Baramizi Lab logo

App หาคู่ การแข่งขัน ขนาดตลาด และฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

App หาคู่ การแข่งขัน ขนาดตลาด และฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

New Romantics เมื่อการหาแฟนไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ความโรแมนติกเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามยุคสมัย ปัจจุบันแอพหาคู่หรือ Dating application ได้ปฏิวัติวิธีที่ผู้คนเชื่อมต่อกัน ก่อให้เกิดการก้าวข้ามขอบเขตทางภูมิศาสตร์และอุปสรรคทางวัฒนธรรม ตั้งแต่การปัดไปทางขวาไปจนถึงการออกเดตเสมือนจริง แอพเหล่านี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนโฉมวิธีที่แต่ละบุคคลพบปะกับผู้ที่อาจเป็นคู่ชีวิตเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนการรับรู้ของสังคมเกี่ยวกับการหาคู่ออนไลน์อีกด้วย ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและการเชื่อมต่อทั่วโลกเติบโตขึ้น บทบาทของแอพหาคู่ในการอำนวยความสะดวกในความสัมพันธ์ที่มีความหมายและการเชื่อมต่อส่วนบุคคลจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย 

ตลาดรวมคนโสดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

การวิเคราะห์ตลาดแอพหาคู่ทั่วโลกเผยให้เห็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ที่เกิดจากการพัฒนาบรรทัดฐานทางสังคมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รายได้ในตลาดการหาคู่ออนไลน์คาดว่าจะสูงถึง 3.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 รายได้คาดว่าจะแสดงอัตราการเติบโตต่อปีหรือ CAGR ที่ 2.48% ส่งผลให้ปริมาณตลาดที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2572 เนื่องจากได้รับแรงหนุนหลักจากการใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นและการยอมรับที่เพิ่มขึ้นของการหาคู่ออนไลน์ในฐานะวิธีการหลักในการพบปะกับสานสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยแอพลิเคชั่นหาคู่จะใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การจับคู่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โปรไฟล์วิดีโอ และกิจกรรมการออกเดทเสมือนจริง เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ การเปลี่ยนแปลงในระดับภูมิภาคในการนำไปใช้

แอพลิเคชั่นหาคู่ในตลาดโลกนั้นก็มีหลากหลายให้เลือกใช้ ได้แก่

1. Tinder 

ผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดในตลาดแอพหาคู่ทั่วโลกซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายเพียงปัดซ้ายขวาและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มประชากรต่างๆ 

2. Bumble

เป็นแอพลิเคชั่นหาคู่ที่ได้รับความสนใจจากแนวทางเฉพาะที่ให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มการสนทนาก่อน ดึงดูดผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมประสบการณ์การออกเดทของตนเองมากขึ้น

3. Match group

เป็นเจ้าของผลงานแอพหาคู่อย่าง Match.com, OkCupid, Plenty of Fish และอื่นๆ แพลตฟอร์มเหล่านี้รองรับกลุ่มประชากรและความต้องการที่แตกต่างกัน โดยนำเสนอฟีเจอร์ที่หลากหลายแก่ผู้ใช้เพื่อเชื่อมต่อและพบกับคู่รักที่มีศักยภาพ

4. HER

ชุมชนที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับชุมชนเลสเบี้ยน เควียร์ ไบเซ็กชวล และแซฟฟิก แอพลิเคชั่นถูกออกแบบมาสำหรับผู้หญิง Non-binary และคนข้ามเพศเพื่อสร้างชุมชนที่ปลอดภัย

5. Momo

เป็นแอพโซเชียลเน็ตเวิร์กของจีนที่เริ่มต้นจากแพลตฟอร์มหาเพื่อนธรรมดาก่อนพัฒนาเป็นแอพมัลติฟังก์ชั่นที่มีคุณลักษณะการออกเดทในบริการต่างๆ ได้รับความนิยมในประเทศจีนจากความสามารถด้านเครือข่ายโซเชียล รวมถึงฟีเจอร์การออกเดท การสตรีมสด และการเล่นเกม

ฟีเจอร์หาคู่พร้อมใช้งานบน Facebook

เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของฐานผู้ใช้ที่กว้างขวาง Facebook ได้เปิดตัวฟีเจอร์การออกเดทใหม่ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อที่มีความหมาย นวัตกรรมใหม่นี้เปิดตัวครั้งแรกในบางตลาด โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลผู้ใช้ที่กว้างขวางของ Facebook เพื่อนำเสนอประสบการณ์การค้นหาคู่ที่เป็นส่วนตัว เพื่อให้มั่นใจว่าการโต้ตอบทางสังคมและการตั้งค่าการออกเดทจะดำเนินการได้อย่างราบรื่น ฟีเจอร์นี้รวมอัลกอริธึมขั้นสูงเพื่อแนะนำการจับคู่ที่เป็นไปได้โดยพิจารณาจากความสนใจที่มีร่วมกัน เพื่อนร่วมกัน และกิจกรรมบนแพลตฟอร์ม 

การควบคุมความเป็นส่วนตัวแบบผสานรวมทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการโปรไฟล์การหาคู่ของตนได้อย่างอิสระจากบัญชี Facebook หลักของตนก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ผู้ใช้ในช่วงแรกชื่นชมความสะดวกในการค้นหาผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นคู่รักในแวดวงสังคมที่มีอยู่ โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพของฟีเจอร์นี้ในการกำหนดวิธีที่ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับทั้งมิตรภาพและความสัมพันธ์โรแมนติกบนแพลตฟอร์มที่กว้างขวางของ Facebook เนื่องจาก Facebook ยังคงปรับปรุงและขยายฟีเจอร์นี้ไปทั่วโลก จึงเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการเครือข่ายโซเชียลเข้ากับการหาคู่ออนไลน์ โดยมีเป้าหมายที่จะมอบประสบการณ์การหาคู่ดิจิทัลที่ครอบคลุมและสมบูรณ์แก่ผู้ใช้

ฟีเจอร์บน App หาคู่มีอะไรบ้าง?

แต่ละแอพลิเคชั่นหาคู่ก็จะมีฟีเจอร์การใช้งานที่แตกต่างกันหรือคล้ายคลึงกันซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแอพนั้นๆ และนี่คือฟีเจอร์ที่มี ยกตัวอย่างเช่น

1. อัลกอริธึมการจับคู่ขั้นสูง: แอพอย่าง eHarmony และ OkCupid ใช้อัลกอริธึมที่ซับซ้อนในการวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมของผู้ใช้ โดยให้คำแนะนำการจับคู่ที่เข้ากันได้สูงโดยพิจารณาจากลักษณะบุคลิกภาพ ความสนใจ และเป้าหมายของความสัมพันธ์

2.  การปัดและการจับคู่ทันที: ฟีเจอร์การปัดซึ่งเป็นที่นิยมโดย Tinder ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียกดูโปรไฟล์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และแสดงความสนใจด้วยการปัดไปทางขวาหรือปิดด้วยการปัดไปทางซ้าย การปัดขวาร่วมกันส่งผลให้เกิดการจับคู่ทันที อำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ

3. โปรไฟล์วิดีโอ: แอพลิเคชั่นบางอัน เช่น Bumble และ Hinge ได้แนะนำโปรไฟล์วิดีโอหรือฟีเจอร์แฮงเอาท์วิดีโอ สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถเห็นภาพก่อนที่จะตัดสินใจพบปะด้วยตนเองในชีวิตจริง

4. ตัวกรองเฉพาะกลุ่มและเฉพาะทาง: แอพลคชั่นอย่าง Grindr (สำหรับชุมชน LGBTQ+) และ Christian Mingle (สำหรับคนโสดที่เป็นคริสเตียน) เสนอตัวกรองและหมวดหมู่พิเศษเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหารายการที่ตรงกับความสนใจหรือภูมิหลังที่เฉพาะเจาะจง

5. คำแนะนำที่ขับเคลื่อนด้วย AI: เทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้มากขึ้นในการวิเคราะห์การตั้งค่าและพฤติกรรมของผู้ใช้ โดยเสนอคำแนะนำส่วนบุคคลสำหรับการจับคู่ และปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้เมื่อเวลาผ่านไป

6. การจับคู่ตามตำแหน่ง: ใช้การระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เพื่อแสดงคู่แมตช์ที่เป็นไปได้ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งอำนวยความสะดวกในการสานสัมพันธ์ในชีวิตจริง พบได้ที่แอพลิเคชั่นอย่าง Tinder และ Happn

7. กิจกรรมและการสร้างชุมชน: เป็นการผสานรวมฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ค้นพบและเข้าร่วมกิจกรรมเสมือนจริงหรือแบบเจอหน้ากันตามความสนใจที่มีร่วมกัน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนนอกเหนือจากการจับคู่แบบดั้งเดิม

ฟีเจอร์เหล่านี้ไม่เพียงสร้างความแตกต่างให้กับแอพหาคู่ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่ยังตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลาย เพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ และส่งเสริมการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและมีความหมายมากขึ้นในแวดวงการหาคู่ดิจิทัลอีกด้วย

 

ผู้เขียน

นางสาวจินต์ศุจี มณฑิราลัยพร

 

ที่มา

https://www.statista.com/outlook/emo/dating-services/online-dating/worldwide 

https://www.apphitect.ae/blog/best-dating-app-features/ 

https://krify.co/top-12-dating-app-features/ 

https://www.cnet.com/tech/services-and-software/best-online-dating-apps/ 

RECOMMEND

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย
read more
05.12.2025 60

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย

ตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยปี 2026 กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี AI พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความคาดหวังด้านความรวดเร็วและความเป็นส่วนตัวที่สูงขึ้น ประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 65.4 ล้านคน (91% ของประชากร) และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 56.6 ล้านคน (79.1% ของประชากร) โดยค่าใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลคาดว่าจะแตะ 34.5 พันล้านบาท (+10% YoY)​ บมความนี้สรุป 10 เทรนด์หลักที่นักการตลาดไทยต้องเข้าใจและปรับตัวให้ทันในปี 2026 ตั้งแต่การใช้ AI แบบ Agentic, การตลาดผ่าน Social Commerce, ไปจนถึงความสำคัญของ Sustainability และ Omnichannel Experience โดยแต่ละเทรนด์จะมีผลกระทบโดยตรงต่อกลยุทธ์การตลาดและการลงทุนของธุรกิจไทยในปีหน้า 1. Agentic AI Marketing: จาก Generative AI สู่ AI ผู้ช่วยที่แท้จริง ปี 2026 เป็นปีที่ AI จะก้าวจากเครื่องมือสร้างคอนเทนต์ (Generative AI) ไปสู่ “Agentic AI” ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างอัตโนมัติและชาญฉลาด AI ในปี 2026 จะไม่ใช่แค่ตอบคำถามหรือสร้างภาพ แต่จะสามารถวางแผนแคมเปญ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ปรับกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ และดำเนินการตั […]

NEO Luxury Trend
read more
02.12.2025 94

NEO Luxury Trend
ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่แค่สิ่งของ
แต่คือประสบการณ์

ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่ “ของ” แต่คือ “ประสบการณ์ คุณค่า และความหมาย” โลกของ Luxury กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในปี 2025 ไม่ได้ถูกนิยามด้วยโลโก้หรือสัญลักษณ์สถานะอีกต่อไป แต่สะท้อนถึงความ เข้าใจตัวตน คุณค่าชีวิต และความตั้งใจในการเลือกบริโภค (Intentional Consumption) มากกว่าที่เคย ผู้บริโภคกลุ่ม Luxury โดยเฉพาะ Millennials และ Gen Z ไม่ได้มองความหรูในฐานะการแสดงความมั่งคั่ง แต่มองว่า Luxury คือ “คุณภาพของชีวิต” และ “ประสบการณ์ที่มีความหมาย” ที่พวกเขาเลือกลงทุนอย่างตั้งใจ ทำให้เกิดแนวคิด NEO Luxury – New Luxury Paradigm ที่ผสมผสานความยั่งยืน เทคโนโลยี ประสบการณ์เฉพาะบุคคล และหัตถศิลป์เข้าด้วยกัน บทความนี้จะพาไปสำรวจ 5 หลักการสำคัญที่กำลังกำหนดความหมายใหม่ของ Luxury ในปี 2025 1. Quiet Luxury: ความหรูหราแบบเงียบ ๆ ที่ซ่อนความเข้าใจลึกซึ้งในคุณภาพ Quiet Luxury กลายเป็นตัวแทนของความหรูยุคนี้อย่างแท้จริง เพราะผู้บริโภคไม่ได้ต้องการประกาศความร่ำรวย แต่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง ใช้งานได้นาน และบ่งบอกตัวตนกับคนที่ “เข้าใจจริง” ลักษณะเด่นของ Quiet Luxury คุณภาพเหนือปริมาณ: เลือกสินค้าชิ้นสำคัญแทนกา […]

read more
19.11.2025 716

ความมืดเริ่มเป็นความงามใหม่

สำรวจ ‘ความมืด’ ในฐานะเฉดใหม่ของการออกแบบโลกประสบการณ์ ในอดีต “ความมืด” มักถูกผูกกับภาพของความกลัว, ภัยอันตราย หรือสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ในยุคที่ผู้คนเริ่มโหยหาความสงบ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ และประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน “ความมืด” กำลังถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นทรัพยากรทางวัฒนธรรมและทางธุรกิจที่ทรงพลัง กรอบคิดว่าด้วยการใช้ความมืดเป็นแกนกลางในการออกแบบประสบการณ์และรูปแบบธุรกิจ (Dark Experience) Dark Experience คือแนวคิดของธุรกิจที่ใช้ “ความมืด” เป็นหัวใจของการออกแบบประสบการณ์ ไม่ใช่เพื่อทำให้ผู้คนหวาดกลัว แต่เพื่อ “มองเห็น” สิ่งที่สำคัญกว่าเดิม ทั้งตัวเอง ธรรมชาติ และเรื่องราวที่เคยถูกกลบอยู่ในเงามืดของสังคม สาระสำคัญของ Dark Experience Business คือการใช้ความมืดเป็น “เครื่องมือในการออกแบบประสบการณ์” แทนที่จะใช้แสงและสิ่งเร้าเข้มข้นแบบที่ธุรกิจยุคก่อนมักใช้ดึงความสนใจผู้บริโภค สังคมปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหา Overstimulation อย่างหนัก ทั้งจากแสงไฟ เมือง 24 ชั่วโมง และหน้าจอที่อยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา ทำให้สมองแทบไม่เคยได้พักจากการประมวลผล สิ่งต่างๆ เหล่านี้สะสมเป็นความล้าโดยไม่รู้ตัว […]

read more
21.11.2025 602

7 Key Economic Trends จาก The Standard Economic Forum 2025

งาน The Standard Economic Forum 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5–7 พฤศจิกายน 2568 ในธีม “Thailand’s Next Frontier” รวบรวมผู้นำระดับโลก นักเศรษฐศาสตร์ และผู้กำหนดนโยบายกว่า 100 คน เพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจไทย ภายในงานมีการเน้น 3 ความท้าทายหลัก (3D Challenges) ก่อนเข้าสู่เทรนด์เฉพาะทาง ได้แก่ 3D Challenges ก่อนที่จะเจาะลึกในเทรนด์เฉพาะ มาทำความเข้าใจภาพรวมที่กว้างขึ้นก่อน ผู้นำธุรกิจไทยได้ระบุถึง “3 ความท้าทาย Digitalization (การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล) เทคโนโลยีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นรากฐานของการแข่งขัน เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนคิดเป็น 15.5% ของ GDP โลกแล้ว โดย 70% ของมูลค่าใหม่ทั่วโลกคาดว่าจะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มดิจิทัลในทศวรรษหน้า Deglobalization (การทวนกระแสโลกาภิวัตน์)  โลกกำลังแตกออกเป็นส่วนๆ จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ จีน และพันธมิตร ไทยต้องวางตำแหน่งตัวเองใน “จุดยืนที่เป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์” (Geopolitical Neutral Position) และ “ผู้สร้างสมดุลอย่างสร้างสรรค์” (Creative Balancer) เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ […]

read more
03.11.2025 630

“Gartner” เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมธุรกิจปี 2569

ในปี 2569 จะเป็นปีที่สำคัญต่อผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ต้องเผชิญกับการหยุดชะงัก นวัตกรรม ไปจนถึงความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน เทรนด์เทคโนโลยีทั้งหมดในปีหน้าจะเชื่อมโยงกับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-driven world) และเชื่อมต่อกัน ตลอดเวลา ซึ่งองค์กรธุรกิจต้องขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ ดำเนินงานด้วยความเป็นเลิศ และสร้างความไว้วางใจทางดิจิทัลไปพร้อมกัน ผู้นำองค์กรต้องเผชิญกับ การหยุดชะงัก (Disruption) นวัตกรรม และความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็ว 10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญแห่งปี 2569 1. AI Supercomputing Platforms  AI Supercomputing Platforms (แพลตฟอร์ม AI ซูเปอร์คอมพิวติ้ง) เป็นการรวมพลังของ CPU, GPU, ชิป AI ASICs และการประมวลผลแบบนิวโรมอร์ฟิก (จำลองสมองมนุษย์) ช่วยให้องค์กรจัดการงานที่ซับซ้อนมหาศาล ปลดล็อกประสิทธิภาพและนวัตกรรม ต้องอาศัย Orchestration Software เพื่อจัดการเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนโดยอัตโนมัติ คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 องค์กรชั้นนำ 40% จะใช้สถาปัตยกรรม Hybrid Computing (เพิ่มจาก 8% ในปัจจุบัน) ตัวอย่างการใช้งาน: คิดค้นยาใหม่ในไม่กี่สัปดาห์ (แทนที่จะใช้เวลาหลายป […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง