
จัดทำวิจัยเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการดำเนินงาน การพัฒนาหรือการสร้างแบรนด์ สร้างตัวชี้วัดและเสนอแนะแนวทาง การพัฒนา อุดรูรั่วของปัญหาและค้นหาโอกาสแห่งการเติบโต
โดยการวัดเป็นไปตามหลักการทฤษฎีของการประเมินมูลค่าแบรนด์ (BFV Model TM) โดยมีการบริการ ดังนี้
OUR SERVICES

การวัดผลสุขภาพแบรนด์ประจำปีหรือครึ่งปี เพื่อใช้เป็น ทิศทางในการประเมินผล KPIS ของคนทำงาน และเพื่อ วัดผลว่ากลุ่มลูกค้าของแบรนด์/องค์กร มีอัตราความเป็น Superfans เท่าไร และสิ่งที่แบรนด์/องค์กรทำนั้นเข้าถึง Superfans ได้หรือไม่ และเพื่อเห็นทิศทางการพัฒนา แบรนด์ในปีต่อๆ ไป

Superfans (หรือ Customer) Satisfaction การประเมินความพึงพอใจลูกค้าตามจุด Touchpoint (จุดที่ลูกค้าสัมผัสแบรนด์) ในประสบการณ์ต่างๆ เพื่อใช้ ประเมินการทำงานของแต่ละทีม และนำไปสู่การเห็น ช่องโหว่ที่ต้องเติมเต็มเพื่อปลายทาง คือ ความพึงพอใจ ของลูกค้า อีกทั้งยังช่วยให้ระดับบริหารสามารถบริหาร จัดการได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น
Articles

OATSIDE TREND แบรนด์ที่ทำให้คาเฟ่ ทั้งประเทศปรับราคานมโอ๊ต
กระแสของ OATSIDE ซึ่งเป็นแบรนด์นมโอ๊ตชื่อดังจากสิงคโปร์ กำลังมาแรงมากในปี 2025 ทำไม OATSIDE จึงลดราคานมลงถึง 50% อย่างถาวร ใช้กลยุทธ์อะไรในการขยายฐานลูกค้าจากกลุ่ม Niche สู่ Mass กระแสนมโอ๊ต OATSIDE ในช่วงปีที่ผ่านมา เกิดกระแสใหม่ในไทยที่ร้านคาเฟ่หรือร้านอาหารเปิดบริการตอนกลางวัน แต่มีสไตล์แบบร้านเหล้าผับในเวลากลางคืน เช่น มี DJ มาเปิดเพลงสร้างบรรยากาศ ปกติเราจะเห็นดีเจในร้านบาร์ช่วงค่ำ แต่ตอนนี้ดีเจถูกนำเข้ามาอยู่ในร้านคาเฟ่ขณะยังไม่มืด ด้วยคอนเซ็ปต์ผสมผสานความเป็น “คาเฟ่ & บาร์” หรือ “Cafe and Bar” โดยลูกค้าสามารถจิบกาแฟหรือรับประทานอาหาร พร้อมฟังเพลงจากดีเจและชิลล์ในบรรยากาศเหมือนปาร์ตี้เบา ๆ ได้ในเวลากลางวัน OATSIDE ใช้กลยุทธ์อะไรในการขยายฐานลูกค้าจากกลุ่ม niche สู่ mass ตั้งราคานมโอ๊ตในช่วงแรกสูงกว่าเพื่อนำเสนอในกลุ่มลูกค้าพรีเมียมหรือกลุ่ม Early Adopters ที่พร้อมจ่ายเพื่อสินค้าทางเลือกคุณภาพสูงและรสชาติที่เหมาะกับคนเอเชีย (Price Skimming) พัฒนาสูตรนมโอ๊ตที่รสชาติลงตัวสำหรับคนเอเชีย โดยผ่านการทดลองสูตรมากกว่า 50 สูตร จนได้รสชาติที่ถูกใจกลุ่มเป้าหมายแรกเ […]

I Buy, Therefore I am การตลาดบนมูลค่าแห่งความรู้สึก
ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากอิทธิพลของวิถีชีวิตที่ซับซ้อน การเข้าใจแค่ “ใครซื้อ” หรือ “ซื้ออะไร” ไม่เพียงพออีกต่อไป ผู้บริโภคเริ่มตัดสินใจจาก “ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้น” (Desired Outcome) มากกว่าประเภทของสินค้า หรือแบรนด์โดยตรง แนวคิด “Consumer Need States” หรือ “ภาวะความต้องการของผู้บริโภค” จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำความเข้าใจแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังการเลือกบริโภค โดยเป็นการมองผู้บริโภคจากสิ่งที่พวกเขาต้องการรู้สึกหรือบรรลุในช่วงเวลานั้น เช่น ความสงบ ความมั่นใจ ความกระปรี้กระเปร่า หรือการฟื้นฟูร่างกาย เมื่อการตัดสินใจไม่ได้เริ่มต้นจากคำถามว่า “จะซื้ออะไร” แต่เป็นคำถามว่า “ทำไมถึงต้องซื้อ” หรือ “อยากได้ผลลัพธ์อะไรจากการบริโภค” แนวทางการทำความเข้าใจผู้บริโภคที่อิงจากข้อมูลพื้นฐาน เช่น เพศ อายุ หรือพฤติกรรมซื้อตามหมวดหมู่ จึงไม่เพียงพออีกต่อไป ตัวอย่างเช่น ธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งคาดว่ามีมูลค่ากว่า 2.26 แสนล้านบาทในปี 2025 โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ซึ่งมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ในตลาดนี้ ผู้บริโภคไม่ได้เลือกซื้อเพียงเพราะรสชาติหรือราคาอีกต่อไ […]

โสดก็กินข้าวอร่อยได้ 3 เทรนด์อาหารคนโสดในปี 2025
คนโสดให้ความสำคัญกับความสะดวก (Convenience) การควบคุมมื้อ (Portion Control) และการลงทุนเพื่อประสบการณ์ส่วนตัว ทำให้เกิด “Self Splurge” และ “Solo Dining” 3 เทรนด์อาหารสำหรับคนโสด 1.Functional & High-Protein Snacks คนโสดกลุ่มสายเฮลท์ตี้มองหาของว่างที่มีประโยชน์มากขึ้น โปรตีนบาร์ ขนมอบกรอบจากไข่ขาว ถั่ว และเครื่องดื่มโปรตีนสปาร์กลิง (protein-infused sparkling) ตอบโจทย์สุขภาพและการควบคุมน้ำหนัก. Superfood จากทะเล (สาหร่าย สาหร่ายสไปรูลิน่า) และ Sea Moss Gel ถูกนำมาสร้างสรรค์ในรูปแบบขนมและเครื่องดื่มมากขึ้น 2.Self-Splurge Dining & Premium Experiences “Self Splurge” คือการใช้จ่ายเพื่อรางวัลตัวเอง ส่งผลให้คนโสดทานอาหารนอกบ้านและลงทุนกับกิจกรรมเกี่ยวกับอาหาร การใช้จ่ายหมวด Dining สูงกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับคนมีครอบครัว และพร้อมจ่ายค่ากิจกรรมเวิร์กช็อปทำอาหาร. เทรนด์ Sake Pairing ของ GrabFood ชูประสบการณ์จับคู่สาเกกับเมนูต่าง ๆ ใน Casual Dining. 3.Personalization & Experiential Food คนโสดต้องการอาหารที่สะท้อนตัวตนและสร้างประสบการณ์ใหม่ เมนูผสมรสหวาน-คาว “Swavory” วาร์ไรตี้อาหารสต […]
Subscription
เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง