Baramizi Lab logo

แนวโน้มการออกแบบสำหรับครอบครัวหลายช่วงวัย (Intergeneration Living Design Trends)

06
08.2024
view
464
SHARE

แนวโน้มการออกแบบสำหรับครอบครัวหลายช่วงวัย (Intergeneration Living Design Trends)

ทุกวันนี้ แนวโน้มการอยู่อาศัยแบบครอบครัวหลายช่วงวัยได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น ซึ่งมีหลายเหตุผล เช่น เรื่องการประหยัดค่าใช้จ่าย เรื่องความสัมพันธ์ที่อยากกลับมาอยู่ร่วมกันแบบพร้อมหน้า ต้องการให้พ่อแม่เลี้ยงลูกให้ ไปจนถึงได้ดูแลพ่อแม่ที่อายุมากขึ้นและอาจป่วยเป็นโรคต่างๆ ด้วยเงื่อนไขของผู้พักอาศัยที่มีหลายคนและหลายช่วงวัย จึงนำมาซึ่งแนวทางในการออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการดังนี้

แนวทางการออกแบบโดยภาพรวม (General Design Concept for Intergeneration Living)

  • Public & Private Space มีทั้งพื้นที่ Public Space ที่สามารถใช้ชีวิตและใช้เวลาร่วมกันได้พร้อมหน้าพร้อมตา  และพื้นที่ Private Space เพราะ “ความเป็นส่วนตัว” คือปัจจัยสำคัญที่สุด และเป็นความท้าทายของที่พักอาศัยที่มีสมาชิกหลายครอบครัวมาอยู่รวมกัน แต่ละวัยที่อาศัยอยู่ในบ้านต้องการพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง
  • Universal Design การออกแบบเพื่อทุกคน คือทุกเพศทุกวัย 
  • Aged in place คือแนวคิดที่เชื่อว่า ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านและสังคมของตนเองได้อย่างอิสระและปลอดภัย ตลอดช่วงชีวิต พร้อมสิ่งอำนวยสะดวกสบายไว้รองรับการอยู่อาศัยอย่างครบครัน
  • Multi Master Bed Room รองรับการเติบโตของครอบครัวในอนาคตแล้วยังสามารถรองรับการนอนแยกห้องของคู่สามีภรรยาเพื่อพฤติกรรมการนอนหลับที่ดีขึ้นได้อีกด้วย
  • Multi Living Room การจัดสรรพื้นที่นั่งเล่นส่วนรวมสำหรับคนหลายเจนอย่างน้อย 2 พื้นที่เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันของแต่ละวัย
  • Multi Entrance สมาชิกแต่ละเจนล้วนมีตารางชีวิตแตกต่างกัน ทำให้เวลาเข้า-ออกบ้านอาจเหลื่อมล้ำกันไปมา
  • Aging Facility มีสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ อาทิ โรงพยาบาล คลีนิค
  • Mixed Style & Material การมีสไตล์หรือการใช้วัสดุที่แตกต่างกันในแต่ละครอบครัวและพื้นที่เพื่อบ่งบอกพื้นที่ของคนแต่ละครอบครัวย่อย

แนวทางการออกแบบเชิงพื้นที่ (Space Design Solutions)

1. Basic การแบ่งพื้นที่ให้ห้องผู้สูงอายุและ Public Space อยู่ชั้นล่างและพื้นที่ส่วนตัวอยู่ที่ชั้นสอง

2. Leveling การแบ่งพื้นที่แต่ละครอบครัวย่อยออกจากกันด้วยกันแบ่งชั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้าน
ที่มี 3-4 ชั้น และแบ่งพื้นที่ให้คนแต่ละช่วงวัย หรือแต่ละครอบครัวย่อยอยู่ด้วยกันคนละชั้น

3. Co-Living ที่พักอาศัยที่เอื้อให้สมาชิกในโครงการได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น
เต็มไปด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่เน้นการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน

4. Courtyard & Surround การจัดพื้นที่ให้คอร์ทยาร์ดตรงกลางเป็นพื้นที่สำหรับพบปะ
สังสรรค์ในครอบครัวและรายล้อมไปด้วยที่พักอาศัยของแต่ละครอบครัวและช่วงวัย

5. Free Space

‘Free’ Space พื้นที่อิสระ เป็นการเพิ่มพื้นที่ว่างบริเวณกลางบ้านที่เป็นส่วนเชื่อมต่อระหว่าง Common Area & Private Area เอื้อประโยชน์ให้เกิดพื้นที่ส่วนตัวเฉพาะรูปแบบเกิดความอิสระในการพักผ่อน|
6. Interlocking
การแยกพื้นที่บ้านออกเป็นส่วนและเชื่อมกันด้วยพื้นที่ Common Area สำหรับการใช้ชีวิตร่วมกัน
7. Multi Living Unit

ออกแบบ Unit ย่อยมารวมกันเป็นบ้านของครอบครัวหลังใหญ่ จุดสำคัญของประสบการณ์ที่เกิดขึ้นคือ การทอนสเกลของตัวสถาปัตยกรรมให้ดูเหมือนบ้านหลังเล็กหลายหลัง

RECOMMEND

Brand Future Scenario
read more
11.07.2025 71

Brand Future Scenario เครื่องมือพิฆาตความในใจของลูกค้าที่ได้ผลชะงัด

ฉากทัศน์อนาคต หรือ Brand Future Scenario คือเครื่องมือ Magic ของกระบวนการวิจัยที่จะช่วยไขความลับความในใจของลูกค้าเป้าหมาย ในระหว่างการบริหารธุรกิจ บริหารกลยุทธ์การตลาด ใครเคยรู้สึกติดๆ รู้สึกอยากได้เครื่องมือที่ล้วงเข้าไปในหัวใจของลูกค้าเป้าหมาย อยากสอบถามพวกเขาจังเลยว่าทำไมถึงทำพฤติกรรมอย่างนี้ไม่ทำอีกแบบนึง แล้วถ้าเราจะเสนออะไรใหม่ๆ จะให้เสนออะไรดีถึงจะหันกลับมาสนใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งคันหัวใจ ใครจะมาหาคำตอบให้ได้กันนะ แล้วจะหายังไงถึงจะล้วงเข้าไปถึงความในใจลึกๆ ของพวกเขาได้ วันนี้เราจะมาเฉลยหนึ่งในเครื่องมือพิฆาตสำหรับล้วงลึกความในใจของลูกค้าที่ชื่อว่า Brand Future Scenario กันค่ะ ต่อเนื่องจากบทความฉบับที่แล้ว ที่ได้เล่าสู่กันฟังถึงกระบวนการวิจัยที่เรียกว่า Future Lab Research Methodology ซึ่งเป็นกระบวนการวิจัยที่เน้นการค้นหา “Unmet Needs” หรือความต้องการที่ซ่อนเร้น ความในใจของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งหนึ่งในหัวใจสำคัญคือ การเข้าใจและมีสมมติฐานของปัญหา และมองเห็นโอกาสในการเสนอทางออกที่เป็นไปได้หลายๆ ทาง เจ้าเนื้องานของการมองเห็นโอกาสในการเสนอทางออกที่เป็นไปได้หลายๆ ทางนี่แหละ เราเรีย […]

การคาดการณ์อนาคตธุรกิจด้วย Strategic Foresight: กรณีศึกษา IKEA และ Shell
read more
09.07.2025 142

‘ปักหมุด’ อนาคตของธุรกิจ ผ่านแว่น IKEA และ Shell

มองอนาคต 3 รูปแบบ: อนาคตที่น่าจะเป็น อนาคตเป็นไปได้ และ อนาคตที่อยากให้เป็น ผ่าน 2 กรณีศึกษา บริษัทชั้นนำต่างๆ ในโลกธุรกิจไม่ได้เพียงสร้างผลกำไรในปัจจุบัน แต่กำลัง “ลงทุน” ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง การลงทุนในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่ตัวเลขทางการเงิน แต่คือการทุ่มเททรัพยากร ทั้งเวลา, บุคลากร, และการวิจัย เพื่อทำความเข้าใจ และสร้างธุรกิจให้พร้อมในวันข้างหน้า เครื่องมือสำคัญที่บริษัทเหล่านี้ใช้คือ “การคาดการณ์อนาคตเชิงกลยุทธ์” (Strategic Foresight) และเครื่องมือในการใช้งานก็คือ “The Futures Cone” (กรวยแห่งอนาคต) ซึ่งช่วยให้มองเห็นภาพอนาคตที่หลากหลาย ตั้งแต่ อนาคตที่น่าจะเกิดขึ้น (Probable), อนาคตที่เป็นไปได้ (Plausible), ไปจนถึงการเลือกสร้างอนาคตที่อยากให้เป็น (Preferable) แม้จะดูคล้ายการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ที่ทำหน้าที่ ป้องกัน (Defensive) มูลค่าของธุรกิจในปัจจุบันจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น หรือการวิจัยและพัฒนา (R&D) ซึ่งเป็นการ ต่อยอด (Incremental) สร้างมูลค่าใหม่โดยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิม หรือสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อยู่ใกล้เคียงกับธุรกิจหลั […]

index วัดผลการสร้างแบรนด์
read more
04.07.2025 414

วัดผลการสร้างแบรนด์ยังไงให้ได้ผลลัพธ์ที่ทุกคนยอมรับ?

ก่อนจะพูดถึงกลยุทธ์หรือเครื่องมือไหนๆ อยากชวนคุณติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกก่อนนะคะ  สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มองว่า “แบรนด์” เป็น “สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้” และนั่นคือมุมมองที่ทำให้หลายคนยัง “ลังเล” ว่าจะลงทุนสร้างแบรนด์ดีไหม แค่ลังเล อาจทำให้คุณพลาดโอกาสสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว ✅ การลงทุนกับการสร้างแบรนด์คือสิ่งที่ถูกต้อง ✅ การสร้างแบรนด์ไม่จำเป็นต้องใช้งบเสมอไป เพราะการสร้างแบรนด์คือการควบคุมทุกจุดสัมผัสของลูกค้าให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพียงแค่มีเข็มทิศที่แม่นยำ และควบคุมทุกประสบการณ์ให้ไปในทิศทางนั้น หากมีงบ ก็สามารถเพิ่มพลังความสร้างสรรค์ให้แตกต่างจนลูกค้าจดจำได้ไม่รู้ลืม 🅾️ แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่มั่นใจคือ “จะวัดผลแบรนด์อย่างไร?” ยอดขายขึ้นหมายถึงแบรนด์ดีหรือไม่? ถ้ายอดขายไม่ขึ้น แปลว่าแบรนด์แย่หรือเปล่า? เราเข้าใจความสับสนตรงนี้ดีค่ะ เพราะแม้แต่คนที่อยู่ในวงการแบรนด์มานาน ยังต้องกลับมาตั้งคำถามนี้กับตัวเองอยู่บ่อย ๆ Baramizi Lab กับการพัฒนาเครื่องมือวัดแบรนด์ Baramizi Lab (ซึ่งหมวกหนึ่งคือนักวิจัยเพื่อการพัฒนาแบรนด์) เข้าใจหัวอกหัวใจนักสร้างแบรนด์ทุกคนใน […]

Future of Cheese
read more
03.07.2025 325

Future of Cheese: ถอดรหัสกระแสอาหารโลกผ่านมุมมองชีส

ขนาดตลาดชีสโลกและไทย: โอกาสเติบโตที่ไม่ควรมองข้าม ตลาดชีสโลกกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่า 93.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดการณ์ว่าจะเติบโตด้วยอัตรา CAGR 5.08% จากปี 2025-2033 เพื่อไปสู่มูลค่า 153.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2033 ในขณะที่แหล่งข้อมูลอื่นคาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโตไปสู่ 210.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2030 Global cheese market size projections showing steady growth from 2024 to 2030, with various forecasting models สำหรับตลาดไทย ชีสกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากมูลค่า 2,146.5 ล้านบาทในปี 2563 เติบโตเป็น 4,924.1 ล้านบาทในปี 2567 ซึ่งคิดเป็นการเติบโต 7.6% ในปีที่ผ่านมา การเติบโตนี้สะท้อนอัตรา CAGR 23.07% ระหว่างปี 2020-2024 แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของชีสในตลาดไทย Thai cheese market showing dramatic growth from 2020 to 2024, with market value more than doubling สาเหตุที่ทำให้เกิดเทรนด์ชีส 1. อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย การเติบโตของเทรนด์ชีสได้รับอิทธิพลอย่างมากจากโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok ที่มี hashtag #cottagecheese ได้รับการดูมากกว่า 500 […]

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Trends)
read more
02.07.2025 431

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Trends) ปี 2025-2026

สรุปภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2024 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกทะลุ 17 ล้านคัน คิดเป็นกว่า 20% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดทั่วโลก และคาดว่าในปี 2025 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านคัน เติบโตสูงกว่า 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน ราคาชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีความสามารถในการแข่งขันใกล้เคียงกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ขณะเดียวกัน โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟฟ้าก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว สนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างมากขึ้น 1. ยอดขายและส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปี 2024 สูงกว่า 17 ล้านคัน เติบโต 25% เมื่อเทียบกับปี 2023 คิดเป็นกว่า 20% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดทั่วโลก จีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่สุด จำหน่ายรถ EV กว่า 11 ล้านคัน คิดเป็นเกือบ 50% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศ และคิดเป็นเกือบสองในสามของยอดขาย EV โลก สหรัฐฯ มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าราว 1.6 ล้านคัน เติบโต 10% ยุโรปได้รับผลกระทบจากการถอนเงินอุดหนุน แต่ยังรักษาสัดส่วนยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ประมาณ 20% 2. แนวโน้มภูมิภาคและตลาดเกิด […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง