Baramizi Lab logo

ตลาดสัตว์เลี้ยงกับอัตราการเติบโต 7.4% ต่อปี

ตลาดสัตว์เลี้ยงกับอัตราการเติบโต 7.4% ต่อปี

อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก ซึ่งขับเคลื่อนโดยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มมากขึ้น การเติบโตนี้คาดว่าจะยังคงดำเนินต่อไป โดยคาดว่าอุตสาหกรรมจะขยายตัวด้วยอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 7.4% ตั้งแต่ปี 2023 ถึงปี 2030 ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตท อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจโดยรวมในปี 2023 ที่ 303 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของ The Bolen Group ยอดขายผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงเติบโตเร็วกว่าสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขายเร็วประเภทอื่นๆ ถึง 3 เท่า และกลุ่มการค้าอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดคาดว่ารายได้ของอุตสาหกรรมจะเติบโตเกือบ 3% ในปี 2024

 

ตามข้อมูลของ Human-Animal Bond Research Institute เจ้าของสัตว์เลี้ยง 98% บอกว่าสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนสำคัญของครอบครัว 87% บอกว่าพวกเขาประสบกับการปรับปรุงสุขภาพจิตจากการมีสัตว์เลี้ยง และ 76% บอกว่าสุขภาพส่วนบุคคลของพวกเขาดีขึ้นเพราะสัตว์เลี้ยง กระแสของการให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงทำให้การเติบโตของอุตสาหกรรมเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ นอกจากนี้อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงขับเคลื่อนโดยปัจจัยสำคัญหลายประการ ประการแรก การให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้นทำให้มีการใช้จ่ายที่สูงขึ้น เนื่องจากสัตว์เลี้ยงถือเป็นสมาชิกในครอบครัวมากขึ้น แนวโน้มนี้กระตุ้นให้มีความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียม อาหารเสริม และบริการดูแลเฉพาะทาง ประการที่สอง การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่อายุน้อยที่ไม่อยากมีลูก ทำให้ตลาดขยายตัว และความตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสุขภาพและความสมบูรณ์แข็งแรงของสัตว์เลี้ยง ประกอบกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น อุปกรณ์อัจฉริยะและอุปกรณ์เสริม ล้วนเป็นแรงผลักดันให้การเติบโตนี้เกิดขึ้น 

 

อาหารสัตว์ระดับพรีเมียมเป็นหนึ่งในสินค้าที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง เนื่องจากสัตว์เลี้ยงถูกมองว่าเป็นสมาชิกในครอบครัวมากขึ้น จึงมีความต้องการอาหารที่มีคุณภาพสูงและมีคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ อาหารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น วิตามิน โพรไบโอติก และผลิตภัณฑ์ CBD กำลังกลายมาเป็นส่วนประกอบสำคัญของกิจวัตรการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง

 

บริการดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น การดูแลสัตว์เลี้ยง การดูแลระหว่างวัน การฝากเลี้ยง และการฝึกสัตว์เลี้ยงกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เจ้าของสัตว์เลี้ยงต่างต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงของตนมีสุขภาพดีและได้รับการดูแลในช่วงที่ตนเองไม่อยู่ การที่วิถีชีวิตของคนในปัจจุบันที่ยุ่งวุ่นวายทำให้ต้องพึ่งพาบริการเหล่านี้มากขึ้น โดยเฉพาะเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่อาจไม่มีเวลาหรือพื้นที่ในการดูแลสัตว์เลี้ยงของตนอย่างเหมาะสม

 

เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง โดยผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงที่เชื่อมต่อได้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ซึ่งรวมถึงปลอกคออัจฉริยะ เครื่องติดตาม GPS เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ และกล้องสำหรับสัตว์เลี้ยง มอบความสะดวกสบายและความอุ่นใจให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยง ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยตรวจสอบสุขภาพและพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลซึ่งสามารถใช้เพื่อปรับแต่งการดูแลและปรับปรุงความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย

 

และเนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านสัตวแพทย์เพิ่มขึ้น ประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยงจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องพิจารณามากขึ้นตาม มีเจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวนมากตระหนักถึงคุณค่าของประกันในการจัดการกับค่าใช้จ่ายด้านสัตวแพทย์ที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภาวะเรื้อรังและภาวะฉุกเฉิน

 

อนาคตของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงนั้น เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องในหลายส่วน เมื่อสัตว์เลี้ยงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรามากขึ้น ความต้องการอาหาร บริการ และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป ธุรกิจที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มเหล่านี้และให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความสะดวกสบาย และนวัตกรรมของสัตว์เลี้ยง จะอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะประสบความสำเร็จในตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้และมอบโอกาสมากมายสำหรับการเติบโตและพัฒนาในปีต่อๆ ไป

 

ผู้เขียน

นางสาวจินต์ศุจี

 

ที่มา

https://www.marketingoops.com/reports/behaviors/pet-parent/

RECOMMEND

Superfansindex.com
read more
13.09.2024 33

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแบรนด์เราสุขภาพดีแค่ไหน?

ในหลายๆ ธุรกิจมักจะนึกถึงยอดขายที่จะทำให้รู้สึกว่าแบรนด์เรายังมีลูกค้าซึ่งก็ส่งผลต่อสุขภาพของแบรนด์ได้เช่นเดียวกัน แต่แท้ที่จริงแล้วแบรนด์คุณอาจจะสุขภาพไม่ดีก็ได้ เหมือนร่างกายคนถ้าไม่ไปตรวจสุขภาพเราก็จะไม่รู้ว่าข้างในร่างกายเป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่ภายนอกเรายังรู้สึกปกติอยู่  เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเกิดปัญหา และอาจส่งผลให้ปัญหานั้นลามใหญ่โตซึ่งต้องใช้ทั้งเงินและเวลาในการแก้ไข การวิจัยตรวจสอบสุขภาพแบรนด์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่แบรนด์ควรจะทำอย่างต่อเนื่อง เปรียบเหมือนการเอ๊กซเรย์แบรนด์…เพราะหากรู้ก่อนย่อมสามารถแก้ปัญหาได้เร็วกว่า จากภาพข้างต้นหากทุกแท่งมีฐานที่กว้าง การันตีได้เลยว่าแบรนด์คุณสุขภาพดี เพราะการลงงบไปกับสื่อหรือการสร้างประสบการณ์นั้นสามารถได้ใจลูกค้าจนเกิดความเป็น Superfans ได้ (ความเป็น Superfans ของแบรนด์ คือ ขั้นสุดที่แบรนด์ควรไปให้ถึงและเก็บให้ได้มากที่สุด หรือที่เราเรียกว่า สาวกของแบรนด์)  รูปแบบการตรวสอบสุขภาพแบรนด์  โดยทั่วไปสามารถพบได้ 3 รูปแบบ 1.การวิจัยเพื่อตรวจสอบรายปี  เหมาะสำหรับแบรนด์/ องค์กรที่มีการลงงบการตลาด การทำแคมเปญต่างๆ ในช่วงระหว่างปี เพื่อให้เราสามารถรู้ได้ว่ารู […]

read more
11.09.2024 39

ตลาด Sustainable Fashion กับการเติบโต 22.9% ต่อปี

Sustainable Fashion หรือ แฟชั่นแบบยั่งยืนที่เคยเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ในอุตสาหกรรมแฟชั่นโดยรวม กำลังได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วเนื่องจากผู้บริโภคตระหนักถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและจริยธรรมมากขึ้น ในปี 2024 ตลาดแฟชั่นยั่งยืนระดับโลกมีมูลค่า 8.1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตถึง 33.1 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2033 ด้วยอัตรา CAGR 22.9% ในช่วงคาดการณ์ปี 2024 – 2033 แม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แต่ผลกระทบของแฟชั่นยั่งยืนกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากแบรนด์และผู้ค้าปลีกรายใหญ่ต่างนำแนวทางการปฏิบัติที่ยั่งยืนเข้ามาใช้ในธุรกิจของตน การเพิ่มขึ้นของแบรนด์แฟชั่นยั่งยืน ร่วมกับการนำโครงการริเริ่มสีเขียวมาใช้โดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นแล้ว กำลังผลักดันตลาดให้ก้าวไปข้างหน้า พร้อมแรงหนุนจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม อุตสาหกรรมแฟชั่นยั่งยืนมีโอกาสอีกมากมาย เช่น ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคที่ต้องการความโปร่งใสในกระบวนการผลิตและการจัดหาวั […]

read more
11.09.2024 61

ทิศทาง Food delivery ทั้งไทยและต่างประเทศ

ตลาด Food Delivery ในไทยปี 2567 ยังมีเทรนด์ที่ลดลงต่อเนื่อง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้มีการประเมินว่าในปี 2567 มูลค่าตลาด Food Delivery จะอยู่ที่ประมาณ 8.6 หมื่นล้านบาท  หรือหดตัว 1.0% จากปี 2566 แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการสั่งอาหารเฉลี่ยต่อครั้งน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น (Price per Order) ประมาณ 2.8% จากค่าเฉลี่ยในปี 2566 หรือ มีราคาเฉลี่ยประมาณ 185 บาทต่อครั้งของการสั่ง ซึ่งจะมีผลตามมาต่อทั้งจำนวนครั้งและปริมาณการสั่งให้ลดลง ปัจจุบัน ตลาด Food Delivery ในหลายประเทศกำลังเผชิญกับแนวโน้มขาลงไม่ต่างจากประเทศไทย แม้ว่าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่น สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเห็นการเติบโตชะลอตัวเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงและต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ส่งผลให้บริการต้องปรับราคาให้สูงขึ้นเพื่อรักษากำไร ขณะที่ในญี่ปุ่น การเพิ่มขึ้นของต้นทุนการจัดส่งและการแข่งขันจากผู้เล่นหลายราย ทำให้บริษัทฟู้ดเดลิเวอรี่ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดและกำไร  การเติบโตของตลาด Food Delivery ทั่วโลก รายได้ในตลาดบริการจัดส่งอาหารออนไลน์คาดว่าจะสูงถึง 1.22 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 แล […]

read more
06.09.2024 121

ตลาด Sustainable Dining กับการเติบโต 6.9% ต่อปี

Sustainable Dining หรือ การรับประทานอาหารอย่างยั่งยืนหมายถึงการเลือกอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีจริยธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม แนวทางการรับประทานอาหารนี้เน้นที่การบริโภคอาหารที่ผลิตและเตรียมในลักษณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่น การรับประทานอาหารอย่างยั่งยืนอาจเกี่ยวข้องกับแนวทางปฏิบัติต่างๆ เช่น การเลือกส่วนผสมจากแหล่งท้องถิ่นและออร์แกนิก การลดขยะอาหาร การเลือกอาหารจากพืชและการสนับสนุนร้านอาหารและธุรกิจที่ยึดมั่นในแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน เป้าหมายหลักคือการสร้างระบบอาหารที่สามารถรักษาคนรุ่นต่อไปได้โดยไม่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติหมดสิ้นหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบนิเวศ โดยมูลค่าตลาดอาหารที่ยั่งยืนมีมูลค่า 1,066.2 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023 และคาดว่าจะถึง 1,945.38 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2032 โดยเติบโตที่อัตรา CAGR 6.91% ตั้งแต่ปี 2024-2032 แนวโน้มเหล่านี้สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวที่กว้างขึ้นสู่ความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งขับเคลื่อนโดยความต้องการของผู้บริโภคและความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เมื่อการรับประทานอาหารที่ยั่งยืนกลายเป็นกระแสหลักมากขึ้น จึงมีศัก […]

read more
06.09.2024 125

Urban Farming การทำเกษตรในเมือง

ในขณะที่เมืองทั่วโลกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ความจำเป็นในการหาแหล่งอาหารที่ยั่งยืนก็มีความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม การทำเกษตรในเมือง ซึ่งเคยเป็นเพียงแค่แนวคิดเล็กๆ กำลังกลายเป็นขบวนการที่ทรงพลังซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการที่เราคิดเกี่ยวกับการผลิตอาหารและการใช้ชีวิตในเมือง โดยการเปลี่ยนหลังคาอาคาร ที่ดินว่างเปล่า หรือแม้แต่ระเบียงเล็กๆ ให้กลายเป็นพื้นที่การเกษตรที่เจริญรุ่งเรือง การทำเกษตรในเมืองเสนอโซลูชั่นใหม่สำหรับการแก้ปัญหาที่สำคัญที่สุดที่เมืองสมัยใหม่กำลังเผชิญ การทำเกษตรในเมืองคืออะไร การทำเกษตรในเมือง หรือ Urban Farming คือ การปลูกอาหารภายในสภาพแวดล้อมของเมือง โดยมักใช้พื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แตกต่างจากการเกษตรแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้พื้นดินในชนบทอย่างกว้างขวาง การทำเกษตรในเมืองสามารถผสมผสานเข้ากับพื้นที่ของเมืองได้ ซึ่งอาจหมายถึงทุกอย่างตั้งแต่สวนชุมชนในที่ดินว่าง ไปจนถึงฟาร์มแนวตั้งบนด้านข้างของอาคารหรือระบบไฮโดรโปนิกส์ในห้องใต้ดิน ประโยชน์ของการทำเกษตรในเมือง ความยั่งยืนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การทำเกษตรในเมืองมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความยั่งยืน การผลิตอาหารในท้องถิ่ […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง