Baramizi Lab logo

อนาคตของ Web 3.0 ของประเทศไทย

02
05.2024
view
694
SHARE

อนาคตของ Web 3.0 ของประเทศไทย

📍Web 3.0 คืออะไร?

ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้มีการพัฒนาอินเทอร์เน็ตไปข้างหน้า จนตอนนี้โลกของเรากำลังก้าวเข้าสู่รุ่นที่ 3 ที่เรียกว่า Web 3.0 เราลองไปดูวิวัฒนาการของ Website ในแต่ละเวอร์ชั่นกัน

Web 1.0 (ปี 1989-2005)

Web 1.0 เป็นอินเทอร์เน็ตในยุคแรก เป็นเว็บไซต์ที่ตอบสนองทางเดียว เรียกว่าเป็น Static Web ไม่สามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้

Web 2.0 (ปี 2005-ปัจจุบัน)

Web 2.0 หรือ Social Web  ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบ มีปฏิสัมพันธ์กันได้บนเว็บ มีการเชื่อมต่อกับ Database ทำให้สามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้บนเว็บได้ เป็นยุคที่เทคโนโลยี นวัตกรรม รวมทั้งธุรกิจที่เรียกว่า Startup เกิดขึ้นมา และกลายเป็o Big Tech Company ที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Facebook, Youtube, Wikipedia

Web 3.0

ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็น The Next Era of the Internet มีความอัจฉริยะมากขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ได้ใกล้เคียงมนุษย์ ทำงานได้แบบอัตโนมัติ และยุคนี้เองที่จะทำให้เทคโนโลยีอย่าง Machine Learning (ML), Big Data, AI, Blockchain และเทคโนโลยีอัจฉริยะอื่น ๆ ที่จะทำให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น Tim Berners-Lee ผู้คิดค้น World Wide Web ได้กล่าวไว้ว่า Web 3.0 จะเป็น Semantic Web หรือ เว็บที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างระบบ คน และอุปกรณ์ IoT ได้แบบอัตโนมัติ

ข้อดีของ Web 3.0 มีหลายด้าน ได้แก่

1. ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Website ได้อย่างอิสระ ไม่ต้องมีตัวกลางมาคอยควบคุมหรือเซ็นเซอร์

2. มีความปลอดภัยและสิทธิความเป็นเจ้าของข้อมูล

3.ไร้ตัวกลาง (Decentralized) มีการกระจายอำนาจผู้ใช้งาน ไม่ต้องติดต่อสื่อสารหากันผ่านตัวกลาง หรือเซิร์ฟเวอร์ มักจะทำงานผ่านโปรโตคอลแบบกระจายศูนย์ที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี Blockchain และ Cryptocurrency

4. ผู้ใช้งาน Web 3.0 สามารถมีส่วนร่วมในการเข้ามาพัฒนาโค้ดของเว็บไซต์ร่วมกันจนสามารถใช้งานได้

 

📍Web 3.0 กับอนาคตของประเทศไทย ?

ภาคเอกชนในประเทศไทยเอง ได้มีแนวทางในการคว้าโอกาสจาก Web3.0 อย่างหลากหลาย ประกอบด้วย

นางสาวชญาภา จูตระกูล แห่งสยามพิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท The Pink Lab บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ที่นำ Data ในโลกออนไลน์มาสร้างแบรนด์และนำเสนอประสบการณ์มิติใหม่ให้กับวงการ มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ เติมเต็มความปรารถนาได้อย่างไร้ขีดจำกัด

The Pink Labได้ประกาศความร่วมมือกับ สยามพิวรรธน์ ด้วยวิสัยัทัศน์เดียวกันว่า การมอง WEB3 ในมุมมองมหภาค (Macro Scale) และได้คำตอบถึงสิ่งที่ประเทศไทยต้องการ ก็คือ NextTech (เทคโนโลยีแห่งอนาคต) จึงเป็นเหตุผลของการเปิดพื้นที่ “SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX” เทคคอมมูนิตี้เพื่อการเรียนรู้แห่งโลกอนาคต ในพื้นที่กว่า 4,000 ตร.ม. บนชั้น 4 สยามพารากอน ที่ พันธมิตรด้านเทคโนโลยีหลายรายเข้ามาร่วม ทั้งของไทยและระดับโลก

จากที่ทางสำนักพิมพ์มติชนได้สัมภาษณ์ นายไซมอน โซจุน คิม (Mr. Simon Seojoon Kim) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหุ้นส่วนผู้จัดการ บริษัท Hashed นักลงทุนด้าน Web 3.0 รายใหญ่สุดของเกาหลีใต้ มติชนให้การวิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า ภาคท่องเที่ยวของประเทศไทย ติดอันดับต้นๆ ของโลก ได้แก่ อันดับ 4 ในการสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ อันดับ 5 ของประเทศที่มีอิทธิพลด้านมรดกวัฒนธรรมของโลก และอันดับ 4 ของจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่น่าไปเยือนที่สุดในโลก ขณะเดียวกัน ประเทศไทยมีผู้ถือเหรียญคริปโตมากสุด อันดับ 1 ของโลก เรียกได้ว่า มีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอุตสาหกรรมบล็อกเชน ประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญในเรื่อง WEB3 อย่างแน่นอน เพราะสามารถนำบล็อกเชนเข้ามาใช้ร่วมด้วย

นอกจากนี้ SCB 10X บริษัทในกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) มี ‘SCB 10X DISTRICTX’ ศูนย์กลางคอมมูนิตี้ ด้านบล็อกเชนและ Web 3.0 ระดับโลกในประเทศไทย พื้นที่สร้างเครือข่ายและต่อยอดไอเดียธุรกิจฯ Move นี้ของ SCB10X เป็นการตอกย้ำภารกิจ ‘Moonshot Mission’ ที่มุ่งสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ผ่านการลงทุนทั่วโลกในบริษัทเกี่ยวกับ Fintech และ Web 3.0 ตลอดจนบ่มเพาะสตาร์ทอัพในด้านนี้ที่น่าสนใจ

และเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา Bitkub บริษัท Cryptocurrency Exchange ชั้นนำประเทศไทย ภายใต้การบริหารของ คุณทอป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ได้จัดงาน Bitkub Meetup 2024 ครั้งที่ 3 ในหัวข้อ “THE WEB 3.0 ERA” ซึ่งได้เชิญ บริษัท Klaytn บริษัท Public Blockchain ซึ่งพัฒนาโดย GroundX เป็นบริษัทใน เครือของ Kakao ยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ ที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน รวมถึง บริษัท  MARBLEX บริษัทผู้ให้บริการบล็อกเชนเกี่ยวกับเกมซึ่งมุ่งหวังที่จะเผยแพร่เกมบล็อกเชนคุณภาพสูงที่สุดออกสู่ตลาดมากกว่าโปรเจกต์อื่นๆ

ในช่วงท้ายของกิจกรรม คุณทอปได้แสดงวิสัยทัศน์ไว้อย่างน่าสนใจว่าในอนาคต บล็อกเชนจะเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น และ Bitkub จะเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำในตลาดบล็อกเชนของ ASEAN ให้ได้

 

น่าติดตามกันต่อไปว่าอนาคตของโลกอินเตอร์เนตอย่าง Web3.0 จะสร้างโอกาสให้ไทยมีที่ยืนบนเวที Blockchain โลกอย่างไรได้บ้าง

.

พลวัฒน์ จูเจริญ

ผู้เขียนและบรรณาธิการบริหาร

.

ที่มา:

https://techsauce.co/tech-and-biz/what-is-web-three-point-zero

https://www.vpshispeed.com/blogs/what-is-web-3-0/

https://www.scb10x.com/blog/web3-futuredecentralized-internet

https://www.tnt.co.th/news/181-web3-0-internet-revolution

https://www.matichon.co.th/lifestyle/tech/news_4257400

https://form.bitkub.com/bkmeetup24-klay-mbx/?page_number=0

RECOMMEND

Brand Future Scenario
read more
11.07.2025 51

Brand Future Scenario เครื่องมือพิฆาตความในใจของลูกค้าที่ได้ผลชะงัด

ฉากทัศน์อนาคต หรือ Brand Future Scenario คือเครื่องมือ Magic ของกระบวนการวิจัยที่จะช่วยไขความลับความในใจของลูกค้าเป้าหมาย ในระหว่างการบริหารธุรกิจ บริหารกลยุทธ์การตลาด ใครเคยรู้สึกติดๆ รู้สึกอยากได้เครื่องมือที่ล้วงเข้าไปในหัวใจของลูกค้าเป้าหมาย อยากสอบถามพวกเขาจังเลยว่าทำไมถึงทำพฤติกรรมอย่างนี้ไม่ทำอีกแบบนึง แล้วถ้าเราจะเสนออะไรใหม่ๆ จะให้เสนออะไรดีถึงจะหันกลับมาสนใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งคันหัวใจ ใครจะมาหาคำตอบให้ได้กันนะ แล้วจะหายังไงถึงจะล้วงเข้าไปถึงความในใจลึกๆ ของพวกเขาได้ วันนี้เราจะมาเฉลยหนึ่งในเครื่องมือพิฆาตสำหรับล้วงลึกความในใจของลูกค้าที่ชื่อว่า Brand Future Scenario กันค่ะ ต่อเนื่องจากบทความฉบับที่แล้ว ที่ได้เล่าสู่กันฟังถึงกระบวนการวิจัยที่เรียกว่า Future Lab Research Methodology ซึ่งเป็นกระบวนการวิจัยที่เน้นการค้นหา “Unmet Needs” หรือความต้องการที่ซ่อนเร้น ความในใจของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งหนึ่งในหัวใจสำคัญคือ การเข้าใจและมีสมมติฐานของปัญหา และมองเห็นโอกาสในการเสนอทางออกที่เป็นไปได้หลายๆ ทาง เจ้าเนื้องานของการมองเห็นโอกาสในการเสนอทางออกที่เป็นไปได้หลายๆ ทางนี่แหละ เราเรีย […]

การคาดการณ์อนาคตธุรกิจด้วย Strategic Foresight: กรณีศึกษา IKEA และ Shell
read more
09.07.2025 87

‘ปักหมุด’ อนาคตของธุรกิจ ผ่านแว่น IKEA และ Shell

มองอนาคต 3 รูปแบบ: อนาคตที่น่าจะเป็น อนาคตเป็นไปได้ และ อนาคตที่อยากให้เป็น ผ่าน 2 กรณีศึกษา บริษัทชั้นนำต่างๆ ในโลกธุรกิจไม่ได้เพียงสร้างผลกำไรในปัจจุบัน แต่กำลัง “ลงทุน” ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง การลงทุนในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่ตัวเลขทางการเงิน แต่คือการทุ่มเททรัพยากร ทั้งเวลา, บุคลากร, และการวิจัย เพื่อทำความเข้าใจ และสร้างธุรกิจให้พร้อมในวันข้างหน้า เครื่องมือสำคัญที่บริษัทเหล่านี้ใช้คือ “การคาดการณ์อนาคตเชิงกลยุทธ์” (Strategic Foresight) และเครื่องมือในการใช้งานก็คือ “The Futures Cone” (กรวยแห่งอนาคต) ซึ่งช่วยให้มองเห็นภาพอนาคตที่หลากหลาย ตั้งแต่ อนาคตที่น่าจะเกิดขึ้น (Probable), อนาคตที่เป็นไปได้ (Plausible), ไปจนถึงการเลือกสร้างอนาคตที่อยากให้เป็น (Preferable) แม้จะดูคล้ายการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ที่ทำหน้าที่ ป้องกัน (Defensive) มูลค่าของธุรกิจในปัจจุบันจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น หรือการวิจัยและพัฒนา (R&D) ซึ่งเป็นการ ต่อยอด (Incremental) สร้างมูลค่าใหม่โดยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิม หรือสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อยู่ใกล้เคียงกับธุรกิจหลั […]

index วัดผลการสร้างแบรนด์
read more
04.07.2025 393

วัดผลการสร้างแบรนด์ยังไงให้ได้ผลลัพธ์ที่ทุกคนยอมรับ?

ก่อนจะพูดถึงกลยุทธ์หรือเครื่องมือไหนๆ อยากชวนคุณติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกก่อนนะคะ  สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มองว่า “แบรนด์” เป็น “สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้” และนั่นคือมุมมองที่ทำให้หลายคนยัง “ลังเล” ว่าจะลงทุนสร้างแบรนด์ดีไหม แค่ลังเล อาจทำให้คุณพลาดโอกาสสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว ✅ การลงทุนกับการสร้างแบรนด์คือสิ่งที่ถูกต้อง ✅ การสร้างแบรนด์ไม่จำเป็นต้องใช้งบเสมอไป เพราะการสร้างแบรนด์คือการควบคุมทุกจุดสัมผัสของลูกค้าให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพียงแค่มีเข็มทิศที่แม่นยำ และควบคุมทุกประสบการณ์ให้ไปในทิศทางนั้น หากมีงบ ก็สามารถเพิ่มพลังความสร้างสรรค์ให้แตกต่างจนลูกค้าจดจำได้ไม่รู้ลืม 🅾️ แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่มั่นใจคือ “จะวัดผลแบรนด์อย่างไร?” ยอดขายขึ้นหมายถึงแบรนด์ดีหรือไม่? ถ้ายอดขายไม่ขึ้น แปลว่าแบรนด์แย่หรือเปล่า? เราเข้าใจความสับสนตรงนี้ดีค่ะ เพราะแม้แต่คนที่อยู่ในวงการแบรนด์มานาน ยังต้องกลับมาตั้งคำถามนี้กับตัวเองอยู่บ่อย ๆ Baramizi Lab กับการพัฒนาเครื่องมือวัดแบรนด์ Baramizi Lab (ซึ่งหมวกหนึ่งคือนักวิจัยเพื่อการพัฒนาแบรนด์) เข้าใจหัวอกหัวใจนักสร้างแบรนด์ทุกคนใน […]

Future of Cheese
read more
03.07.2025 321

Future of Cheese: ถอดรหัสกระแสอาหารโลกผ่านมุมมองชีส

ขนาดตลาดชีสโลกและไทย: โอกาสเติบโตที่ไม่ควรมองข้าม ตลาดชีสโลกกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่า 93.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดการณ์ว่าจะเติบโตด้วยอัตรา CAGR 5.08% จากปี 2025-2033 เพื่อไปสู่มูลค่า 153.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2033 ในขณะที่แหล่งข้อมูลอื่นคาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโตไปสู่ 210.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2030 Global cheese market size projections showing steady growth from 2024 to 2030, with various forecasting models สำหรับตลาดไทย ชีสกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากมูลค่า 2,146.5 ล้านบาทในปี 2563 เติบโตเป็น 4,924.1 ล้านบาทในปี 2567 ซึ่งคิดเป็นการเติบโต 7.6% ในปีที่ผ่านมา การเติบโตนี้สะท้อนอัตรา CAGR 23.07% ระหว่างปี 2020-2024 แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของชีสในตลาดไทย Thai cheese market showing dramatic growth from 2020 to 2024, with market value more than doubling สาเหตุที่ทำให้เกิดเทรนด์ชีส 1. อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย การเติบโตของเทรนด์ชีสได้รับอิทธิพลอย่างมากจากโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok ที่มี hashtag #cottagecheese ได้รับการดูมากกว่า 500 […]

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Trends)
read more
02.07.2025 412

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Trends) ปี 2025-2026

สรุปภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2024 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกทะลุ 17 ล้านคัน คิดเป็นกว่า 20% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดทั่วโลก และคาดว่าในปี 2025 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านคัน เติบโตสูงกว่า 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน ราคาชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีความสามารถในการแข่งขันใกล้เคียงกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ขณะเดียวกัน โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟฟ้าก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว สนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างมากขึ้น 1. ยอดขายและส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปี 2024 สูงกว่า 17 ล้านคัน เติบโต 25% เมื่อเทียบกับปี 2023 คิดเป็นกว่า 20% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดทั่วโลก จีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่สุด จำหน่ายรถ EV กว่า 11 ล้านคัน คิดเป็นเกือบ 50% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศ และคิดเป็นเกือบสองในสามของยอดขาย EV โลก สหรัฐฯ มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าราว 1.6 ล้านคัน เติบโต 10% ยุโรปได้รับผลกระทบจากการถอนเงินอุดหนุน แต่ยังรักษาสัดส่วนยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ประมาณ 20% 2. แนวโน้มภูมิภาคและตลาดเกิด […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง