Baramizi Lab logo

โลกต้องการ Active Citizen พลเมืองที่เข้มแข็งและตื่นรู้

โลกต้องการ Active Citizen พลเมืองที่เข้มแข็งและตื่นรู้

Active Citizen หมายถึง พลเมืองที่มีความกระตือรือร้นที่จะเข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาสังคมทั้งในระดับประเทศและสังคมโลก มีความเชื่อว่าทุกคนต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม แม้จะไม่มีตำแหน่งหรือบทบาทด้านการปกครอง โดยเป็นเรื่องที่ถูกเอ่ยถึงอย่างกว้างขวางในทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยเชื่อว่าพลเมืองที่เข้มแข็งสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคมได้ 

แนวคิดของการเป็นพลเมืองที่กระตือรือร้นมีรากฐานมาจากอารยธรรมโบราณ แต่ก็มีการพัฒนาไปอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป สู่รูปแบบการมีส่วนร่วมที่หลากหลายที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในชุมชนและการปกครอง โดยสหราชอาณาจักร หรือ ประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่ริเริ่มแนวคิดการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง หลักสูตร ‘Citizenship’ ถือกำเนิดขึ้นและเป็นหลักสูตรภาคบังคับในโรงเรียนทุกระดับชั้นจนถึงอายุ 14 ปี นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรที่คล้ายกันในประเทศอื่นที่ทวีปยุโรป รวมถึงญี่ปุ่น ฮ่องกง จีนและอีกหลายประเทศทั่วโลก ด้วยเชื่อว่าการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้ตั้งแต่ในระบบโรงเรียน จะทำให้เด็กเยาวชนรุ่นใหม่มีความรู้ ทักษะ และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับหน้าที่พลเมือง นำไปสู่การตัดสินใจลงมือทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตด้วยความรับผิดชอบ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาตัวเอง ครอบครัว ชุมชนและสังคมรอบข้าง

Active Citizen สำคัญอย่างไร

ความเป็นพลเมืองที่กระตือรือร้นส่งเสริมความรู้สึกของชุมชนและความรับผิดชอบร่วมกัน ด้วยการทำงานร่วมกันในโครงการพลเมือง ประชาชนจะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน และสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนของตนเอง ทั้งยังสามารถช่วยต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมทางสังคมและความอยุติธรรมได้

 

แม้จะมีประโยชน์ของการเป็นพลเมืองที่กระตือรือร้น แต่อุปสรรคหลายประการก็ส่งผลกระทบต่อความสมัครใจของพลเมืองที่จะเข้าร่วม เช่น การขาดความเข้าใจในประเด็นต่างๆ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเป็นพลเมืองที่กระตือรือร้น ด้วยปัญหามากมายที่ส่งผลกระทบต่อโลกในปัจจุบัน การตามให้ทันทุกสิ่งจึงเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีภาระหน้าที่ ครอบครัวที่ต้องดูแล หรือมีซีรีส์ที่น่าดู และหากต้องการเป็นพลเมืองที่กระตือรือร้นก็ต้องมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี

ทำไมโลกยังต้องการ Active Citizen

ต่อไปนี้จะเป็นประเด็นสำคัญบางประการที่เน้นถึงความสำคัญว่าทำไมโลกยังคงต้องการพลเมืองที่กระตือรือร้น

1. ส่งเสริมประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วม

พลเมืองที่กระตือรือร้นมีส่วนร่วมในการลงคะแนนเสียง การสนับสนุน และการตัดสินใจของสาธารณะ เพื่อให้มั่นใจว่ารัฐบาลยังคงมีความรับผิดชอบและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนของตน

2.  พัฒนาสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมทางสังคม

พลเมืองที่กระตือรือร้นมักจะสนับสนุนสิทธิมนุษยชน โดยผลักดันนโยบายและแนวปฏิบัติที่ส่งเสริมความเสมอภาคและความยุติธรรมสำหรับทุกคน การเคลื่อนไหวต่างๆ เช่น สิทธิพลเมือง สิทธิ LGBTQ+ และความเท่าเทียมทางเพศ ได้รับการขับเคลื่อนโดยพลเมืองที่กระตือรือร้นที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางสังคม

3.  จัดการกับความปัญหาระดับโลก

พลเมืองที่กระตือรือร้นมีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม การรณรงค์และโครงการริเริ่มด้านสาธารณสุขมักอาศัยการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของพลเมืองเพื่อสร้างความตระหนักรู้ ป้องกัน และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

4.  ช่วยเพิ่มความสามัคคีทางสังคมและการสร้างชุมชน

พลเมืองที่กระตือรือร้นมีส่วนร่วมในการสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและเหนียวแน่นโดยการมีส่วนร่วมในองค์กรท้องถิ่น การเป็นอาสาสมัคร และสนับสนุนโครงการของชุมชนทั้งยังส่งเสริมความเข้าใจทางวัฒนธรรมและความร่วมมือผ่านเครือข่ายและความร่วมมือระดับโลก

5. การพัฒนาเศรษฐกิจ

พลเมืองที่กระตือรือร้นมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนโดยการสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่น มีส่วนร่วมในการวางแผนเศรษฐกิจ และสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจที่เป็นธรรม มักจะขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการ สร้างโอกาสและวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ สำหรับความท้าทายทางสังคม

6.  การศึกษาและการตระหนักรู้

พลเมืองที่กระตือรือร้นมักจะได้รับข้อมูลที่ดีและให้ความรู้แก่ผู้อื่นเกี่ยวกับประเด็นสำคัญ ส่งเสริมสังคมที่มีความรู้และตระหนักรู้มากขึ้น ทั้งยังส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการตัดสินใจอย่างรอบรู้ ซึ่งจำเป็นสำหรับการจัดการปัญหาระดับโลกที่ซับซ้อน

7. สันติภาพและความมั่นคง

พลเมืองที่กระตือรือร้นมักมีบทบาทในการสร้างสันติภาพและการแก้ไขข้อขัดแย้ง ส่งเสริมการสนทนาและความเข้าใจในการป้องกันและแก้ไขข้อขัดแย้ง ในช่วงวิกฤต พลเมืองที่กระตือรือร้นระดมทรัพยากรและการสนับสนุนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานและสร้างชุมชนขึ้นใหม่

การเป็นพลเมืองที่กระตือรือร้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประชาคมโลก เนื่องจากเป็นการให้อำนาจแก่บุคคลธรรมดาในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมให้ดีขึ้น และแก้ไขปัญหาเร่งด่วนระดับโลก ด้วยการเข้าร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย การสนับสนุนสิทธิมนุษยชน การมีส่วนร่วมในการสร้างชุมชน และการรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม พลเมืองที่กระตือรือร้นจะช่วยสร้างโลกที่ยุติธรรม ยั่งยืน และครอบคลุมมากขึ้น

แนวทางและการเป็น Active Citizen ที่ดี

นอกจากนี้การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งยังหมายถึงการมีส่วนร่วมในสังคมอย่างสร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบ เพื่อให้สามารถทำหน้าที่และมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นได้ ต่อไปนี้คือแนวทางที่ช่วยให้พัฒนาตัวเองให้เป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง

1. เรียนรู้และติดตามข่าวสาร

ฟังข่าวทางวิทยุหรือโทรทัศน์ และติดตามเหตุการณ์ผ่านทางสื่อออนไลน์เพื่อเข้าใจปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมและโลก การรู้จักประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมช่วยให้เข้าใจรากฐานของปัญหาและสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น

2. มีส่วนร่วมในกิจกรรมชุมชน

ร่วมกิจกรรมอาสาสมัครในชุมชน เช่น การช่วยเหลือผู้ยากไร้ การปลูกต้นไม้ หรือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาหรือเข้าร่วมกลุ่มหรือองค์กรที่มีความสนใจร่วมกัน เช่น กลุ่มสิ่งแวดล้อม กลุ่มผู้สูงอายุ หรือกลุ่มเยาวชน

3.  พัฒนาทักษะการสื่อสาร

พัฒนาทักษะการพูด การเขียน และการฟังเพื่อสื่อสารความคิดและความรู้สึกของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฝึกการอภิปรายและโต้แย้งอย่างมีเหตุผลและเปิดใจกว้างเพื่อรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง

4. สนับสนุนความเป็นธรรมและสิทธิมนุษยชน

สนับสนุนความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชนในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ ศาสนา เชื้อชาติ หรือสถานะทางสังคม มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สนับสนุนความเป็นธรรมทางสังคม เช่น การรณรงค์เพื่อสิทธิแรงงาน การสนับสนุนผู้ลี้ภัย หรือการเรียกร้องสิทธิทางการเมือง

5. มีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย

ใช้สิทธิในการลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งและการตัดสินใจทางการเมืองต่าง ๆ หรือเข้าร่วมการประชุมสาธารณะ การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และการมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจของรัฐบาล

6. สนับสนุนการเรียนรู้และการศึกษา

ติดตามการศึกษาและฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การเข้าร่วมการอบรมหรือการศึกษาออนไลน์ แล้วแบ่งปันความรู้และประสบการณ์กับผู้อื่นผ่านการสอน การบรรยาย หรือการเขียนบทความ

การเป็นพลเมืองที่กระตือรือร้นนั้นเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางสังคม และจัดการกับความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดในยุค การมีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย การสนับสนุนสิทธิมนุษยชน กิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม การสร้างชุมชน การพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา และการสร้างสันติภาพ สร้างผลกระทบระลอกคลื่นที่เปลี่ยนแปลงสังคม ในโลกที่เผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงถึงกัน การกระทำของพลเมืองที่กระตือรือร้นมีความสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยุติธรรม ยั่งยืน และครอบคลุมมากขึ้นสำหรับทุกคน ด้วยการเปิดรับบทบาทของพลเมืองที่กระตือรือร้น แต่ละคนจึงมีพลังในการสร้างความแตกต่างที่มีความหมาย และมีส่วนร่วมในความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมของมนุษยชาติ

ผู้เขียน

นางสาวจินต์ศุจี มณฑิราลัยพร

ที่มา

https://active-citizens.britishcouncil.org/about 

https://thepotential.org/knowledge/active-citizenship/ 

https://www.civiced.org/active-citizenship 

https://ymonitor.org/the-importance-of-active-citizenship-beyond-the-voting-booth/ 

RECOMMEND

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย
read more
05.12.2025 69

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย

ตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยปี 2026 กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี AI พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความคาดหวังด้านความรวดเร็วและความเป็นส่วนตัวที่สูงขึ้น ประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 65.4 ล้านคน (91% ของประชากร) และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 56.6 ล้านคน (79.1% ของประชากร) โดยค่าใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลคาดว่าจะแตะ 34.5 พันล้านบาท (+10% YoY)​ บมความนี้สรุป 10 เทรนด์หลักที่นักการตลาดไทยต้องเข้าใจและปรับตัวให้ทันในปี 2026 ตั้งแต่การใช้ AI แบบ Agentic, การตลาดผ่าน Social Commerce, ไปจนถึงความสำคัญของ Sustainability และ Omnichannel Experience โดยแต่ละเทรนด์จะมีผลกระทบโดยตรงต่อกลยุทธ์การตลาดและการลงทุนของธุรกิจไทยในปีหน้า 1. Agentic AI Marketing: จาก Generative AI สู่ AI ผู้ช่วยที่แท้จริง ปี 2026 เป็นปีที่ AI จะก้าวจากเครื่องมือสร้างคอนเทนต์ (Generative AI) ไปสู่ “Agentic AI” ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างอัตโนมัติและชาญฉลาด AI ในปี 2026 จะไม่ใช่แค่ตอบคำถามหรือสร้างภาพ แต่จะสามารถวางแผนแคมเปญ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ปรับกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ และดำเนินการตั […]

NEO Luxury Trend
read more
02.12.2025 95

NEO Luxury Trend
ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่แค่สิ่งของ
แต่คือประสบการณ์

ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่ “ของ” แต่คือ “ประสบการณ์ คุณค่า และความหมาย” โลกของ Luxury กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในปี 2025 ไม่ได้ถูกนิยามด้วยโลโก้หรือสัญลักษณ์สถานะอีกต่อไป แต่สะท้อนถึงความ เข้าใจตัวตน คุณค่าชีวิต และความตั้งใจในการเลือกบริโภค (Intentional Consumption) มากกว่าที่เคย ผู้บริโภคกลุ่ม Luxury โดยเฉพาะ Millennials และ Gen Z ไม่ได้มองความหรูในฐานะการแสดงความมั่งคั่ง แต่มองว่า Luxury คือ “คุณภาพของชีวิต” และ “ประสบการณ์ที่มีความหมาย” ที่พวกเขาเลือกลงทุนอย่างตั้งใจ ทำให้เกิดแนวคิด NEO Luxury – New Luxury Paradigm ที่ผสมผสานความยั่งยืน เทคโนโลยี ประสบการณ์เฉพาะบุคคล และหัตถศิลป์เข้าด้วยกัน บทความนี้จะพาไปสำรวจ 5 หลักการสำคัญที่กำลังกำหนดความหมายใหม่ของ Luxury ในปี 2025 1. Quiet Luxury: ความหรูหราแบบเงียบ ๆ ที่ซ่อนความเข้าใจลึกซึ้งในคุณภาพ Quiet Luxury กลายเป็นตัวแทนของความหรูยุคนี้อย่างแท้จริง เพราะผู้บริโภคไม่ได้ต้องการประกาศความร่ำรวย แต่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง ใช้งานได้นาน และบ่งบอกตัวตนกับคนที่ “เข้าใจจริง” ลักษณะเด่นของ Quiet Luxury คุณภาพเหนือปริมาณ: เลือกสินค้าชิ้นสำคัญแทนกา […]

read more
19.11.2025 718

ความมืดเริ่มเป็นความงามใหม่

สำรวจ ‘ความมืด’ ในฐานะเฉดใหม่ของการออกแบบโลกประสบการณ์ ในอดีต “ความมืด” มักถูกผูกกับภาพของความกลัว, ภัยอันตราย หรือสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ในยุคที่ผู้คนเริ่มโหยหาความสงบ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ และประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน “ความมืด” กำลังถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นทรัพยากรทางวัฒนธรรมและทางธุรกิจที่ทรงพลัง กรอบคิดว่าด้วยการใช้ความมืดเป็นแกนกลางในการออกแบบประสบการณ์และรูปแบบธุรกิจ (Dark Experience) Dark Experience คือแนวคิดของธุรกิจที่ใช้ “ความมืด” เป็นหัวใจของการออกแบบประสบการณ์ ไม่ใช่เพื่อทำให้ผู้คนหวาดกลัว แต่เพื่อ “มองเห็น” สิ่งที่สำคัญกว่าเดิม ทั้งตัวเอง ธรรมชาติ และเรื่องราวที่เคยถูกกลบอยู่ในเงามืดของสังคม สาระสำคัญของ Dark Experience Business คือการใช้ความมืดเป็น “เครื่องมือในการออกแบบประสบการณ์” แทนที่จะใช้แสงและสิ่งเร้าเข้มข้นแบบที่ธุรกิจยุคก่อนมักใช้ดึงความสนใจผู้บริโภค สังคมปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหา Overstimulation อย่างหนัก ทั้งจากแสงไฟ เมือง 24 ชั่วโมง และหน้าจอที่อยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา ทำให้สมองแทบไม่เคยได้พักจากการประมวลผล สิ่งต่างๆ เหล่านี้สะสมเป็นความล้าโดยไม่รู้ตัว […]

read more
21.11.2025 613

7 Key Economic Trends จาก The Standard Economic Forum 2025

งาน The Standard Economic Forum 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5–7 พฤศจิกายน 2568 ในธีม “Thailand’s Next Frontier” รวบรวมผู้นำระดับโลก นักเศรษฐศาสตร์ และผู้กำหนดนโยบายกว่า 100 คน เพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจไทย ภายในงานมีการเน้น 3 ความท้าทายหลัก (3D Challenges) ก่อนเข้าสู่เทรนด์เฉพาะทาง ได้แก่ 3D Challenges ก่อนที่จะเจาะลึกในเทรนด์เฉพาะ มาทำความเข้าใจภาพรวมที่กว้างขึ้นก่อน ผู้นำธุรกิจไทยได้ระบุถึง “3 ความท้าทาย Digitalization (การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล) เทคโนโลยีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นรากฐานของการแข่งขัน เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนคิดเป็น 15.5% ของ GDP โลกแล้ว โดย 70% ของมูลค่าใหม่ทั่วโลกคาดว่าจะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มดิจิทัลในทศวรรษหน้า Deglobalization (การทวนกระแสโลกาภิวัตน์)  โลกกำลังแตกออกเป็นส่วนๆ จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ จีน และพันธมิตร ไทยต้องวางตำแหน่งตัวเองใน “จุดยืนที่เป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์” (Geopolitical Neutral Position) และ “ผู้สร้างสมดุลอย่างสร้างสรรค์” (Creative Balancer) เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ […]

read more
03.11.2025 644

“Gartner” เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมธุรกิจปี 2569

ในปี 2569 จะเป็นปีที่สำคัญต่อผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ต้องเผชิญกับการหยุดชะงัก นวัตกรรม ไปจนถึงความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน เทรนด์เทคโนโลยีทั้งหมดในปีหน้าจะเชื่อมโยงกับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-driven world) และเชื่อมต่อกัน ตลอดเวลา ซึ่งองค์กรธุรกิจต้องขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ ดำเนินงานด้วยความเป็นเลิศ และสร้างความไว้วางใจทางดิจิทัลไปพร้อมกัน ผู้นำองค์กรต้องเผชิญกับ การหยุดชะงัก (Disruption) นวัตกรรม และความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็ว 10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญแห่งปี 2569 1. AI Supercomputing Platforms  AI Supercomputing Platforms (แพลตฟอร์ม AI ซูเปอร์คอมพิวติ้ง) เป็นการรวมพลังของ CPU, GPU, ชิป AI ASICs และการประมวลผลแบบนิวโรมอร์ฟิก (จำลองสมองมนุษย์) ช่วยให้องค์กรจัดการงานที่ซับซ้อนมหาศาล ปลดล็อกประสิทธิภาพและนวัตกรรม ต้องอาศัย Orchestration Software เพื่อจัดการเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนโดยอัตโนมัติ คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 องค์กรชั้นนำ 40% จะใช้สถาปัตยกรรม Hybrid Computing (เพิ่มจาก 8% ในปัจจุบัน) ตัวอย่างการใช้งาน: คิดค้นยาใหม่ในไม่กี่สัปดาห์ (แทนที่จะใช้เวลาหลายป […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง