เทคโนโลยีการจับจ่ายแห่งอนาคต
ในยุคสมัยที่การจับจ่ายใช้สอยไม่ได้มีเพียงการใช้เงินสด แต่เราสามารถซื้อสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งครอบคลุมวิธีการชำระเงินที่หลากหลายและสะดวกสบาย โดยใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการใช้มือถือในการชำระเงิน การชำระเงินแบบไร้สัมผัส การใช้คริปโตเคอร์เรนซี การชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันที่รวมบริการหลายอย่างในที่เดียว หรือการใช้เทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์ในการยืนยันตัวตน เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้การใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแบ่งออกได้หลายประเภท
- Buy now Pay later
Buy now Pay later (BNPL) หรือ ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง เป็นการซื้อสินค้าที่มีการแบ่งชำระเงินออกเป็นงวด ๆ เท่า ๆ กัน โดยงวดแรกเกิดขึ้น ณ วันทำการซื้อขาย และการชำระครั้งต่อไปจะถูกเรียกเก็บจากบัญชีธนาคารบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตของผู้ใช้บริการ จนกว่าจะชำระเต็มจำนวน ได้รับความนิยมเนื่องจากสะดวกเข้าถึงง่าย ไม่มีดอกเบี้ยหากชำระตามเงื่อนไขและมีโปรโมชั่นส่วนลดราคามากมาย
ตลาด BNPL ของทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตจาก 37.19 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 เป็น 167.58 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2575 โดยมี CAGR ที่ 20.7% ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ นอกจากนี้ BNPL กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นและวัยทำงานช่วงแรก เช่น ในสหรัฐอเมริกา, ยุโรป และออสเตรเลีย
- Credit Card
คือเครื่องมือทางการเงินที่ออกโดยธนาคารหรือสถาบันการเงินที่อนุญาตให้ผู้ถือบัตรยืมเงินเพื่อซื้อสินค้าหรือถอนเงินสดได้จนถึงวงเงินเครดิตที่กำหนด ผู้ถือบัตรจะต้องชำระเงินที่ยืมมาทั้งจำนวนหรือผ่อนชำระเป็นรายเดือน โดยจะมีการคิดดอกเบี้ยจากยอดคงค้างหากไม่ชำระเต็มจำนวน
ขนาดตลาดบัตรเครดิตทั่วโลกมีมูลค่า 489.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 และมีแนวโน้มที่จะเติบโตจาก 521.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 เป็น 961.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 โดยเติบโตที่ CAGR ที่ 7.78% ในการคาดการณ์
- Cryptocurrency
Cryptocurrency เป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือเงินเสมือนประเภทหนึ่งที่ใช้การเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย ต่างจากสกุลเงินแบบดั้งเดิมที่ออกโดยรัฐบาล สกุลเงินดิจิทัลทำงานบนเทคโนโลยีที่เรียกว่าบล็อกเชน ซึ่งเป็นบัญชีแยกประเภทแบบกระจายอำนาจที่ดูแลโดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามารถใช้จ่ายสินค้าที่รับสกุลเงินดิจิทัล อย่างเช่น Bitcoin เป็นต้น
ตลาดของ Cryptocurrency คาดว่าจะเติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปี CAGR ที่มากกว่า 20% ตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2028 โดยได้แรงหนุนจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ผู้ใช้สกุลเงินดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น และความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่มากขึ้น
- QR Code Payment
การชำระเงินด้วยรหัส QR เป็นวิธีการชำระเงินแบบไร้สัมผัสประเภทหนึ่งที่ใช้รหัส Quick Response (QR) เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม ผู้ใช้สามารถชำระเงินโดยการสแกนรหัส QR ด้วยกล้องของสมาร์ทโฟนโดยใช้แอปชำระเงินบนมือถือหรือกระเป๋าเงินดิจิทัล รหัส QR มีข้อมูลที่ทำให้เกิดธุรกรรม เช่น จำนวนเงินที่ชำระและรายละเอียดบัญชีของผู้ขาย
ตลาดของการชำระเงินด้วยรหัส QR คาดว่าจะเติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปี CAGR มากกว่า 20% ตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2028 เนื่องจากธุรกรรมหลายพันล้านรายการได้รับการประมวลผลทุกปีว่าผ่านการชำระเงินด้วยรหัส QR คาดว่าจะทำให้เติบโตอย่างมากในปีต่อๆ ไป
Penetration Rate ของรูปแบบการชำระเงินผ่านเทคโนโลยี
Penetration Rate หรือ อัตราการเข้าถึง หมายถึง ขอบเขตที่ผู้บริโภคและร้านค้าในตลาดต่างๆ ใช้วิธีการชำระเงินเหล่านี้
- Buy Now Pay Later
ตลาด BNPL ทั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคอายุน้อย และคาดว่าประชากรที่ใช้ Buy Now Pay Later จะคิดเป็นประมาณ 2-5% ของธุรกรรมอีคอมเมิร์ซทั่วโลก
- อเมริกาเหนือ : มีการใช้งานสูง โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่บริษัทอย่าง Afterpay, Klarna และ Affirm เป็นที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยุโรป : มีการใช้งานที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในประเทศต่างๆ เช่น สหราชอาณาจักร เยอรมนี และสวีเดน มี Klarna เป็นผู้นำในตลาด
- เอเชียแปซิฟิก : มีการนำไปใช้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในออสเตรเลีย อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มี LazPayLater ของLazada และ SpayLater ของ Shopee
- Credit Card
บัตรเครดิตเป็นวิธีการชำระเงินที่มีชื่อเสียงและแพร่หลายไปทั่วโลก ในตลาดที่พัฒนาแล้ว อัตราการเข้าถึงบัตรเครดิตของผู้ใหญ่มีตั้งแต่ 50% ถึงมากกว่า 90%
- อเมริกาเหนือ : ผู้คนใช้งานเกือบ 70-80% ของผู้ใหญ่เป็นเจ้าของบัตรเครดิตอย่างน้อยหนึ่งใบในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
- ยุโรป : มีการแพร่หลายสูง โดยประเทศต่างๆ เช่น สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศส ที่มีการใช้งานบัตรเครดิตอย่างกว้างขวาง
- เอเชียแปซิฟิก : มีความแตกต่างกันในบางพื้นที่โดยมีการใช้งานแพร่หลายสูงในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย แต่จะต่ำกว่าในประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศ
- Cryptocurrency
เป็นการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลที่ยังค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม แต่มีการเติบโต โดยมีอัตราการเป็นเจ้าของทั่วโลกโดยประมาณ 3-4% ของประชากร
- อเมริกาเหนือ : มีการใช้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรอายุน้อยและผู้ใช้ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
- ยุโรป : เริ่มมีการนำไปใช้งานในประเทศต่างๆ เช่น เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร
- เอเชียแปซิฟิก : มีการนำไปใช้อย่างสูงในประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ โดยมีการเติบโตอย่างมากในจีนแม้จะมีความท้าทายด้านกฎระเบียบก็ตาม
- QR Code
การชำระเงินด้วยรหัส QR เป็นที่นิยมอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคที่มีโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินผ่านมือถือที่แข็งแกร่ง คาดว่าการชำระเงินด้วยรหัส QR คิดเป็นประมาณ 10-20% ของธุรกรรมการชำระเงินดิจิทัลทั่วโลก
- อเมริกาเหนือ : มีการนำไปใช้งานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เป็นตัวเร่งปฏิกริยาการใช้งาน
- ยุโรป : มีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยประเทศต่างๆ เช่น สหราชอาณาจักรและเยอรมนีได้บูรณาการการชำระเงินด้วยรหัส QR เข้ากับภาคการค้าปลีกและการบริการ
- เอเชียแปซิฟิก : เป็นผู้นำตลาดโลกด้วยอัตราการเจาะที่สูงมากในจีน ซึ่งมีมากกว่า 80% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Alipay และ WeChat Pay
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า วิธีการชำระเงินของผู้คนในยุคสมัยใหม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเงินสดที่สามารถจับต้องได้ไปยังรูปแบบการชำระแบบไร้เงินสดซึ่ง เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการจับจ่ายของผู้บริโภคทั่วโลก แต่ละวิธีมีการเข้าถึงและการยอมรับในแต่ละประเทศแตกต่างกัน การพัฒนาตัวเองในทางการเงินและเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้เราสามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่
ผู้เขียน
นางสาวจินต์ศุจี มณฑิราลัยพร
ที่มา
https://moneyandbanking.co.th/2023/61856/
https://www.bangkokpost.com/business/general/2788502/buy-now-pay-later-abuse-under-scrutiny