Poll

เรียบเรียง : จินต์ศุจี มณฑิราลัยพร

 

RECOMMEND

Superfansindex.com
read more
13.09.2024 33

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแบรนด์เราสุขภาพดีแค่ไหน?

ในหลายๆ ธุรกิจมักจะนึกถึงยอดขายที่จะทำให้รู้สึกว่าแบรนด์เรายังมีลูกค้าซึ่งก็ส่งผลต่อสุขภาพของแบรนด์ได้เช่นเดียวกัน แต่แท้ที่จริงแล้วแบรนด์คุณอาจจะสุขภาพไม่ดีก็ได้ เหมือนร่างกายคนถ้าไม่ไปตรวจสุขภาพเราก็จะไม่รู้ว่าข้างในร่างกายเป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่ภายนอกเรายังรู้สึกปกติอยู่  เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเกิดปัญหา และอาจส่งผลให้ปัญหานั้นลามใหญ่โตซึ่งต้องใช้ทั้งเงินและเวลาในการแก้ไข การวิจัยตรวจสอบสุขภาพแบรนด์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่แบรนด์ควรจะทำอย่างต่อเนื่อง เปรียบเหมือนการเอ๊กซเรย์แบรนด์…เพราะหากรู้ก่อนย่อมสามารถแก้ปัญหาได้เร็วกว่า จากภาพข้างต้นหากทุกแท่งมีฐานที่กว้าง การันตีได้เลยว่าแบรนด์คุณสุขภาพดี เพราะการลงงบไปกับสื่อหรือการสร้างประสบการณ์นั้นสามารถได้ใจลูกค้าจนเกิดความเป็น Superfans ได้ (ความเป็น Superfans ของแบรนด์ คือ ขั้นสุดที่แบรนด์ควรไปให้ถึงและเก็บให้ได้มากที่สุด หรือที่เราเรียกว่า สาวกของแบรนด์)  รูปแบบการตรวสอบสุขภาพแบรนด์  โดยทั่วไปสามารถพบได้ 3 รูปแบบ 1.การวิจัยเพื่อตรวจสอบรายปี  เหมาะสำหรับแบรนด์/ องค์กรที่มีการลงงบการตลาด การทำแคมเปญต่างๆ ในช่วงระหว่างปี เพื่อให้เราสามารถรู้ได้ว่ารู […]

read more
11.09.2024 39

ตลาด Sustainable Fashion กับการเติบโต 22.9% ต่อปี

Sustainable Fashion หรือ แฟชั่นแบบยั่งยืนที่เคยเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ในอุตสาหกรรมแฟชั่นโดยรวม กำลังได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วเนื่องจากผู้บริโภคตระหนักถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและจริยธรรมมากขึ้น ในปี 2024 ตลาดแฟชั่นยั่งยืนระดับโลกมีมูลค่า 8.1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตถึง 33.1 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2033 ด้วยอัตรา CAGR 22.9% ในช่วงคาดการณ์ปี 2024 – 2033 แม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แต่ผลกระทบของแฟชั่นยั่งยืนกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากแบรนด์และผู้ค้าปลีกรายใหญ่ต่างนำแนวทางการปฏิบัติที่ยั่งยืนเข้ามาใช้ในธุรกิจของตน การเพิ่มขึ้นของแบรนด์แฟชั่นยั่งยืน ร่วมกับการนำโครงการริเริ่มสีเขียวมาใช้โดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นแล้ว กำลังผลักดันตลาดให้ก้าวไปข้างหน้า พร้อมแรงหนุนจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม อุตสาหกรรมแฟชั่นยั่งยืนมีโอกาสอีกมากมาย เช่น ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคที่ต้องการความโปร่งใสในกระบวนการผลิตและการจัดหาวั […]

read more
11.09.2024 61

ทิศทาง Food delivery ทั้งไทยและต่างประเทศ

ตลาด Food Delivery ในไทยปี 2567 ยังมีเทรนด์ที่ลดลงต่อเนื่อง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้มีการประเมินว่าในปี 2567 มูลค่าตลาด Food Delivery จะอยู่ที่ประมาณ 8.6 หมื่นล้านบาท  หรือหดตัว 1.0% จากปี 2566 แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการสั่งอาหารเฉลี่ยต่อครั้งน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น (Price per Order) ประมาณ 2.8% จากค่าเฉลี่ยในปี 2566 หรือ มีราคาเฉลี่ยประมาณ 185 บาทต่อครั้งของการสั่ง ซึ่งจะมีผลตามมาต่อทั้งจำนวนครั้งและปริมาณการสั่งให้ลดลง ปัจจุบัน ตลาด Food Delivery ในหลายประเทศกำลังเผชิญกับแนวโน้มขาลงไม่ต่างจากประเทศไทย แม้ว่าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่น สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเห็นการเติบโตชะลอตัวเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงและต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ส่งผลให้บริการต้องปรับราคาให้สูงขึ้นเพื่อรักษากำไร ขณะที่ในญี่ปุ่น การเพิ่มขึ้นของต้นทุนการจัดส่งและการแข่งขันจากผู้เล่นหลายราย ทำให้บริษัทฟู้ดเดลิเวอรี่ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดและกำไร  การเติบโตของตลาด Food Delivery ทั่วโลก รายได้ในตลาดบริการจัดส่งอาหารออนไลน์คาดว่าจะสูงถึง 1.22 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 แล […]

read more
06.09.2024 121

ตลาด Sustainable Dining กับการเติบโต 6.9% ต่อปี

Sustainable Dining หรือ การรับประทานอาหารอย่างยั่งยืนหมายถึงการเลือกอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีจริยธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม แนวทางการรับประทานอาหารนี้เน้นที่การบริโภคอาหารที่ผลิตและเตรียมในลักษณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่น การรับประทานอาหารอย่างยั่งยืนอาจเกี่ยวข้องกับแนวทางปฏิบัติต่างๆ เช่น การเลือกส่วนผสมจากแหล่งท้องถิ่นและออร์แกนิก การลดขยะอาหาร การเลือกอาหารจากพืชและการสนับสนุนร้านอาหารและธุรกิจที่ยึดมั่นในแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน เป้าหมายหลักคือการสร้างระบบอาหารที่สามารถรักษาคนรุ่นต่อไปได้โดยไม่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติหมดสิ้นหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบนิเวศ โดยมูลค่าตลาดอาหารที่ยั่งยืนมีมูลค่า 1,066.2 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023 และคาดว่าจะถึง 1,945.38 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2032 โดยเติบโตที่อัตรา CAGR 6.91% ตั้งแต่ปี 2024-2032 แนวโน้มเหล่านี้สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวที่กว้างขึ้นสู่ความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งขับเคลื่อนโดยความต้องการของผู้บริโภคและความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เมื่อการรับประทานอาหารที่ยั่งยืนกลายเป็นกระแสหลักมากขึ้น จึงมีศัก […]

read more
06.09.2024 125

Urban Farming การทำเกษตรในเมือง

ในขณะที่เมืองทั่วโลกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ความจำเป็นในการหาแหล่งอาหารที่ยั่งยืนก็มีความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม การทำเกษตรในเมือง ซึ่งเคยเป็นเพียงแค่แนวคิดเล็กๆ กำลังกลายเป็นขบวนการที่ทรงพลังซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการที่เราคิดเกี่ยวกับการผลิตอาหารและการใช้ชีวิตในเมือง โดยการเปลี่ยนหลังคาอาคาร ที่ดินว่างเปล่า หรือแม้แต่ระเบียงเล็กๆ ให้กลายเป็นพื้นที่การเกษตรที่เจริญรุ่งเรือง การทำเกษตรในเมืองเสนอโซลูชั่นใหม่สำหรับการแก้ปัญหาที่สำคัญที่สุดที่เมืองสมัยใหม่กำลังเผชิญ การทำเกษตรในเมืองคืออะไร การทำเกษตรในเมือง หรือ Urban Farming คือ การปลูกอาหารภายในสภาพแวดล้อมของเมือง โดยมักใช้พื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แตกต่างจากการเกษตรแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้พื้นดินในชนบทอย่างกว้างขวาง การทำเกษตรในเมืองสามารถผสมผสานเข้ากับพื้นที่ของเมืองได้ ซึ่งอาจหมายถึงทุกอย่างตั้งแต่สวนชุมชนในที่ดินว่าง ไปจนถึงฟาร์มแนวตั้งบนด้านข้างของอาคารหรือระบบไฮโดรโปนิกส์ในห้องใต้ดิน ประโยชน์ของการทำเกษตรในเมือง ความยั่งยืนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การทำเกษตรในเมืองมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความยั่งยืน การผลิตอาหารในท้องถิ่ […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง