Baramizi Lab logo

รู้จัก 9 เทรนด์ จากศาสตร์ “LIFESTYLE MEDICINE” ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพเชิงป้องกันจากปรับวิถีชีวิต

รู้จัก 9 เทรนด์ จากศาสตร์ “LIFESTYLE MEDICINE” ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพเชิงป้องกันจากปรับวิถีชีวิต

การดูแลสุขภาพที่เน้น “ป้องกัน” ไว้ก่อน..ดีกว่ามา “รักษา” ทีหลัง กำลังเป็นแนวคิดที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากกระแสความต้องการด้านการดูแลแบบครบองค์รวม (Holistic Wellness) ที่ให้ความสำคัญทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ไปพร้อมกัน รวมถึงความต้องการที่จะลดอัตราการป่วยของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดีทั้งหลายของเรา จึงทำให้ Lifestyle Medicine เป็นหนึ่งในศาสตร์การป้องกันที่น่าจับตามองในอนาคต

Lifestyle Medicine เป็นแนวคิดของการปรับวิถีชีวิตที่ไม่ได้อาศัยแค่ความร่วมมือของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องอาศัยที่ตัวเราเองด้วยเช่นกันในการที่จะทำให้การปรับและเปลี่ยนพฤติกรรมในทั้ง 6 องค์ประกอบ ให้ดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อเนื่องและยั่งยืน

ซึ่งได้แก่ 1.การมีโภชนาการที่ดี 2.การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 3.การจัดการกับความเครียดและอารมณ์ 4.การนอนหลับที่มีคุณภาพ 5.ความสัมพันธ์ต่อผู้คนรอบข้าง 6.การหลีกเลี่ยงสารอันตราย บุหรี่และแอลกอฮอลล์.

โดยการให้ความสำคัญกับการดูแลองค์ประกอบเหล่านี้ในชีวิต ทำให้ศาสตร์ทางการแพทย์อย่าง “Lifestyle Medicine” หรือ “เวชศาสตร์วิถีชีวิต” มีแนวโน้มที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายมิติชีวิตของผู้คนและสังคมมากขึ้น

เริ่มตั้งแต่ช่วยให้ผู้คนสามารถปรับพฤติกรรม เพื่อให้ห่างไกลโรค ไปจนถึงช่วยลดภาระของระบบสนับสนุนบริการทางการแพทย์ในสังคม จากโอกาสที่จะช่วยทำให้ผู้คนสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการเป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ  เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้ข้อมูลว่าปัจจัยหนึ่งของการเกิดโรคเหล่านี้เป็นผลมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมของเราเอง ตั้งแต่ทานอาหารที่ไม่ดี, การขาดการเคลื่อนไหวร่างกาย, การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงเรื่องของความเครียด

ทางข้อมูลจาก Global Wellness Institute (GWI) ได้ทำการคาดการณ์แนวโน้มเทรนด์แห่งอนาคต ที่เป็นผลเกี่ยวข้องกับการปรับและดูแล WELLBEING LIFESTYLE มาได้ทั้งหมด 9 เทรนด์ ได้แก่

1. Personalized Lifestyle Medicine: การดูแลวิถีชีวิตเฉพาะบุคคล 

ความก้าวหน้าในการตรวจประเมินทางชีวภาพ (Biomarkers) และกลยุทธ์การขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่แม่นยำ (Data-Driven) จะช่วยทำให้เกิดประสิทธิภาพต่อการแพทย์มากขึ้น โดยสามารถช่วยในการพิจารณาลักษณะทางพันธุกรรม นิสัยการใช้ชีวิต และสถานะสุขภาพของคนไข้แต่ละบุคคล ซึ่งตอบโจทย์ความแตกต่างของแต่ละบุคคลมากที่สุด

2.Technology and Digital Health: นวัตกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพ

เหล่า Personal Devices อุปกรณ์สวมใส่ แอปพลิเคชัน รวมถึงโปรแกรมพัฒนาทักษะให้ความรู้ทางออนไลน์ จะยังคงถูกพัฒนามากยิ่งขึ้นและต่อเนื่องเพื่อแก้ปัญหา ติดตาม และสนับสนุนให้การปรับพฤติกรรมมีความต่อเนื่องและเห็นผลลัพธ์ที่ดี ถือเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นมาสนับสนุนเทรนด์ในเรื่อง Personalized Lifestyle Medicine ได้อย่างชัดเจน

3.Collaborative Care: การดูแลโดยร่วมมือจากทีมสหวิชาชีพ 

เวชศาสตร์การใช้ชีวิตเป็นสาขาสหสาขาวิชาชีพที่ต้องการความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ นักโภชนาการ นักกายภาพบำบัด ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ การบูรณาการที่มากขึ้นระหว่างสาขาวิชาเหล่านี้ถูกคาดหวังให้พัฒนามากยิ่งขึ้น เพื่อการมอบแนวทางด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวมของผู้คนในสังคม

4.Workplace Wellness: การให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ดีในที่ทำงาน

โปรแกรมสุขภาพที่ดีในออฟฟิศจะถูกพัฒนาต่อเนื่องและมีความเฉพาะตัวมากขึ้น จากสาเหตุของโรคภัยเรื้อรังที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น องค์กรทั้งหลายจึงลงทุนด้านสุขภาพในสถานที่ทำงานเพื่อส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี เพื่อป้องกันโรคเรื้อรังในกลุ่มพนักงาน

5.Social Determinants of Health and Health Equity: ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพและความเสมอภาคทางสุขภาพ

ปัจจัยที่กำหนดทางสังคมของสุขภาพ เช่น ความยากจน ที่อยู่อาศัย การศึกษา และการเข้าถึงอาหารเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย เป็นเรื่องที่ทางเวชศาสตร์วิถีชีวิต Lifestyle Medicine ต้องเกี่ยวข้องและจัดการอยู่แล้ว เพราะโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และโรคอ้วน ส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้โดยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต

ศาสตร์นี้จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการส่งเสริมเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมด้านสุขภาพและลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ เพราะทำให้ทุกคนได้รับการเข้าถึงทรัพยากรและโอกาสที่จำเป็นสำหรับการมีสุขภาพที่ดี โดยไม่ต้องคำนึงถึงเชื้อชาติ สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพ จากการส่งเสริมให้คนเข้าถึงเครื่องมือและความรู้ต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการมีสุขภาพที่ยั่งยืน

6.The Military and Lifestyle Medicine: เวชศาสตร์วิถีชีวิตกับการทหาร

เวชศาสตร์วิถีชีวิตมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสุขภาพและความพร้อมของเหล่ากำลังพลทหารและสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลในกองทัพได้.

โดยกรณีตัวอย่าง:  กองทัพสหรัฐฯ ได้นำโมเดลนี้มาใช้เพื่อมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงการนอนหลับ กิจกรรม และโภชนาการ ส่งผลต่อการเพิ่มความพร้อมและประสิทธิภาพของทหาร 

– กองทัพเรือสหรัฐฯ มีโครงการที่คล้ายกันที่เรียกว่า Navy Operational Fitness and Fueling System (NOFFS) ซึ่งจัดหาทรัพยากรและคำแนะนำแก่กะลาสีเรือในด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย และการป้องกันการบาดเจ็บ

– กองทัพยังตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพจิตซึ่งได้ดำเนินโครงการออกกำลังกายสำหรับทหารและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความยืดหยุ่นและความเป็นอยู่ที่ดีทางอารมณ์

– นอกจากนี้การศึกษาชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Military Medicine พบว่าการสอดแทรกรูปแบบการใช้ชีวิต เช่น โปรแกรมการควบคุมน้ำหนักและการออกกำลังกาย สามารถนำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลและปรับปรุงความพร้อมได้อย่างมาก

7.Lifestyle Medicine in Education: เวชศาสตร์วิถีชีวิตในระบบการศึกษา

การพัฒนาเวชศาสตร์วิถึชีวิตในด้านการศึกษาอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพต่อการส่งเสริมความเท่าเทียมด้านสุขภาพ โดยอาศัยวิธีการให้ความรู้และทักษะที่จำเป็นแก่นักเรียนเพื่อให้ใช้ในการตัดสินใจเลือกวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี 

-โดยกรณีตัวอย่าง:

– การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน: โรงเรียนและมหาวิทยาลัยสามารถพัฒนาหลักสูตรที่เป็นองค์รวมด้าน Lifestyle Medicine ทั้งหมดได้ โดยอาจจะครอบคลุมหัวข้อต่างๆ เช่น การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกาย การจัดการความเครียด และการสนับสนุนทางสังคม และยังสามารถสอนนักเรียนเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างปัจจัยการดำเนินชีวิตและโรคเรื้อรังให้เข้าใจเพิ่มมากขึ้นได้ด้วย

– การฝึกอบรมสำหรับนักการศึกษา: การฝึกอบรมเพื่อนำ Lifestyle Medicine มาสามารถช่วยส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพในหมู่นักเรียน และเป็นตัวอย่างการเลือกรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพได้

– การบูรณาการเข้ากับหลักสูตรที่มีอยู่: Lifestyle Medicine สามารถบูรณาการเข้ากับหลักสูตรที่มีอยู่ได้ เช่น ชีววิทยา สุขศึกษา และพลศึกษา สิ่งนี้สามารถช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าปัจจัยการดำเนินชีวิตส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ได้อย่างไร

– การวิจัยและการประเมินผล: โรงเรียนและมหาวิทยาลัยสามารถทำการทดลองใช้ Lifestyle Medicine และประเมินประสิทธิผลได้ ซึ่งสิ่งนี้สามารถช่วยทำให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืนต่อการปรับพฤติกรรม 

8.Lifestyle Medicine in Healthcare Systems: เวชศาสตร์วิถีชีวิตในระบบการบริการดูแลสุขภาพ

การนำโปรแกรมเวชศาสตร์วิถีการดำเนินชีวิตมาใช้ในระบบสุขภาพอย่างต่อเนื่องจะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับทั้งผู้ป่วยและผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ เพราะสามารถช่วยส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมด้านสุขภาพได้จากการให้ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องของการเลือกใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี ซึ่งจะทำให้ทุกคนห่างไกลโรคมากขึ้น เท่าเทียมด้านสุขภาพมากขึ้นจากการมีองค์ความรู้เหล่านี้ที่สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลได้

– โดยกรณีตัวอย่างที่อาจทำได้:

– การสนับสนุนให้ความรู้แก่ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพให้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการให้การรักษาด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิตแก่ผู้ป่วย

– บูรณาการเข้ากับการดูแลทางคลินิกโดยผสมผสานกับการประเมินสุขภาพตามปกติและแผนการรักษา 

– การพัฒนาโปรแกรม Lifestyle Medicine : ระบบสุขภาพสามารถพัฒนาโปรแกรมทั้งรายบุคคลและกลุ่ม ให้สามารถปรับได้เหมาะกับความต้องการของกลุ่มผู้ป่วยเฉพาะ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือโรคหัวใจ

– การใช้เครื่องมือด้านสุขภาพแบบดิจิทัล : สามารถใช้เพื่อสนับสนุน Lifestyle Medicine ได้ เช่น แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ป่วยติดตามการออกกำลังกายหรือการรับประทานอาหารได้

– ระบบสุขภาพสามารถร่วมมือกับองค์กรชุมชนเพื่อส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี ตัวอย่างเช่น ทำงานร่วมกับตลาดเกษตรกรในท้องถิ่นเพื่อจัดหาอาหารเพื่อสุขภาพ หรือร่วมมือกับศูนย์ออกกำลังกายเพื่อเสนอส่วนลดค่าสมาชิกยิม

– การประเมินผลลัพธ์: ระบบสุขภาพควรประเมินผลลัพธ์เพื่อพิจารณาประสิทธิผล และรับประกันได้ว่าจะมีการดำเนินการต่อเนื่อง 

9.New Research in Lifestyle Medicine: การพัฒนางานวิจัยที่เกี่ยวข้องด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิต

ปัจจุบันงานวิจัยใหม่ด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิตกำลังค้นหาว่าวิธีการดำเนินชีวิตสามารถนำมาใช้ในการป้องกันและรักษาโรคเรื้อรังและส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมได้อย่างไรบ้าง จากการทำความเข้าใจกลไกที่การแทรกอยู่ในทุกรูปแบบของการใช้ชีวิต ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาและเข้าใจรูปแบบเหล่านั้นอย่างประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถช่วยส่งเสริมความเท่าเทียมด้านสุขภาพด้วยเช่นกัน

 

Key Takeaway

ทั้ง 9 เทรนด์เหล่านี้ เกิดขึ้นจากแนวโน้มความต้องการของผู้คนและสังคมปัจจุบันที่ให้ความสำคัญ กับการดูแลให้มีสุขภาวะที่ดีในทุกมิติ เริ่มตั้งแต่ (1) การให้ความสำคัญที่ตนเอง โดยการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมทุกมิติ (2) การให้องค์ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง (3) การ R&D เพื่อหาแนวทางใหม่ ๆ (4) การกำหนดนโยบายที่เหมาะสม.

ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องสนับสนุนและผลักดันให้ “การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม กลายเป็น…ยา” เข้าไปอยู่ในชีวิตของผู้คนอย่างทำได้จริง มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน รวมถึงยังสามารถทำให้เกิดเป็นโอกาสของภาคธุรกิจที่ทุกคนเลือกจุดยืนได้ว่าธุรกิจของเรามีโอกาสที่จะอยู่ส่วนไหนในขั้นการพัฒนาเหล่านี้ได้บ้าง

เรียบเรียง: กรภัทร คงโชคชัย

แหล่งอ้างอิง

https://globalwellnessinstitute.org/…/medical-wellness…/

https://www.bdmswellness.com/knowledge/lifestyle-medicine

https://www.bdmswellness.com/…/6-healthy-lifestyles-as…

https://www.bdmswellness.com/…/what-is-preventive-medicine

https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1117939

https://www.sdgmove.com/…/social-determinants-of…/

หนังสือ Future Trend Ahead 2024

#Lifestylemedicine #Health #baramizilab

RECOMMEND

read more
03.11.2025 393

“Gartner” เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมธุรกิจปี 2569

ในปี 2569 จะเป็นปีที่สำคัญต่อผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ต้องเผชิญกับการหยุดชะงัก นวัตกรรม ไปจนถึงความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน เทรนด์เทคโนโลยีทั้งหมดในปีหน้าจะเชื่อมโยงกับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-driven world) และเชื่อมต่อกัน ตลอดเวลา ซึ่งองค์กรธุรกิจต้องขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ ดำเนินงานด้วยความเป็นเลิศ และสร้างความไว้วางใจทางดิจิทัลไปพร้อมกัน ผู้นำองค์กรต้องเผชิญกับ การหยุดชะงัก (Disruption) นวัตกรรม และความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็ว 10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญแห่งปี 2569 1. AI Supercomputing Platforms  AI Supercomputing Platforms (แพลตฟอร์ม AI ซูเปอร์คอมพิวติ้ง) เป็นการรวมพลังของ CPU, GPU, ชิป AI ASICs และการประมวลผลแบบนิวโรมอร์ฟิก (จำลองสมองมนุษย์) ช่วยให้องค์กรจัดการงานที่ซับซ้อนมหาศาล ปลดล็อกประสิทธิภาพและนวัตกรรม ต้องอาศัย Orchestration Software เพื่อจัดการเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนโดยอัตโนมัติ คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 องค์กรชั้นนำ 40% จะใช้สถาปัตยกรรม Hybrid Computing (เพิ่มจาก 8% ในปัจจุบัน) ตัวอย่างการใช้งาน: คิดค้นยาใหม่ในไม่กี่สัปดาห์ (แทนที่จะใช้เวลาหลายป […]

read more
10.11.2025 77

5 Health Mindsets: The Next Big Opportunity: เข้าใจ 5 กลุ่มสุขภาพ = เจอโอกาสใหม่ก่อนใคร

สำรวจทิศทาง 5 พฤติกรรมสุขภาพคนไทย: สัญญาณบ่งชี้โอกาสธุรกิจบริการสุขภาพยุคใหม่ เคยไหม? รู้ว่าควรตรวจสุขภาพประจำปี แต่ก็เลื่อนออกไปเรื่อยๆ หรือรอให้ป่วยก่อนจึงเริ่มใส่ใจสุขภาพ — พฤติกรรมนี้สะท้อนภาพ “ความเฉยเมย” ของคนไทยที่ยังฝังแน่นในวัฒนธรรมการดูแลตัวเอง ปัจจุบัน คนไทยเริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น แต่พฤติกรรมการดูแลตัวเองยังค่อนข้างหลากหลาย บางคนใส่ใจเรื่องการออกกำลังกาย รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่บางส่วนยังละเลยเนื่องจากเวลาจำกัด งานยุ่ง หรือค่าใช้จ่ายสูง บริษัท บารามีซี่ แล็บ และ IQQEW POLL ได้สำรวจผู้บริโภคจำนวน 1200 คนทั่วประเทศ จากผลสำรวจล่าสุด พบว่า  58.83% ของผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของตนเอง โดยเฉพาะกลุ่ม Gen X ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพเป็นอย่างมาก แม้ผู้บริโภคไทยส่วนใหญ่รับรู้ถึงความสำคัญของการตรวจสุขภาพประจำปี แต่กว่า 37.75% ยังคงไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพมากนัก รู้สึกว่ายังไม่จำเป็นต้องตรวจหรือดูแลสุขภาพ พฤติกรรมนี้สะท้อนถึงความ “เฉยเมย” ที่ฝังรากลึก ซึ่งมักเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความยุ่งวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ค่า […]

เทรนด์ มูเตลู
read more
28.10.2025 330

Trend มูเตลูกับการยอมรับ
จากสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยไทย

ภาคการศึกษาหลายแหล่งเริ่มเปิดหลักสูตรด้านความเชื่อและศาสตร์มากขึ้นสอดคล้องกับค่านิยมคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ GenZ ที่เปิดรับให้เป็นที่พึ่งทางจิตใจ เทรนด์มูเตลูกับการยอมรับจากสถาบันการศึกษาในมหาวิทยาลัยไทย เป็นปรากฏการณ์ที่ได้รับความนิยมและยอมรับในรูปแบบของความเชื่อและที่พึ่งทางใจในหมู่นักศึกษา มหาวิทยาลัยหลายแห่งในไทยมีสถานที่และสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับมูเตลูกลายเป็นส่วนหนึ่งของบริบทสังคมในมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มี “ศาลสิงโตทอง” หรือ “เจ้าแม่สิงโต” ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นักศึกษานิยมไปบูชาเพื่อขอพรเรื่องเรียนและความรัก เชื่อกันว่าหากบนเรื่องการเรียนอย่างถูกวิธีจะได้ผลสำเร็จ มหาวิทยาลัยอื่นๆ ก็มีการยอมรับว่ามูเตลูกลายเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นักศึกษาใช้เป็นที่พึ่งทางใจในการรับมือกับความกดดัน ความเครียดจากการเรียน และสร้างความมั่นใจ ปรากฏการณ์นี้สะท้อนการบูรณาการความเชื่อทางไสยศาสตร์ เข้ากับสภาพสังคมเมืองและการศึกษาในยุคสมัยใหม่ โดยยังมีการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับบทบาทของมูเตลูกับสังคมไทยในแง่มุมทางวัฒนธรรมและจิตวิทยา ตัวอย่างมหาวิทยาลัยที่เปิดหลักสูตรด้ […]

satellite light pollution
read more
20.10.2025 279

ท้องฟ้ายามค่ำคืน ‘มืด’ จริงหรือไม่

ปรากฏการณ์ “แสงจากดาวเทียม” คืออะไรเเล้วกระทบกับเรามากแค่ไหน ทุกวันนี้ท้องฟ้ายามค่ำคืนไม่ได้มีสีดำสนิทอีกต่อไป ในยุคที่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตจากอวกาศเติบโตอย่างก้าวกระโดด กลุ่มดาวเทียมวงโคจรต่ำจำนวนมหาศาลได้เริ่มทิ้งร่องรอยเป็นเส้นแสงสีขาวพาดผ่านผืนฟ้า ปรากฏการณ์นี้คือสิ่งที่เรารู้จักกันในชื่อ “มลภาวะแสงจากดาวเทียม” (Satellite Light Pollution) แก่นของปัญหาคือ ในช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า แต่แสงอาทิตย์ยังคงส่องกระทบวัตถุในวงโคจร ไม่ว่าจะเป็นแผงโซลาร์เซลล์หรือเสาอากาศ กลับมายังโลก ทำให้เรามองเห็นเป็นเส้นสว่างวาบเคลื่อนที่ผ่านหมู่ดาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหัวค่ำและรุ่งสาง ทำไมปัญหานี้จึงเด่นชัดขึ้นในวันนี้? หลายคนอาจสงสัยว่าเหตุใดปรากฏการณ์นี้จึงกลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจัยหลักคือปริมาณดาวเทียมที่เพิ่มขึ้นทวีคูณ โครงการกลุ่มดาวเทียม (Satellite Constellations) เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตและการสำรวจโลก ได้ส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรนับหมื่นดวง และยังมีแผนจะเพิ่มจำนวนขึ้นอีกในอนาคต หรือหากมองภาพง่ายๆ คือท้องฟ้าที่เเน่นไปด้วยหมู่ดาวเทียม ทำให้ภารกิจในการเฝ้ามอ […]

read more
29.10.2025 627

การท่องเที่ยวของประเทศไทยจะไปต่อได้อย่างไร มิติไหนบ้างที่ต้องเร่งปรับเพื่อให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพ

แนวทางกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าการท่องเที่ยวของประเทศไทย ควรเปลี่ยนอย่างไรเพื่อให้มีความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงและพัฒนาประสบการณ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการมากยิ่งขึ้น  “Tourist – Centric มุ่งนักท่องเที่ยว (ยุคใหม่) เป็นศูนย์กลาง” คงจะเป็นเป้าหมายในการพัฒนาสินค้าการท่องเที่ยวที่ช่วยให้ประเทศของเรา ที่เป็นประเทศพึ่งพาทรัพยากรภายในที่หลากหลายมาทำประโยชน์ให้คุ้มค่ามากที่สุด  คำถามถัดมาคือ เรื่องอะไรบ้างที่ต้องปรับ เพื่อสอดรับกับทิศทางเหล่านี้ในการพัฒนาสินค้าการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งสรุปได้เป็น 4 หัวข้อหลัก ได้แก่ 1. การแบ่งกลุ่มนักท่องเที่ยว  ปรับจาก : อายุ, เจนเนอเรชั่น เป็น “เที่ยวทำไม” วัตถุประสงค์การท่องเที่ยว ในกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพสูง ใช้วัตถุประสงค์การเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวเป็นตัวแบ่งกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้มองเห็นถึงความสนใจ และประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ต้องการได้รับ ซึ่งจะสัมพันธ์กับการสร้างสรรค์สินค้าทางการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์พวกเขาได้ 2. การแบ่งกลุ่มประเภทการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยว ปรับจาก : ประเภทแหล่งท่องเที่ยว เป็น  “ป […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง