Baramizi Lab logo

Shimmering into the Future 3 เทรนด์น่าจับตาของ ‘เมทัลลิค’ ในแฟชั่น

Shimmering into the Future 3 เทรนด์น่าจับตาของ ‘เมทัลลิค’ ในแฟชั่น

โลกแห่งแฟชั่นที่มีชีวิตชีวา โลหะมีบทบาทสำคัญมายาวนาน เส้นใยโลหะไม่ว่าจะเป็นทองคำ หรือแร่เงินถูกนำมาใช้เป็นองค์ประกอบในถักทอ และเป็นเครื่องประดับ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะพบว่าโลหะเหล่านี้สอดแทรกอยู่ในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก 

โลหะวิทยา (Metallurgy) ในแฟชั่นไม่ใช่เรื่องใหม่ เทรนด์นี้เปิดตัวครั้งแรกในช่วงทศวรรษที่ 1930 เพื่อปรับใช้ในการออกแบบชุดราตรีให้เกิดความระยิบระยับ มีความแตกต่างจากชุดใช้งานทั่วไปในกลางวัน ความแพรวพราวเหล่านี้เป็นตัวแทนของ ความหายาก (Rare), ความพิเศษเฉพาะ (Exclusive) และ ความไม่ธรรมดา (Extraordinary) ในสังคมยุคนั้น 

ในปัจจุบันที่ค่านิยมเปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้าถึงง่ายขึ้น ทำให้วิวัฒนาการการออกแบบกับโลหะต่างๆ มีข้อจำกัดน้อยลง อีกทั้งเส้นแบ่งของโลกดิจิทัลกับชีวิตจริงพร่าเลือนมากขึ้น เกิดเป็นภาษาทางความงามรูปแบบใหม่ๆ เช่น การผสานการออกแบบของปัญญาประดิษฐ์ หรือความงามระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ ในปี 2023 ที่ผ่านมา บทความจากนิตยสาร ELLE ได้กล่าวถึงแนวโน้มการจับคู่สไตล์ความล้ำสมัยของเมทัลลิคกับรูปแบบเสื้อผ้าปกติ มีความฉูดฉาดในรูปลักษณ์ที่คุ้นตา หรือตัวอย่างที่เป็นที่พูดถึงอย่าง ชุดเปิดตัวภาพยนต์เรื่อง DUNE ที่นักแสดงหลักอย่าง Zendaya ได้ใส่ชุดหุ่นยนต์ ‘Thierry Mugler’  จนถึงกระแสไวรัล เครื่องประดับที่หน้าตาแบบเหล็กข้ออ้อยที่ Lisa ใส่ในเพลง ‘Rockstar’

ปฎิเสธไม่ได้ว่าความแวววาวของเเร่เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นจากโลหะทั่วไปจนถึงทองคำ ล้วนคงอยู่กับวงการออกแบบเสื้อผ้า และเครื่องประดับมาอย่างยาวนาน อนาคตของการใช้โลหะในการออกแบบแฟชั่นจะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง  3 แนวโน้มน่าสนใจที่นำไปต่อยอดธุรกิจสำหรับแฟชั่นที่ใช้ความแวววาวเหล่านี้

 

1. Green: ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ นักวัสดุศาสตร์ต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนาการใช้โลหะหรือสารเคมีที่ให้ความแวววาวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสสารเหล่านี้ โดยปกติหากมีการสึกกร่อน แตกตัวลงสู่ธรรมชาติ จะเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศ และกับมนุษย์ วัสดุ และเคมีภัณฑ์รุ่นใหม่จึงออกเเบบให้การผลิต และการใช้งานส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด, มีการสกัดจากธรรมชาติ และไม่มีโลหะหนักตกค้างที่กระทบต่อร่างกายผู้ใช้ 

 

2. Fast: ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการผลิตเครื่องประดับที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาส่งผลต่อการผลิตมากขึ้น เช่น วัสดุขั้นสูง (Advanced Materials), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ การพิมพ์สามมิติ (Additive Manufacturing,(AM)) ซึ่งตลาดเครื่องประดับโลหะ ที่ใช้การพิมพ์สามมิติคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 10% ตั้งแต่ปี 2021 ถึง 2031 ซึ่งมีผลต่อความเร็วในการผลิต และการออกแบบที่มีความเฉพาะบุคคลมากขึ้น สามารถขึ้นงานที่ซับซ้อน ขยายขอบเขตทางการออกแบบ

 

3. Space: นักวิทยาศาสตร์ที่ NASA กำลังออกแบบผ้าทอโลหะขั้นสูงสำหรับการใช้งานที่หลากหลายในอวกาศที่ถูก ‘พิมพ์’ ขึ้นเป็นชิ้นเดียว เรียกสิ่งนี้ว่า ‘การพิมพ์ 4 มิติ’ หมายถึงความสามารถในการพิมพ์ที่ได้ทั้ง ‘รูปลักษณ์’ และ ‘คุณสมบัติ’ ซึ่งต้องการคุณสมบัติ 4 อย่างคือ การสะท้อนแสง การจัดการความร้อนแบบพาสซีฟ การพับได้ และความต้านทานแรงดึง และสิ่งเหล่านี้มีจำเป็นต้องถักทอด้วยโลหะพิเศษ เทคโนโลยีอวกาศเป็นต้นแบบของหลาย นวัตกรรมใหม่ๆ บนโลก สิ่งทออวกาศนี้มีความสามารถที่จะทำให้เกิด วัสดุศาสตร์รูปแบบใหม่ๆ หรือการถักทอ และขึ้นรูปชิ้นงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในวงการแฟชั่น

 

ผู้เขียน: กัณฑ์ฉัตร สมเหมาะ

 

ที่มา:

https://www.ellecanada.com/fashion/trends/metallic-fashion-trend

https://www.metal-am.com/articles/additive-manufacturing-for-jewellery-and-watchmaking-exploring-sinter-based-technologies/

https://www.fibre2fashion.com/news/textile-news/nasa-designing-advanced-woven-metal-fabrics-for-space-205396-newsdetails.htm

https://sourcingjournal.com/sustainability/sustainability-materials/metallic-apparel-accessories-verdant-innovations-fibre-print-paste-429762/

https://vogue.sg/best-beauty-looks-from-lisa-rockstar-mv/

https://ellethailand.com/zendaya-robot-girl-dune-2-premiere-in-london/

 

 

RECOMMEND

CTM Cafe
read more
15.09.2025 86

ชาตรามือออกแบรนด์ชา CTM
เดินตลาดตาม Trend Specialty Tea

ชาตรามือ แบรนด์ใหม่ CTM CTM หรือ Captivating Tea Muse เป็นแบรนด์ชาใหม่ล่าสุดจากชาตรามือ ที่เน้นชาพรีเมียมคัดสรรคุณภาพดีเยี่ยม ผสมผสานกับวัตถุดิบคุณภาพสูงเพื่อมอบประสบการณ์รสชาติที่แปลกใหม่และสนุกขึ้น แบรนด์นี้มีใบชาหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 10 ชนิด พร้อมเมนูเด่น เช่น ชาอู่หลงนางงาม ที่ถือเป็นจุดขายสำคัญของแบรนด์ CTM ได้ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญด้านชาอย่างลึกซึ้งของชาตรามือเพื่อสร้างชาในมิติใหม่ที่เหนือชั้นกว่าเดิม อะไรทำให้ชาไทย Specialty เป็นเทรนด์ฮิตตอนนี้ การเติบโตของอุตสาหกรรมชาไทยที่มีการพัฒนาเชิงโครงสร้างในด้านคุณภาพของใบชา ความหลากหลายของแหล่งปลูก และกำลังการผลิต ทำให้ไทยกลายเป็นตลาดค้าชารายใหญ่อันดับ 7 ของโลก ผู้บริโภคไทยเริ่มรับรู้และสนใจเครื่องดื่ม Specialty มากขึ้น หลังจากที่กาแฟ Specialty ได้รับความนิยมก่อนหน้านี้ ทำให้มีการพัฒนาชาไทยแบบพรีเมียม ที่มีการคัดใบชาจากแหล่งปลูกหลากหลายทั่วไทย รวมถึงการใช้เทคนิคการชงที่ทันสมัย ชาไทย Specialty เน้นความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกใบชาคุณภาพสูงที่มีโน้ตรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวแตกต่างกันตามแหล่งปลูก เช่น ชาเชียงราย ชาแม่ฮ่องสอน […]

read more
12.09.2025 88

แนวโน้ม Trend สำคัญของโรงงาน ในปี 2025

โรงงานยุคใหม่ต้องเป็นทั้ง “อัจฉริยะ” และ “ยั่งยืน” เพื่อรักษาความแข่งขันในตลาดโลก “อัจฉริยะ” และ “ยั่งยืน” โรงงานยุคใหม่ต้องเป็นทั้ง “อัจฉริยะ” และ “ยั่งยืน” เพื่อรักษาความแข่งขันในตลาดโลก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัลและความเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน ผลักดันให้โรงงานต้องพัฒนาไปสู่ระบบอัตโนมัติที่มีความสามารถในการคาดการณ์ ใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และสร้างประสบการณ์ที่ดึงดูดผู้บริโภค มากไปกว่านั้น ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม กลายเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดกลยุทธ์ของผู้ประกอบการโรงงานทั้งหลาย เทรนด์โรงงานแห่งอนาคต 1. Foresight Factories: โรงงานมองการณ์ไกล ระบบ Predictive Maintenance ช่วยระบุปัญหาก่อนเกิดเหตุจริง และใช้ Digital Twin ในการจำลองสถานการณ์ผลิตเพื่อปรับปรุงกระบวนการอย่างแม่นยำ ภายในปี 2025 อัตราการใช้ระบบอัตโนมัติจะเพิ่มจาก 69% เป็น 79% ขณะที่การเชื่อมต่อทุกกระบวนการช่วยให้ตัดสินใจได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น 2. Decentralized Manufacturing: ผลิตแบบกระจายศูนย์ โรงงานขนาดเล็กเคลื่อนย้ายได้ พร้อมตอบสนองความต้องการในท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว ผู้ผลิตรายใหญ่เริ่มพัฒนาชุดโรงงานย่อยที่ […]

Day One Tactics
read more
10.09.2025 270

Day One Tactics ธุรกิจจับคู่จะชนะอย่างไร เมื่อ ‘ความเร็ว’ และ ‘ตัวเลือกเยอะ’ ไม่ใช่คุณค่าหลักของพฤติกรรมผู้ใช้งาน

ในโลกที่ความสัมพันธ์ไม่ใช่เส้นตรงอีกต่อไป ตั้งแต่หาเพื่อน, หากลุ่มเฉพาะทางที่สนใจ, หางานที่ตรงสาย ไปจนหาเดตที่ใช่ ในทุกวันนี้ทุกอย่างกำลังกระจายตัวสู่ “แพลตฟอร์มตัวกลาง” ที่ทำให้คนอยากเจอกันได้เจอกันง่ายขึ้น แต่ความต้องที่ซับซ้อนอยู่ในตัวทุกคน เรามีความเหงาแต่ก็ขี้เกียจในเวลาเดียวกัน แอปต่างๆ อาจทำให้การเริ่มบทสนทนาง่ายขึ้น แต่ไม่ได้ตอบโจทย์ที่ตรงใจ กลับกัน มันยิ่งตอกคำถามว่าเราจะรักษาความตั้งใจ ความปลอดภัย และความคุ้มค่าของเวลาที่จ่ายลงไปอย่างไร ความซับซ้อนของพฤติกรรมทำให้รูปแบบการมองหาความสัมพันธ์เกิดความยากขึ้น ผู้ใช้งานพร้อมที่จะ ‘ยกเลิก’ ความสัมพันธ์ตลอดเวลา แทนที่การ ‘รักษา’ ให้คงไว้ ตัวอย่างเช่น การเตรียมตัวเพื่อถอนตัวล่วงหน้า (Banksying), การค่อยๆ เว้นระยะห่างก่อนจากลา (Slow Fade), หรือ การหายไปเฉย ๆ ตัดการสื่อสารทันที (Ghosting) ซึ่งทั้งหมด มี “รากพฤติกรรมร่วม” คือการ หลีกเลี่ยงความอึดอัด (Avoidance), ปกป้องตนเองทางอารมณ์ (Self-Preservation) และ “ภาวะล้นทางเลือก” (Choice Overload) ซึ่งจะเกิดเป็น “ความเหนื่อยล้า” (Dating-App Fatigue) ภาวะทั้งหมดนี้ล้วนกระทบธุรกิจที่ซึ่งขาย ‘ควา […]

read more
08.09.2025 147

UPF: อาหารแปรรูปสูง ที่คุณคิดว่า “ดีต่อสุขภาพ” อาจไม่ใช่อย่างที่คิด

เฮลตี้? หรือแค่ภาพลวงตาของอุตสาหกรรมอาหาร เช้า: ซีเรียลแท่งไฟเบอร์สูงในมือคุณ กลางวัน: ข้าวกล่องคลีนแช่แข็ง เย็น: โยเกิร์ต fat-free รสผลไม้ คุณอาจคิดว่ากำลังกินเพื่อสุขภาพ แต่จริง ๆ แล้ว… สิ่งเหล่านี้จำนวนมากคือ Ultra-Processed Foods (UPF) อาหารแปรรูปสูงที่ผ่านการแต่ง เติม ปรุง ปลอม จนแทบไม่เหลือร่องรอยธรรมชาติ UPF คืออะไร ทำไมถึงอันตรายกว่าที่คิด?  อาหารแปรรูประดับสูงคืออาหารที่ถูกผ่านกระบวนการผลิตหลายขั้นตอน จนแทบไม่เหลือร่องรอยของวัตถุดิบธรรมชาติดั้งเดิม จุดเด่นคือมีการเติมสารสังเคราะห์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สารกันเสีย สารแต่งกลิ่น สี สารเพิ่มความหวาน และสารปรุงแต่งรส เพื่อให้อาหารเก็บได้นาน ดูน่ากิน และถูกปากยิ่งขึ้น ที่น่าตกใจคือ… หลายครั้งอาหารที่ถูกโฆษณาให้ดู “เฮลตี้” ก็ยังเข้าข่ายเป็น UPF เช่น ซีเรียลไฟเบอร์สูงที่จริงแล้วใส่น้ำตาลหรือสารให้ความหวานแทน ขนมปังโฮลวีตในถุง ที่มักใส่สารปรับสภาพแป้งและวัตถุเจือปนหลายชนิด โยเกิร์ต fat-free รสผลไม้ ที่เต็มไปด้วยน้ำตาลและกลิ่นสังเคราะห์ นมอัลมอนด์หรือนมถั่วเหลืองแต่งรส ที่ผ่านการแต่งเติมจนแทบไม่เหลือคุณค่าจากถั่วจริง ๆ อาหารเหล่านี้อาจมีฉล […]

Vibe coding Trend
read more
05.09.2025 106

Vibe coding Trend คืออะไร? เทรนด์นี้จะเปลี่ยนอาชีพนักพัฒนาในอนาคตอย่างไร

Vibe coding คืออะไรและต่างจากการใช้ Copilot ยังไง อนาคตของอาชีพนักพัฒนาจะเปลี่ยนไปอย่างไร Vibe coding คืออะไรและต่างจากการใช้ Copilot ยังไง Vibe Coding คือแนวทางการพัฒนาโปรแกรมที่เน้นการทำงานร่วมกับ AI ผ่านการสื่อสารด้วยภาษาธรรมชาติ เช่น คำสั่งภาษาอังกฤษ ให้ AI ช่วยสร้าง ปรับแต่ง และแนะนำโค้ดแบบไหลลื่นและมีความสร้างสรรค์สูง ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดทีละบรรทัด ส่วน GitHub Copilot คือหนึ่งในเครื่องมือ AI ที่ช่วยแนะนำโค้ดระหว่างการเขียนจริง ๆ โดยมันจะเติมโค้ดหรือฟังก์ชันที่คาดว่าจะใช้ในบริบทนั้น ๆ แต่ยังต้องให้ผู้พัฒนาเป็นผู้เขียนและควบคุมหลัก ความแตกต่างหลักระหว่าง Vibe Coding กับ Copilot คือ Vibe Coding เป็นแนวคิดที่กว้างกว่า เน้นการใช้ AI เป็นเหมือนผู้ช่วยในการพัฒนาโค้ดทั้งโปรเจกต์ผ่านการสื่อสารด้วยภาษาธรรมชาติแบบโต้ตอบ ที่ช่วยให้การสร้างโค้ดเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสร้างสรรค์ขึ้น Copilot เป็นเครื่องมือหนึ่งใน Ecosystem ของ Vibe Coding ที่ให้การช่วยเติมโค้ดและแนะนำฟังก์ชัน แต่ยังคงเป็นเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดแบบเดิมที่มีรูปแบบที่จำกัดและใช้คำสั่งโดยตรงน้อยกว่า เทรนด์นี้จะเปลี่ยนอาชีพนักพัฒนา […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง