Baramizi Lab logo

Global Mindset พัฒนาตัวเองให้มีทัศนคติแบบสากล

Global Mindset พัฒนาตัวเองให้มีทัศนคติแบบสากล

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และได้รับอิทธิพลจากโลกาภิวัฒน์ เราสามารถติดต่อสื่อสารหรือร่วมทำธุรกิจจากคนอีกซีกโลกนึงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก โอกาสที่เปิดกว้างในระดับโลกจำเป็นต้องใช้คนทำงานที่มีทัศนคติที่เท่าทันโลก จึงเป็นที่มาของคำว่า Global Mindset ที่จะมาแชร์ให้ทุกท่านอ่านกันในวันนี้

Global Mindset คืออะไร?

Global Mindset หรือ “ทัศนคติแบบสากล” หมายถึง คุณสมบัติส่วนบุคคล ทักษะในการสื่อสาร และความรู้ที่สามารถนำไปปฏิบัติที่ช่วยให้บุคคลสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในบริบททางวัฒนธรรมและระดับโลกที่หลากหลาย โดยเกี่ยวข้องกับความสามารถในการเข้าใจ ชื่นชม และทำงานร่วมกับผู้คนจากภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ตลอดจนสำรวจสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่ซับซ้อน คำว่า Global Mindset มาจากคำว่า Global citizen หมายถึง พลเมืองโลก หรือการที่เรารู้สึกว่าเราเองเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของชุมชนบนโลกใบนี้ไม่เพียงแต่เป็นคนในประเทศต่างๆ เพียงเท่านั้น

เนื่องจากโลกของเราเชื่อมโยงกันมากขึ้นเรื่อยๆ ในบริษัทขนาดใหญ่หรือองค์กรอื่นๆ เกือบทุกแห่ง ไม่ว่าจะมีบทบาทใดก็ตาม ผู้คนจะมีประสบการณ์ระหว่างวัฒนธรรมผ่านสมาชิกในทีม ผู้นำ หรือลูกค้า การแสดงความเปิดกว้างและสะดวกสบายในการทำงานในสภาพแวดล้อมเหล่านี้เป็นทักษะอันล้ำค่าที่สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระหว่างประเทศ  

บริษัทที่ประสบความสำเร็จมักมาพร้อม Global Mindset

จากการศึกษาที่ดำเนินการโดย CultureWizard ร่วมกับบริษัทวิจัยตลาด Seymour Insights โดยทำการสำรวจผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ 1,362 รายจากทั่วโลกและในทุกอุตสาหกรรม ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นว่าบริษัทที่มี Global Mindset มีแนวโน้มที่จะบรรลุลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์และธุรกิจที่สำคัญที่สุดมากกว่าบริษัทที่ไม่มี

กล่าวง่ายๆ ก็คือ บริษัทต่างๆ ประสบความสำเร็จในลำดับความสำคัญทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์อันดับต้นๆ เมื่อพวกเขามีประสิทธิภาพมากขึ้นในการรับรู้และปรับตัวเข้ากับรูปแบบการทำงานและพฤติกรรมทางธุรกิจของวัฒนธรรมอื่นๆ และเมื่อพวกเขาสนับสนุนและส่งเสริมพนักงานที่แสดง Global Mindset

นอกจากนี้การวิจัยของ GMI แสดงให้เห็นชัดเจนว่าบริษัทต่างๆ จำเป็นต้องตระหนักว่ามีความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ แต่นั่นไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจที่เหนือกว่า บริษัทที่ประสบความสำเร็จมีพนักงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมและสไตล์การทำงานที่แตกต่างกันของผู้อื่น สิ่งที่โดดเด่นยิ่งกว่านั้นก็คือบริษัทที่ประสบความสำเร็จจะให้การสนับสนุนพนักงานของตนในการพัฒนา Global Mindset และให้ความสำคัญกับพนักงานที่แสดงมุมมองที่หลากหลายทางวัฒนธรรม

นอกจากนี้ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเมื่อบริษัทมี Global Mindset ก็จะได้รับความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ข้อมูล GMI ไม่เพียงแต่ทำให้ชัดเจนว่าบริษัทที่มีด้วยการลงทุนในการฝึกอบรมระหว่างวัฒนธรรม และส่งเสริมผู้ที่ใช้ทักษะระหว่างวัฒนธรรมอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มีแนวโน้มที่จะบรรลุลำดับความสำคัญทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องและรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาวอีกด้วย

สกิลที่ช่วยพัฒนา Global Mindset 

การพัฒนาทัศนคติแบบสากลเกี่ยวข้องกับการปลูกฝังทักษะและคุณลักษณะที่ช่วยให้บุคคลเข้าใจ ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานร่วมกันในวัฒนธรรมและบริบทที่หลากหลาย ทักษะสำคัญบางประการที่เป็นประโยชน์สำหรับการพัฒนากรอบความคิดระดับโลก ได้แก่ :

  1. ความตระหนักรู้ทางวัฒนธรรมและความอ่อนไหว : ทำความเข้าใจและชื่นชมความแตกต่างทางวัฒนธรรม บรรทัดฐาน ค่านิยม และพฤติกรรม ซึ่งรวมถึงการเปิดใจกว้างและให้ความเคารพต่อมุมมองและวิถีชีวิตที่หลากหลาย
  2. ทักษะในการสื่อสาร : การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพข้ามขอบเขตวัฒนธรรมเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งนี้ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับความสามารถทางภาษาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถในการถ่ายทอดข้อความอย่างชัดเจน ตั้งใจฟัง และปรับรูปแบบการสื่อสารให้เข้ากับบริบททางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
  3. ความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่น : ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม สถานการณ์ และวิธีการทำงานที่แตกต่างกันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการนำทางในบริบทระดับโลกที่หลากหลาย รวมถึงการเปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลงและสามารถปรับแผนและกลยุทธ์ให้เหมาะสมได้
  4. การเอาใจใส่และความฉลาดทางอารมณ์ : การเอาใจใส่ช่วยให้แต่ละบุคคลเข้าใจและเชื่อมโยงกับมุมมองและอารมณ์ของผู้อื่น ส่งเสริมการเชื่อมโยงที่มีความหมายข้ามความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความฉลาดทางอารมณ์ช่วยในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและนำทางการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ซับซ้อน
  5. ความเฉียบแหลมทางธุรกิจระดับโลก : การทำความเข้าใจตลาดโลก แนวโน้มทางเศรษฐกิจ และการดำเนินธุรกิจถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตัดสินใจอย่างรอบรู้และคว้าโอกาสในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ
  6. ทักษะในการแก้ปัญหา : ความสามารถในการรับมือกับความท้าทายอย่างสร้างสรรค์และเชิงกลยุทธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ข้ามวัฒนธรรมที่การแก้ปัญหาอาจต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการทำงานร่วมกันกับทีมที่หลากหลาย
  7. การทำงานเป็นทีม : การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในทีมหลากหลายวัฒนธรรมต้องใช้ทักษะการทำงานเป็นทีมที่แข็งแกร่ง รวมถึงความสามารถในการสร้างความไว้วางใจ แก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ และใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและมุมมองที่หลากหลาย
  8. การเจรจาต่อรองและการทูตระหว่างวัฒนธรรม : ทักษะการเจรจาต่อรองที่ละเอียดอ่อนต่อความแตกต่างและความแตกต่างทางวัฒนธรรมมีความสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขข้อขัดแย้ง การบรรลุข้อตกลง และสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
  9. การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและความอยากรู้อยากเห็น : การรักษากรอบความคิดการเติบโตและความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับวัฒนธรรม ภาษา และปัญหาระดับโลกที่แตกต่างกัน ช่วยส่งเสริมการพัฒนาส่วนบุคคลและวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง

การพัฒนาทักษะเหล่านี้ต้องอาศัยการตระหนักรู้ในตนเอง การฝึกฝน และความเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมกับมุมมองและประสบการณ์ที่หลากหลาย การเปิดรับกรอบความคิดระดับโลกไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแต่ละบุคคลเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในการสร้างทีมและองค์กรระดับโลกที่ครอบคลุมและประสบความสำเร็จอีกด้วย

 

ผู้เขียน

นางสาวจินต์ศุจี มณฑิราลัยพร

 

ที่มา

https://thunderbird.asu.edu/thought-leadership/insights/developing-global-mindset#:~:text=Global%20Mindset%20is%20the%20set,individuals%2C%20groups%2C%20and%20organizations

https://cdn2.hubspot.net/hubfs/466336/CW-GMI-report-FINAL_FOR_RELEASE-20171115.1145.pdf 

https://study.com/academy/lesson/global-mindset-in-business-definition-lesson-quiz.html#:~:text=A%20global%20mindset%20enables%20an,communicate%20efficiently%20with%20global%20customers

RECOMMEND

satellite light pollution
read more
20.10.2025 195

ท้องฟ้ายามค่ำคืน ‘มืด’ จริงหรือไม่

ปรากฏการณ์ “แสงจากดาวเทียม” คืออะไรเเล้วกระทบกับเรามากแค่ไหน ทุกวันนี้ท้องฟ้ายามค่ำคืนไม่ได้มีสีดำสนิทอีกต่อไป ในยุคที่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตจากอวกาศเติบโตอย่างก้าวกระโดด กลุ่มดาวเทียมวงโคจรต่ำจำนวนมหาศาลได้เริ่มทิ้งร่องรอยเป็นเส้นแสงสีขาวพาดผ่านผืนฟ้า ปรากฏการณ์นี้คือสิ่งที่เรารู้จักกันในชื่อ “มลภาวะแสงจากดาวเทียม” (Satellite Light Pollution) แก่นของปัญหาคือ ในช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า แต่แสงอาทิตย์ยังคงส่องกระทบวัตถุในวงโคจร ไม่ว่าจะเป็นแผงโซลาร์เซลล์หรือเสาอากาศ กลับมายังโลก ทำให้เรามองเห็นเป็นเส้นสว่างวาบเคลื่อนที่ผ่านหมู่ดาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหัวค่ำและรุ่งสาง ทำไมปัญหานี้จึงเด่นชัดขึ้นในวันนี้? หลายคนอาจสงสัยว่าเหตุใดปรากฏการณ์นี้จึงกลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจัยหลักคือปริมาณดาวเทียมที่เพิ่มขึ้นทวีคูณ โครงการกลุ่มดาวเทียม (Satellite Constellations) เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตและการสำรวจโลก ได้ส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรนับหมื่นดวง และยังมีแผนจะเพิ่มจำนวนขึ้นอีกในอนาคต หรือหากมองภาพง่ายๆ คือท้องฟ้าที่เเน่นไปด้วยหมู่ดาวเทียม ทำให้ภารกิจในการเฝ้ามอ […]

T-Beauty
read more
08.10.2025 367

จาก T-Pop สู่ T-Beauty: เมื่อวัฒนธรรมไทยกลายเป็นพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมความงาม

ปัจจัยสำคัญในการสร้างความสำเร็จของแบรนด์ T-Beauty ความนิยมและความเติบโตของตลาด T-Beauty ตลาดความงามในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยมูลค่ารวมมากกว่า 6.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 และอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 9-10% ตลาดนี้ได้นำเสนอระบบนิเวศน์ครบวงจรที่ผสมผสานวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการตลาดดิจิทัล โดยมีแบรนด์ไทยเป็นที่สนใจและได้รับการยอมรับในตลาดโลกมากขึ้น การจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และช่องทางค้าปลีกหลักๆ มีบทบาทสำคัญ อิทธิพลของวัฒนธรรมและไอดอล T-Pop ความสำเร็จของ T-Beauty ได้รับแรงสนับสนุนจากวัฒนธรรมป๊อปไทยหรือ T-Pop เช่น นักแสดงจากละครแนว BL และศิลปินดังอย่าง Lisa จาก BLACKPINK ที่กลายเป็นหน้าโฆษณาของแบรนด์ทั้งในและต่างประเทศ ลักษณะความงามที่เน้นความเป็นธรรมชาติ แบบ “Swai Meiku” คือความสมดุลระหว่างสไตล์เอเชียและตะวันตกที่ดูสวยแบบไม่ตั้งใจแต่ตั้งใจ ทำให้เกิดกระแสแรงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เทรนด์สกินแคร์ที่โดดเด่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็ว เช่น เซรั่ม Exosome, ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Growth Factors และเปปไทด์ ซึ่งเน้นการปรับปรุงสุขภาพผิวตามชีววิทยาเ […]

thai cities safety resilience trend
read more
02.10.2025 401

แนวโน้มจะเป็นอย่างไรเมื่อ World Bank เตือน GDP ไทยอาจลด 7-14% ในปี 2593 เพราะภัยพิบัติโลกร้อน

แม้เราจะเดินทางมาถึงช่วงท้ายของปี 2025 แต่ประเทศไทยยังคงเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติหลากหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงสถานการณ์โลกที่กำลังเผชิญกับภัยพิบัติที่มากขึ้นเรื่อยๆ หากเทียบข้อมูลย้อนหลัง จำนวนภัยพิบัติทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากเพียง 23 ครั้งในปี 1950 กลายเป็นกว่า 361 ครั้งในปี 2019 ซึ่งล้วนเเล้วเเต่เป็นผลของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับประเทศไทย แม้จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 258 ล้านตัน คิดเป็น 0.76% ของการปล่อยทั้งหมดทั่วโลกในปี 2020 (ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 24) แต่กลับถูกจัดอยู่ใน ประเทศที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลก ความเสี่ยงนี้ครอบคลุมเกือบทุกมิติ ตั้งแต่ผลผลิตทางการเกษตรและประมงชายฝั่ง ไปจนถึงการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และฐานทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่เป็นเสน่ห์สำคัญของประเทศ รายงานของ ธนาคารโลก (World Bank) ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เตือนว่า หากไทยยังขาดมาตรการรับมือที่จริงจัง ภาวะโลกร้อนอาจทำให้ GDP ของประเทศลดลงถึง 7–14% ภายในปี 2593 โดยเฉพาะต่อประชากรเปราะบางกว่า 9.4 ล้านคน ซึ่งมีมากถึง 8 ล้านคนที่อย […]

Wellness Economy 5.0
read more
25.09.2025 282

Wellness Economy 5.0 พลังขับเคลื่อนไทยสู่ศูนย์กลางสุขภาพโลก

แนวคิดเศรษฐกิจสุขภาพยุคใหม่ในไทยธุรกิจไหนได้ประโยชน์มากที่สุด Wellness Economy 5.0 Wellness Economy 5.0 คือแนวคิดเศรษฐกิจสุขภาพยุคใหม่ในไทย ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยยึดสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะในยุคที่ไทยกำลังกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ (super-aged society) ภายในปี 2033 แนวคิดนี้ไม่ใช่แค่การรักษาโรค แต่คือการส่งเสริมการใช้ชีวิตเชิงป้องกันและทำให้สุขภาพดีเป็นวิถีชีวิตที่รวมถึงความงาม อาหารสุขภาพ การออกกำลังกาย และการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ Key Idea ของ Wellness Economy 5.0 มุ่งเน้นความสมดุลทั้งทางกาย ใจ อารมณ์ และสังคมผ่านการดำเนินชีวิตที่ดี เกิดการบูรณาการระหว่างเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และรูปแบบการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ผลักดันธุรกิจความงาม อาหารเพื่อสุขภาพ บริการออกกำลังกาย และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นอุตสาหกรรมหลัก รัฐบาลและภาคเอกชนร่วมลงทุนและพัฒนาระบบสาธารณสุขและ wellness hubs เพื่อรองรับตลาดผู้สูงวัยและสุขภาพดีแบบองค์รวม Wellness Economy ในไทยปี 2023 มีมูลค่าตลาดประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท เติบโตสูงจากกลุ่มนักท่องเที่ยวสุขภาพที่เพิ่มขึ้นและการผสมผสาน […]

Longevity Trend
read more
24.09.2025 275

Longevity Trend
”เมื่อ ‘วัยทำงาน’ ยาวนานขึ้น โอกาสของคนรุ่นใหม่จะเหลือเท่าไหร่?”

อายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ปีในทุกๆ 10 ปี) ตำแหน่งงานเก่าๆ ยังไม่ว่างให้คนรุ่นใหม่เข้าทำงาน Longevity Trend แนวโน้ม Longevity Trend หรือแนวโน้มคนมีอายุยืนยาวขึ้น ส่งผลให้คนจำนวนมากเลือกหรือจำเป็นต้องเกษียณช้าลงจากเดิม โดยอายุเกษียณที่เคยอยู่ราว 60 ปี เริ่มถูกปรับเพิ่มเป็น 65 ปีขึ้นไป ทั้งในไทยและในหลายประเทศ เพราะคนมีสุขภาพดีขึ้น เรียนรู้และทำงานได้นานขึ้น พร้อมกับระบบสวัสดิการและนโยบายที่สนับสนุนให้คนยังคงมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานมากขึ้น ขณะที่การเกษียณช้าช่วยให้มีรายได้และสวัสดิการทางการเงินที่มากขึ้น ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตและการแยกตัวจากสังคมได้ด้วย และการทำงานต่อเนื่องยังช่วยให้สมองและร่างกายได้รับการกระตุ้น ช่วยยืดอายุขัยโดยรวม สาเหตุของการเกษียณช้าลง อายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ปีในทุกๆ 10 ปี) คนสูงอายุในยุคใหม่มีสุขภาพดีขึ้น เขียนได้ ชำนาญและมีประสบการณ์มากกว่ารุ่นก่อน ระบบสวัสดิการ ศูนย์ดูแลสุขภาพ และโครงสร้างทางสังคมที่สนับสนุนให้คนสูงอายุทำงานต่อได้ ความจำเป็นด้านการเงิน เช่น รายได้ที่ไม่เพียงพอจากเงินออมและ […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง