Baramizi Lab logo

ธุรกิจยุคใหม่ต้องใช้ข้อมูลทำงาน!

ธุรกิจยุคใหม่ต้องใช้ข้อมูลทำงาน!

ธุรกิจยุคใหม่ต้องใช้ข้อมูลทำงาน! วลีที่พูดที่ไหนก็คงเห็นด้วยที่นั่น งั้นเราไม่ต้อง Start with Why! กันแล้ว😁เราไป “How” กันเลยดีมั้ยคะ #บทความโดย ปรมา ทิพย์ธนทรัพย์ (หัวหน้าทีมนักวิจัยแห่งศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซปต์แห่งอนาคต บารามีซี่ แล็บ)

เชื่อว่าผู้บริหาร นักการตลาด และผู้ประกอบการในยุคนี้เราถูกปลูกฝังจนจำขึ้นใจว่าในการทำธุรกิจ ทำการตลาด และการสร้างแบรนด์ในยุคนี้ และทุกคนก็น่าจะมีการลงมือปฏิบัติบ้างไม่มากก็น้อยแน่นอน วันนี้ Baramizi Lab ขอนำประสบการณ์ที่ทำงานด้านนี้โดยตรงร่วมกับหน่วยงานขนาดใหญ่/เล็ก ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมาแบ่งปันกันค่ะ

1. ธุรกิจ/หน่วยงานจะใช้ข้อมูลทำอะไรได้บ้าง? (Using Occasion) หน่วยงานรัฐและองค์กรธุรกิจ

ใช้ข้อมูลได้ทั้งหมด 3 โอกาสใหญ่ๆ ค่ะ

1.1 โอกาสในการค้นหาโอกาสในการพัฒนาอะไรใหม่ๆ ที่ทำให้ธุรกิจเติบโต

โอกาสนี้สำคัญมากเลยค่ะถ้าคุณเป็นธุรกิจที่ยังถวิลหาการเติบโตอยู่ ซึ่งในยุคนี้การเติบโตได้นั้นจำเป็นต้องคิดอะไรใหม่ๆ ที่เข้ามาตอบพื้นที่ความต้องการที่ว่างอยู่ (Whitespace Area) ข้อมูลที่ได้จะสำคัญต่อการนำไปตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ โจทย์การหาโอกาสพัฒนาอะไรใหม่ๆ เป็นโจทย์ที่ Baramizi Lab ได้รับบ่อยที่สุดและถนัดที่สุดเลยค่ะ โจทย์ที่เจอมีหลากหลายระดับของความใหม่

– Brand & Business Transformation โจทย์ใหญ่สุดที่อยู่คู่กับ Baramizi Lab มายาวนานเพราะรากของ Baramizi Lab เกิดจาก Baramizi Group ที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์และพัฒนาธุรกิจ โจทย์นี้ท้าทาย เราต้องหาอะไรใหม่ๆ ในหลายระดับให้กับแบรนด์ตั้งแต่ โอกาสในการกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ การค้นหาโอกาสการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ การสร้างสินค้าและบริการใหม่ๆ เพื่อมาประกอบเป็นวัตถุดิบสำคัญของการกำหนดกลยุทธ์ในการ Transform แบรนด์เพื่อคว้าโอกาสในโลกอนาคตต่อไป โจทย์สำคัญแบบนี้การวิจัยต้องเป็นไปในลักษณะ Foresight เพื่อหาอนาคต

– New Innovation Creation การค้นหาไอเดียสร้างสรรค์ Innovation ใหม่ๆ ให้กับองค์กร โจทย์นี้หลายองค์กรใช้ Design Thinking เข้ามาเป็น Process ให้คนในองค์กรคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมซึ่งในกระบวนการมีขั้นตอนที่ต้อง Empathize ซึ่งก็จะทำให้ได้ข้อมูล “Insight” และ “Pain Point” แต่จริงๆ แล้วตัวช่วยที่สำคัญอีกตัวที่จะช่วยให้สามารถ Ideate ได้ดีมากๆ คือข้อมูลวิจัยเทรนด์

– New Innovation Launch เมื่อเกิดคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ได้แล้ว การจะนำนวัตกรรมเข้าตลาดก็เป็นเรื่องที่ท้าทาย จะทำยังไงให้ผู้บริโภคเป้าหมายยอมรับและเข้าใจว่ามันจะทำให้ชีวิตพวกเขาดีขึ้นกว่าเดิม จะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคยอมรับการเปลี่ยนพฤติกรรม การวิจัยในโจทย์ลักษณะแบบนี้คือการที่ต้องเข้าใจพฤติกรรมปัจจุบันของกลุ่มเป้าหมายมากๆ และทดสอบความเป็นไปได้ของการยอมรับพฤติกรรมใหม่ๆ และความเต็มใจที่จะจ่าย

– New Product & New Service Development ค้นหาโอกาสการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ตลอดจนการนำพาสินค้าใหม่เข้าตลาด

– New Brand Creation การสร้างแบรนด์สินค้าและค้นหาโอกาสในการเข้าตลาดของแบรนด์สินค้าใหม่ น่าจะยังมีโจทย์ในการค้นหาอะไรใหม่ๆ อีกมากถ้าคุณผู้อ่านมีโจทย์อะไรที่น่าสนใจ เอามาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ

1.2 โอกาสในการค้นหาแนวทางการกระตุ้นการขาย/ การใช้บริการของกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเรื่อง

โจทย์นี้เชื่อว่าเกิดขึ้นในหลายๆ องค์กร Baramizi Lab ก็ได้รับโจทย์ลักษณะนี้บ่อยๆ ค่ะ

– โจทย์การพัฒนาต้นแบบร้านค้าใหม่ (Retail Prototype) ธุรกิจที่มีหน้าร้านส่วนใหญ่ต้องให้ความสำคัญกับประสบการณ์หน้าร้าน เพราะหน้าร้านคือ Touch Point สำคัญของการสร้างแบรนด์ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งพื้นที่ขายและพื้นที่สื่อสารไปในตัว โจทย์สำคัญที่เราเคยได้รับการท้าทาย เซ่น ต้นแบบร้าน Barbq Plaza ใหม่, ต้นแบบโซน Kitchen Studio ของบุญถาวร, ต้นแบบร้าน Jaymart, ต้นแบบร้าน SCG Home, TCDC Common (ศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบสาขา Communication Design @ Ideo สามย่าน) เป็นต้น

– โจทย์การพัฒนากลยุทธ์ทางการออกแบบ (Design Strategy) เป็นการวิจัยการออกแบบ (Design Research) เพื่อสร้างสรรค์โจทย์ทางการออกแบบ (Design Brief) เพื่อให้นักออกแบบสามารถมีทิศทางในการออกแบบที่ตรงโจทย์ ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย และบรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ

– โจทย์การปรับภาพลักษณ์แบรนด์สินค้าใหม่ด้วยการออกแบบ Packaging (Product Experience)

– โจทย์การพัฒนาการออกแบบบริการ (Service Design) – โจทย์การสร้างสรรค์แคมเปญทางการสื่อสารแบรนด์ (Communication Experience)

– โจทย์การเจาะลึกทำความเข้าใจสถานการณ์ยอดขายตกและค้นหาแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการขาย โจทย์ที่เฉพาะเจาะจงที่เกี่ยวพันกับการพัฒนาองค์ประกอบต่างๆ ของธุรกิจมีอะไรได้อีกบ้างลองแชร์กันนะคะว่า Baramizi Lab เคยทำมั้ย หรือนำมาปรึกษากันได้ค่ะว่าเจอโจทย์แบบนี้ควรหาข้อมูลแบบไหนดี

1.3 โอกาสในการประเมิน/ วัดผลการดำเนินงานของทีมทำงาน

โจทย์กลุ่มนี้สำคัญกับธุรกิจไม่แพ้กันกับโจทย์กลุ่มอื่นๆ การติดตามประเมินผลนอกจากจะทำให้องค์กรไหวตัวทัน ปรับตัวปรับกลยุทธ์ได้ไวแล้วการเก็บข้อมูลในโจทย์นี้จะทำให้องค์กรเกิดองค์ความรู้เฉพาะขององค์กรเองในการดำเนินงานในสายธุรกิจของตน และนอกจากนี้พอองค์กรเริ่มเติบใหญ่ขึ้น การมีข้อมูลประเภทการประเมินนี้ยังสามารถใช้สร้าง KPI หรือตัวชี้วัดให้กับทีมทำงานทีมต่างๆ รวมถึงเป็น KPI ของการสร้างแบรนด์ (Brand KPI) ได้อีกด้วย โจทย์ย่อยในกลุ่มนี้ เช่น

– การตรวจสอบสุขภาพแบรนด์ประจำปี (Brand Health Check) ตรวจสอบไปที่ผู้บริโภคในตลาดในภาพกลางเพื่อประเมินประสิทธิภาพการสื่อสารเข้าถึงผู้บริโภค – การประเมินความพึงพอใจจากการได้รับบริการ (Customer Satisfaction Survey) การประเมินค่า NPS (Net Promoter Score) และการประเมิน Brand Superfans Index หลายองค์กรใช้มาตรวัดเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดของทีมทำงาน

– Campaign Evaluation การประเมินพลลัพธ์หลังการ Launch Campaign การประเมินผลสม่ำเสมอในการดำเนินงานและใช้ผลข้อมูลที่ได้ในการพัฒนาการทำงานและคิดค้นกลยุทธ์ขับเคลื่อนหรือแก้เกมเสมอเป็นนิสัยที่ดีที่จะทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นต่อการรับมือกับโลกอนาคต

2. ธุรกิจ/หน่วยงานจะหาข้อมูลมาตอบโจทย์โอกาสการใช้งานเหล่านั้นได้ยังไง? (Research Methodology)

วิธีการได้มาซึ่งข้อมูลเดี๋ยวนี้ก็มีตัวเลือกที่มากมายแบ่งที่มาของข้อมูลในยุคนี้ได้เป็นประมาณ 4 ที่มาค่ะ ได้แก่

     2.1 การเก็บข้อมูลไปที่กลุ่มเป้าหมายโดยตรง คือ การเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่คัดเลือกมาจากกลุ่มเป้าหมายโดยตรงซึ่งนับเป็นวิธีแบบ Traditional ซึ่งต้องบอกว่ายังคงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่ค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ก็มีเครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูลยุคใหม่ที่มีประโยชน์มากๆ เหมือนกันในข้อนี้จึงอาจจะแบ่งย่อยด้วยมิติของทันสมัยของเครื่องมือ

2.1.1 เครื่องมือดั้งเดิม: วิธีการเก็บข้อมูลทั้งเชิงคุณภาพที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน ได้แก่ การทำ Focus Group (สนทนากลุ่ม), การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) หรือขยับขึ้นเป็นวิธีที่สร้างความมีส่วนร่วมมากขึ้นชวนให้ผู้เข้าร่วมได้คิดสร้างสรรค์ได้วิธีการ User Co-creation นอกจากนี้ยังมีวิธีการที่ใช้การสังเกตการณ์ ส่วนการเก็บข้อมูลแบบเชิงปริมาณ วิธีการที่นิยมใช้ เช่น การเก็บแบบสอบถาม หรือการสัมภาษณ์แบบต่อหน้า (Face-to-face Interview) ซึ่งการกระจายกลุ่มตัวอย่างจะขึ้นกับขอบเขตที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ วิธีการที่ใช้งานกันมีวนเวียนอยู่เท่านี้ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ คอนเทนต์ที่นักวิจัยจะใส่เข้าไปเพื่อดึงประเด็นสำคัญออกมาจากกลุ่มตัวอย่างให้ได้ ที่ Baramizi Lab เรามีหลักการ Future Lab Research Methodology ที่จะมีจุดเน้นในการสร้างคอนเทนต์ที่จะใช้ในการล้วง Insight & Unmet Needs จากกลุ่มเป้าหมายทำให้ได้ข้อมูลที่เต็มไปด้วยโอกาสแห่งอนาคต

2.1.2 เครื่องมือสมัยใหม่: ความสมัยใหม่ในการวิจัยเชิงคุณภาพน่าจะเป็นการใช้อุปกรณ์ใหม่เข้าช่วย อาทิ การสัมภาษณ์ผ่านโปรแกรมประชุมทางไกล การใช้อุปกรณ์ Track ลูกตาเพื่อศึกษาตำแหน่งการมองหรืออื่นๆ ด้านการวิจัยเชิงปริมาณเครื่องมือสมัยที่ถูกนำมาใช้มาก ได้แก่ แบบสอบถามออนไลน์ ซึ่งมีข้อดีด้านงบประมาณที่ลดลงและสามารถเชื่อมต่อการแสดงผลได้แบบ Real-Time และนอกจากจะมีเครื่องมือที่เป็นแบบสอบถามออนไลน์แล้วในยุคนี้ยังมีบริการสะสมถังของกลุ่มเป้าหมาย (Panelist) ที่จะสามารถทำให้ปล่อยแบบสอบถามออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและได้สัดส่วนของกลุ่มตัวอย่างตามที่กำหนด

     2.2 การเก็บข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) คือ การศึกษาผ่านข้อมูลต่างๆ ที่มีคนทำไว้แล้ว เช่น ข้อมูลวิจัยในอดีต, ข้อมูลวิจัยเทรนด์, กรณีศึกษา, ข้อมูลคู่แข่งที่มีการเผยแพร่ในช่องทางออนไลน์ เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์เป็นอย่างมากกับโจทย์ของการค้นหาอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะข้อมูลวิจัยเทรนด์ที่เหมือนทำหน้าที่เปิดให้เห็นประตูสู่อนาคตหลายๆ บานให้เห็นโอกาสที่เป็นไปได้ทั้งหมด

     2.3 การเก็บข้อมูลด้วยเครื่องมือเทคโนโลยีสมัยใหม่ ด้วยโลกในยุคปัจจุบันการติดต่อสื่อสารและกิจกรรมต่างๆ ของผู้คนย้ายไปอยู่ในโลกออนไลน์ แทบทั้งหมด อีกทั้งมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ถูกพัฒนาขึ้นมากมาย ทำให้เกิดโอกาสในการได้มาซึ่งข้อมูลที่เพิ่มขึ้น (แต่ไม่อาจบอกได้ว่ามาแทนที่รูปแบบ Traditional ได้นะคะ เรียกว่าเกิดโอกาสการได้มาซึ่งข้อมูลแบบใหม่ที่เครื่องมือดั้งเดิมทำไม่ได้ แต่ในฟังก์ชั่นการใช้ข้อมูลของธุรกิจ ข้อมูลที่มาจากวิธีดั้งเดิมยังคงมีความสำคัญอยู่) สามารถแบ่งกลุ่มเทคโนโลยีที่มาใช้เก็บข้อมูลได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

2.3.1 Social Listening ต้องยกให้เป็นเครื่องมือที่เก็บข้อมูลวิจัยยุคใหม่ที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย เนื่องจากทุกวันนี่ผู้คนทั้งหมดอยู่ในโลกสังคมออนไลน์ ผู้คนในนั้นมีการ Generate ข้อมูลความในใจกันตลอดเวลา ดังนั้น การมีเครื่องมือที่สามารถกวาดเรื่องราวทั้งหมดเหล่านั้นออกมาได้ ทำให้เกิดโอกาสในการเข้าถึงข้อมูล Insight ที่ทันต่อเหตุการณ์ ข้อมูลที่จะได้จากการวิจัยด้วยวิธีนี้สามารถสร้างประโยชน์ในการวิเคราะห์ได้ทั้งกับโจทย์เชิงประเมิน และโจทย์ในการค้นหาอะไรใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม เราต้องใช้ข้อมูลบนความเข้าใจที่มาว่าข้อมูลบนโลกโซเชียลไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดของคนทั้งหมด อาจมีคนที่เสียงดังกว่าคนทั่วไป อาจมีการโพสต์เรื่องราวที่รู้สึกมากกว่ามาตรฐานปกติไม่ว่าจะโกรธ ดีใจ หรือเศร้าเสียใจ และเงื่อนไขที่จำกัดอีกเรื่องหนึ่งคือ เงื่อนไขที่แพลตฟอร์มยอมให้เก็บข้อมูล เช่น Facebook ที่ไม่ยินยอมให้เก็บข้อมูลที่เป็นแอคเคานต์บุคคลเก็บได้เฉพาะ Fanpage เป็นต้น

2.3.2 อุปกรณ์เพื่อการเก็บข้อมูลเชิงพฤติกรรม (ทั้งพฤติกรรมออนไลน์และออฟไลน์) กลุ่มนี้ในปัจจุบันน่าจะขอมัดรวมรูปแบบเทคโนโลยีที่หลากหลายไว้ด้วยกันก่อน อุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลเชิงพฤติกรรมนี้ มีตั้งแต่ พฤติกรรมการเข้าใช้แพลตฟอร์มกรณีมีเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มเป็นของตัวเองซึ่งโดยทั่วไปทุกพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในออนไลน์ย่อมทิ้ง Footprint ไว้อยู่แล้วเมื่อมีการเก็บและทำการวิเคราะห์ก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้, พฤติกรรมการซื้อสินค้า เช่น ระบบ CRM ต่างๆ ที่มีการเก็บข้อมูลลูกค้าและสมาชิกอย่างต่อเนื่อง นำมาสู่การวิเคราะห์ Segmentation ได้, พฤติกรรมในพื้นที่สโตร์ เช่น อุปกรณ์ประเภทกล้องที่จับพฤติกรรมที่เกิดขึ้น, พฤติกรรมการมองข้อมูลต่างๆ (ใช้อุปกรณ์ประเภทกล้องเช่นกัน) เหล่านี้ล้วนเริ่มมีตัวเลือกเข้ามาให้แบรนด์ธุรกิจได้เลือกใช้งานอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ข้อมูลทุกท่านต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องรู้วัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลของเราและให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นมากกว่าให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีหรือความใหม่ของอุปกรณ์ในการเก็บข้อมูล

3. ธุรกิจ/หน่วยงานได้ข้อมูลมาแล้วต้องใช้ข้อมูลยังไง?

โดยปกติผู้ที่มีโจทย์ในการใช้ข้อมูลและกำหนดโจทย์อย่างแม่นยำจนได้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการแล้วก็ย่อมดึงข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ตามที่วางแผน แต่จากประสบการณ์ของ Baramizi Lab เราพบว่าอาจมีข้อมูลบางกลุ่มที่ผู้ใช้งานยังไม่คุ้นเคยมากนักแต่เป็นประโยชน์ เช่น ข้อมูลวิจัยเทรนด์ ที่สามารถใช้ประโยชน์ในกระบวนการคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ขององค์กรได้, ข้อมูลประเภท Psychological Segmentation ที่เสนอข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายที่ถูกแบ่งส่วนตลาดด้วยปัจจัยทางจิตวิทยา, ข้อมูลด้าน Needs และ Unmet Needs ของกลุ่มเป้าหมาย เหล่านี้เป็นข้อมูลที่เหมาะสำหรับการใช้งานสร้างสรรค์กลยุทธ์ การนำกระบวนการเวิร์คช็อปการใช้ข้อมูลเข้ามาดำเนินการภายในองค์กรและใช้ข้อมูลป้อนให้ผู้เข้าร่วมมีทางเลือกในการคิดสร้างสรรค์ที่แม่นยำ กระบวนการเวิร์คช็อปที่นำมาใช้ อาทิ Trend Gymnasium Workshop, Brand Future Vision Workshop กิจกรรมเหล่านี้นอกเหนือจากเป็นการทำให้ทีมได้ใช้ข้อมูลอย่างเต็มที่แล้วยังเป็นการแนะแนวทางกระบวนการทำงานที่ทีมสามารถทำซ้ำเพื่อสร้างกิจกรรมทำงานร่วมกันจนเป็นกิจวัตรในองค์กรได้อีกด้วย

หวังว่าบทความในตอนนี้จะช่วยให้คุณผู้อ่านเกิดมุมมองในการพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรยุคใหม่ที่ใช้ข้อมูลทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะ

 

ผู้เขียน

คุณปรมา ทิพย์ธนทรัพย์

หัวหน้าทีมนักวิจัยแห่งศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซปต์แห่งอนาคต บารามีซี่ แล็บ

RECOMMEND

สรุป Pinterest Predicts 2026
read more
19.12.2025 114

เจาะลึก Pinterest Predicts 2026: ถอดรหัส 4 กลยุทธ์ธุรกิจ เปลี่ยน “เทรนด์” ให้เป็น “ยอดขาย”

ในโลกธุรกิจที่หมุนเร็ว การรู้เทรนด์ก่อนคู่แข่งเพียงก้าวเดียว อาจหมายถึงส่วนแบ่งการตลาดมหาศาล ล่าสุด Pinterest แพลตฟอร์มที่เปรียบเสมือน “ลูกแก้วพยากรณ์” ของโลกการตลาด ได้ปล่อยรายงาน Pinterest Predicts สำหรับปี 2026 ออกมาแล้ว ความน่าสนใจของรายงานนี้คือ Pinterest ไม่ได้วิเคราะห์จากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่วิเคราะห์จาก “Search Intent” (เจตนาการค้นหา) ของผู้ใช้งานกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความต้องการซื้อที่จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เราพบว่าปี 2026 จะไม่ใช่ปีแห่งความ “เรียบง่าย” หรือ “มินิมอล” อีกต่อไป แต่มันคือปีแห่งการแสดงออก (Expression), สัมผัส (Sensory), และการผสมผสาน (Hybrid) นี่คือ 4 กลยุทธ์ทางธุรกิจ ที่เราถอดรหัสมาจากเทรนด์ เพื่อให้ผู้ประกอบการและนักการตลาดนำไปปรับทิศทางแบรนด์ได้ทันที กลยุทธ์ที่ 1: Sensory Marketing – เอาชนะใจด้วย “ผิวสัมผัส” และ “สีสัน” ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราคุ้นชินกับความงามแบบ “Clean Girl Aesthetic” และงานดีไซน์แบบ “Flat Design […]

read more
18.12.2025 361

Classic or Create Christmas Tree เศรษฐกิจ ธุรกิจ พฤติกรรม ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงของต้นคริสต์มาส

เศรษฐกิจ ธุรกิจ พฤติกรรม ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงของต้นคริสต์มาส แม้เทศกาลคริสต์มาสจะไม่ได้มีต้นกำเนิดที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยโดยตรง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความนิยมและอิทธิพลของเทศกาลได้แพร่กระจายไปแทบทุกมุมโลก “บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง” กลายเป็นกลิ่นอายที่พบได้ทั้งในเมืองใหญ่ ห้างสรรพสินค้า พื้นที่สาธารณะ ไปจนถึงพื้นที่ส่วนตัวอย่างบ้านและคอนโด ในบริบทของการออกแบบและตกแต่งที่อยู่อาศัย “ต้นคริสต์มาส” (หรือก็คือต้นส้น) ทำหน้าที่เป็น “พระเอก” ของงานนี้มาอย่างยาวนาน เป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนรับรู้ถึงเทศกาลได้ทันที อย่างไรก็ตาม หากมองต้นคริสต์มาสในฐานะ “องค์ประกอบการออกแบบ” มากกว่าของประดับตามฤดูกาล คำถามสำคัญคือที่ผ่านมา และในอนาคต อะไรบ้างที่จะเข้ามากำหนดหน้าตาและบทบาทของมัน? แน่นอนว่าเรามักบอกว่าเลือกเพราะ “ความสวยงาม” แต่ความจริงแล้ว การเลือกนั้นมีระบบเศรษฐกิจ สภาพสังคม และค่านิยมร่วมสมัยซ่อนอยู่เสมอ ตั้งแต่รูปแบบการอยู่อาศัยในเมือง ความคุ้มค่าและต้นทุนที่ผันผวน ตามข้อมูลขององค์การการค้าโลก (WTO) ปริมาณการค้าระหว่างประเทศโดยทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 15% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยมีแรงขับเ […]

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย
read more
05.12.2025 1,495

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย

ตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยปี 2026 กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี AI พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความคาดหวังด้านความรวดเร็วและความเป็นส่วนตัวที่สูงขึ้น ประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 65.4 ล้านคน (91% ของประชากร) และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 56.6 ล้านคน (79.1% ของประชากร) โดยค่าใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลคาดว่าจะแตะ 34.5 พันล้านบาท (+10% YoY)​ บทความนี้สรุป 10 เทรนด์หลักที่นักการตลาดไทยต้องเข้าใจและปรับตัวให้ทันในปี 2026 ตั้งแต่การใช้ AI แบบ Agentic, การตลาดผ่าน Social Commerce, ไปจนถึงความสำคัญของ Sustainability และ Omnichannel Experience โดยแต่ละเทรนด์จะมีผลกระทบโดยตรงต่อกลยุทธ์การตลาดและการลงทุนของธุรกิจไทยในปีหน้า 1. Agentic AI Marketing: จาก Generative AI สู่ AI ผู้ช่วยที่แท้จริง ปี 2026 เป็นปีที่ AI จะก้าวจากเครื่องมือสร้างคอนเทนต์ (Generative AI) ไปสู่ “Agentic AI” ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างอัตโนมัติและชาญฉลาด AI ในปี 2026 จะไม่ใช่แค่ตอบคำถามหรือสร้างภาพ แต่จะสามารถวางแผนแคมเปญ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ปรับกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ และดำเนินการตั […]

cotent tourism
read more
25.12.2025 29

หลังยุคโควิด… การเดินทางของเราก็เปลี่ยนไป

เมื่อโลกหยุดเดินชั่วขณะ หลายคนเริ่มมองเห็นว่า “การท่องเที่ยว” ไม่ได้หมายถึงการไปพักผ่อนแบบเดิมอีกต่อไป แต่มันคือการได้ค้นพบตัวเอง เรียนรู้เรื่องราวรอบตัว และเติมความหมายบางอย่างที่เราอาจหลงลืมไปในช่วงที่ต้องอยู่กับที่เป็นเวลานาน หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านไป พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน คนเดินทาง “อย่างตั้งใจมากขึ้น” ใส่ใจ “ที่มาที่ไปของสถานที่” มากกว่าเพียงภาพถ่าย อยากรู้ “เบื้องหลังประสบการณ์” มากกว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้า นี่จึงเป็นจุดที่ Content Tourism หรือ การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เนื้อหาและเรื่องราว เริ่มกลายเป็นกระแสสำคัญที่กำลังเติบโต เพราะคนในยุคนี้…ไม่ได้อยากเที่ยวแค่เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ต้องการ “เชื่อมโยง” กับผู้คน สถานที่ วัฒนธรรม และเรื่องราวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้พบเจอ Content Tourism คืออะไร? มันคือการเดินทางที่ดึงดูดเรา ด้วยเรื่องราว เพราะทุกสถานที่ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ล้วนมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เกิดขึ้น มีผู้คนที่เคยใช้ชีวิต มีประวัติที่ถูกส่งต่อ มีวิธีคิดที่ทำให้เราเข้าใจโลกได้มากขึ้น Content Tourism ทำให้การเดินทางไม […]

Wellness Thailand
read more
24.12.2025 95

Wellness Thailand: จาก “Service Destination” สู่การก้าวไปครองบัลลังก์ “Wellness Destination” ของโลก

คุณอยากเห็นประเทศไทยยืนอยู่ตรงไหนในตลาด Global Wellness ที่คนทั่วโลกนึกถึงเป็นอันดับแรก?  เมื่อการท่องเที่ยวไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่คือการ “ยกระดับคุณภาพชีวิต”  กระแสเทรนด์เรื่อง Wellness เป็นโอกาสทองที่ไทยกำลังจะคว้าโอกาสเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาด Wellness Tourism ระดับโลก เพราะด้วยศักยภาพที่เรามีครบ ทั้งด้านการแพทย์สูง (Medical) และ ด้านภูมิปัญญาจากธรรมชาติและจิตวิญญาณท้องถิ่น (Wisdom of Nature) และในปัจจุบันเมื่อการท่องเที่ยวไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่คือการ “ยกระดับคุณภาพชีวิต” ยิ่งทำให้ไทยมีโอกาสในการวางตำแหน่งตัวเองด้วยจุดแข็งแบบ “Bi-Polar Strategy” หรือ “กลยุทธ์ 2 ขั้ว” ได้อย่างลงตัว เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายศักยภาพ  (เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น ฮ่องกง และมาเลเซีย) ที่มองหาการดูแลสุขภาพแบบรากฐานองค์รวมจนถึงระดับเซลล์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งตรงนี้เอง…ที่ประเทศไทยกำลัง “ยืนอยู่บนโอกาสครั้งใหญ่” ขั้วที่ 1: Advanced Tech – ความแข็งแกร่งระดับ Medical Hub ถ้าพูดถึงการรักษาพยาบาล ไทยติดอันดับ 1 ใน 20 ประเทศด้านการแพทย์ท่องเที่ยว ที่สร้างรายได้ 670 พันล้านบาทจากธุรกิจ Wellnes […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง