Baramizi Lab logo

ภาพยนตร์หลานม่าฟีเวอร์กับแนวโน้มการอยู่อาศัยในครอบครัวหลายช่วงวัย

ภาพยนตร์หลานม่าฟีเวอร์กับแนวโน้มการอยู่อาศัยในครอบครัวหลายช่วงวัย

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักภาพยนตร์เรื่อง ‘หลานม่า’ หรือในชื่อภาษาอังกฤษที่ว่า ‘How To Make Millions Before Grandma Die’ หนังล่าสุดจากค่าย GDH 559 กำกับและเขียนบทโดย พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ นำแสดงโดย พุฒิพงศ์ อัศรัตนกุล และอุษา ตะเข็บคุ้ม ภาพยนตร์เรื่องหลานม่าเข้าฉาย เพียง 14 วันแรกก็ทำรายได้ไปทั่วประเทศถึง 250 ล้านบาท ต่อมาสร้างสถิติเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลอันดับที่ 11 โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ทำลายสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

ปัจจุบันภาพยนตร์หลานม่ากวาดรายได้ในแต่ละประเทศในเอเชียไปได้อย่างท่วมท้น ประกอบไปด้วยประเทศไทย 337 ล้านบาท, มาเลเซีย 116 ล้านบาท, อินโดนีเซีย 412 ล้านบาท, สิงคโปร์ 91 ล้านบาท, ฟิลิปปินส์ 42 ล้านบาท, เวียดนาม 81 ล้านบาท, ฮ่องกง 6.5 ล้านบาท และลาว 3 ล้านบาท กวาดรายได้ทั่วโลกสุทธิ 1,088.5 ล้านบาทหลังจากที่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของแต่ละประเทศ ทั้งนี้ยังถือเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ที่สามารถทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านบาทหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่อง ‘พี่มากพระโขนง’ และ ‘ฉลาดเกมส์โกง’

เนื้อเรื่องตราตรึงใจทั้งเด็กรุ่นใหม่และผู้ใหญ่ทุกรุ่น

หลานม่า เป็นเรื่องราวที่มาจากประสบการณ์จริงของผู้กำกับที่มาจากสังคมครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนเหมือนกับครอบครัวของเหล่าตัวละครในเรื่อง โดยเนื้อเรื่องจะเล่าถึง ‘เอ็ม’ (รับบทโดย บิวกิ้น พุฒิพงศ์) ที่ตัดสินใจดร็อปเรียนตอนปีสี่ เพื่อมาเอาดีทางด้านแคสต์เกม แต่ทำยังไงก็ไม่รวยเสียที แต่เมื่อเห็น ‘มุ่ย’ (รับบทโดย ตู ต้นตะวัน) ลูกพี่ลูกน้องที่ดูแลอากงที่ป่วยระยะสุดท้ายจนได้รับมรดก เอ็มจึงตัดสินใจมาดูแล ‘อาม่า’ (รับบทโดย อุษา เสมคำ) ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายและน่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกินปี โดยหวังว่าอาม่าจะยกมรดกหลักล้านเช่นกัน

หนังเรื่องนี้เป็นความตั้งใจของ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้กำกับที่อยากสะท้อนความเป็นจริงที่ดูแล้วไม่น่าเบื่อ ไม่ดราม่าเกินไป วิธีการเล่าเรื่องจึงดูสมจริง เป็นธรรมชาติ และบางคำพูดอาจทำให้หลายคนนึกถึงครอบครัวตัวเอง

หลานม่าฟีเวอร์กับการอยู่ร่วมกันในครอบครัวหลายช่วงวัย

ภาพยนตร์มักมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อค่านิยมและกระแสทางสังคมเสมอ ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องหลานม่า ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างอาม่ากับหลาน มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถมีอิทธิพลต่อทัศนคติของผู้ชมต่อการใช้ชีวิตในครอบครัวหลายช่วงอายุได้ ภาพยนตร์สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงการให้ความสำคัญกับการให้เวลากับพ่อแม่ ปู่ย่า หรือตายาย และดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด สร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นให้แข็งแกร่งขึ้น

แนวโน้มของ Multi-Generation Family ทั่วโลกที่เติบโตขึ้น

Multi-Generation Family หรือครอบครัวที่มีสมาชิกหลายช่วงวัย จากผลวิจัยระบุว่า ผู้ชายและผู้หญิงโดยรวมมีแนวโน้มที่จะอาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกหลายช่วงวัยเท่าๆ กัน แต่ในกลุ่มอายุ 25 ถึง 29 ปี ผู้ชายวัยรุ่น (37%) มีแนวโน้มที่จะอยู่กับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายช่วงวัยมากกว่าหญิงสาว (26%) อย่างเห็นได้ชัด การอาศัยอยู่กับพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายถือเป็นแนวทางการดำรงชีวิตที่โดดเด่นสำหรับชายหนุ่มมานานกว่าทศวรรษ ทั้งนี้แนวโน้มการใช้ชีวิตร่วมกันกับคนหลายวัยที่กำลังพัฒนาไปทั่วโลก โดยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ภาพรวมของแนวโน้มปัจจุบันมีดังนี้

– เอเชีย :ในหลายประเทศในเอเชีย การมีครอบครัวที่มีสมาชิกหลายช่วงวัยถือเป็นบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมมายาวนาน แต่ปัจจัยทางเศรษฐกิจกำลังเสริมให้แนวโน้มนี้มีเพิ่มมากขึ้น

– ญี่ปุ่น : ประชากรสูงวัยและค่าดูแลผู้สูงอายุที่สูงส่งผลให้ครอบครัวอยู่ร่วมกันมากขึ้น ความเคารพทางวัฒนธรรมต่อผู้อาวุโสก็สนับสนุนแนวโน้มนี้เช่นกัน

–  ไทย : แม้ว่าจะได้รับอิทธิพลสมัยใหม่ในการเป็นอิสระในหมู่คนรุ่นใหม่ แต่การมีครอบครัวที่มีสมาชิกหลายช่วงวัยยังคงเป็นแนวทางปฏิบัติที่แพร่หลาย เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น ค่าครองชีพที่สูง

– อเมริกาเหนือ : ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ครัวเรือนหลายรุ่นกำลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจ พลวัตของครอบครัวที่เปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม

– สหรัฐอเมริกา : ความท้าทายทางเศรษฐกิจ เช่น ค่าที่อยู่อาศัยและหนี้เงินกู้นักเรียน กำลังผลักดันให้คนหนุ่มสาวอาศัยอยู่กับพ่อแม่มากขึ้น นอกจากนี้ หลายครอบครัวรับญาติผู้สูงอายุเนื่องจากค่ารักษาพยาบาลและค่าดูแลผู้สูงอายุที่สูง นอกจากนี้ยังมีการตระหนักรู้ถึงประโยชน์ของการมีครอบครัวขยายอยู่ใกล้ๆ ในการดูแลเด็กและการสนับสนุนซึ่งกันและกัน 

– แคนาดา : มีแนวโน้มที่คล้ายกัน โดยราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นและสังคมพหุวัฒนธรรมที่ครอบครัวผู้อพยพมาอาศัยจำนวนมาก ทำให้ยังคงรูปแบบการอยู่อาศัยแบบดั้งเดิมซึ่งส่งผลให้มีครอบครัวที่มีสมาชิกหลายช่วงวัยเพิ่มมากขึ้น

– ยุโรป : ในยุโรป การดำรงชีวิตในครอบครัวที่มีสมาชิกหลายช่วงวัยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางวัฒนธรรมและสภาพเศรษฐกิจไม่ต่างกัน

– ยุโรปตอนใต้ : ประเทศต่างๆ เช่น อิตาลี สเปน และกรีซ มักมีความผูกพันกับครอบครัวที่แน่นแฟ้น และวิกฤตเศรษฐกิจได้เสริมการดำรงชีวิตร่วมกับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายช่วงวัยให้เป็นวิธีแก้ปัญหาในทางปฏิบัติสำหรับหลายครอบครัว

– ยุโรปเหนือ : มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสำหรับโครงการบ้านจัดสรรหลายรุ่นและชุมชนที่อยู่อาศัยร่วมที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการสูงวัย โครงการเหล่านี้ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในประเทศต่างๆ เช่น เดนมาร์กและเยอรมนี ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องสวัสดิการสังคม

ตัวขับเคลื่อนการใช้ชีวิตร่วมแบบ Multi-Generations Family

  1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ : ค่าที่อยู่อาศัยที่สูง ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และภาระทางการเงินในการดูแลผู้สูงอายุ เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการดำรงชีวิตของคนหลายรุ่นทั่วโลก
  2. บรรทัดฐานทางวัฒนธรรม : ในหลายวัฒนธรรม มีประเพณีที่เข้มแข็งในการสนับสนุนการอยู่ร่วมกันของครอบครัวและความเคารพต่อผู้อาวุโส 
  3. ประชากรสูงวัย : ด้วยจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นในหลายส่วนของโลก ครอบครัวที่มีสมาชิกหลายวัยจึงเป็นการนำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่เป็นประโยชน์สำหรับการดูแลผู้สูงอายุ

สุดท้ายนี้ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญต่อความเข้มแข็งของครอบครัวในยุคที่ความเร่งรีบและภาวะเศรษฐกิจทำให้การมีที่อยู่อาศัยร่วมกันกลายเป็นทางเลือกที่สำคัญของผู้คนมากขึ้น การอยู่ร่วมกันในครอบครัวหลายช่วงวัยไม่เพียงแต่ช่วยให้สามารถแชร์ค่าใช้จ่ายและเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ แต่ยังเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงของครอบครัวหลายช่วงวัยได้อีกด้วย

 

ผู้เขียน

นางสาวจินต์ศุจี มณฑิราลัยพร

 

ที่มา

https://www.imdb.com/title/tt31392609/ 

https://www.vogue.co.th/lifestyle/entertainment/article/lahn-ma-1-billion 

https://en.wikipedia.org/wiki/How_To_Make_Millions_Before_Grandma_Dies 

https://movie.kapook.com/view278175.html 

https://www.vox.com/24115808/multigenerational-housing-us-families-personal-finance 

https://www.pewresearch.org/social-trends/2022/03/24/the-demographics-of-multigenerational-households/ 

https://lombardohomes.com/multigenerational-living-statistics/ 

RECOMMEND

read more
12.09.2025 57

แนวโน้ม Trend สำคัญของโรงงาน ในปี 2025

โรงงานยุคใหม่ต้องเป็นทั้ง “อัจฉริยะ” และ “ยั่งยืน” เพื่อรักษาความแข่งขันในตลาดโลก “อัจฉริยะ” และ “ยั่งยืน” โรงงานยุคใหม่ต้องเป็นทั้ง “อัจฉริยะ” และ “ยั่งยืน” เพื่อรักษาความแข่งขันในตลาดโลก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัลและความเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน ผลักดันให้โรงงานต้องพัฒนาไปสู่ระบบอัตโนมัติที่มีความสามารถในการคาดการณ์ ใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และสร้างประสบการณ์ที่ดึงดูดผู้บริโภค มากไปกว่านั้น ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม กลายเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดกลยุทธ์ของผู้ประกอบการโรงงานทั้งหลาย เทรนด์โรงงานแห่งอนาคต 1. Foresight Factories: โรงงานมองการณ์ไกล ระบบ Predictive Maintenance ช่วยระบุปัญหาก่อนเกิดเหตุจริง และใช้ Digital Twin ในการจำลองสถานการณ์ผลิตเพื่อปรับปรุงกระบวนการอย่างแม่นยำ ภายในปี 2025 อัตราการใช้ระบบอัตโนมัติจะเพิ่มจาก 69% เป็น 79% ขณะที่การเชื่อมต่อทุกกระบวนการช่วยให้ตัดสินใจได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น 2. Decentralized Manufacturing: ผลิตแบบกระจายศูนย์ โรงงานขนาดเล็กเคลื่อนย้ายได้ พร้อมตอบสนองความต้องการในท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว ผู้ผลิตรายใหญ่เริ่มพัฒนาชุดโรงงานย่อยที่ […]

Day One Tactics
read more
10.09.2025 45

Day One Tactics ธุรกิจจับคู่จะชนะอย่างไร เมื่อ ‘ความเร็ว’ และ ‘ตัวเลือกเยอะ’ ไม่ใช่คุณค่าหลักของพฤติกรรมผู้ใช้งาน

ในโลกที่ความสัมพันธ์ไม่ใช่เส้นตรงอีกต่อไป ตั้งแต่หาเพื่อน, หากลุ่มเฉพาะทางที่สนใจ, หางานที่ตรงสาย ไปจนหาเดตที่ใช่ ในทุกวันนี้ทุกอย่างกำลังกระจายตัวสู่ “แพลตฟอร์มตัวกลาง” ที่ทำให้คนอยากเจอกันได้เจอกันง่ายขึ้น แต่ความต้องที่ซับซ้อนอยู่ในตัวทุกคน เรามีความเหงาแต่ก็ขี้เกียจในเวลาเดียวกัน แอปต่างๆ อาจทำให้การเริ่มบทสนทนาง่ายขึ้น แต่ไม่ได้ตอบโจทย์ที่ตรงใจ กลับกัน มันยิ่งตอกคำถามว่าเราจะรักษาความตั้งใจ ความปลอดภัย และความคุ้มค่าของเวลาที่จ่ายลงไปอย่างไร ความซับซ้อนของพฤติกรรมทำให้รูปแบบการมองหาความสัมพันธ์เกิดความยากขึ้น ผู้ใช้งานพร้อมที่จะ ‘ยกเลิก’ ความสัมพันธ์ตลอดเวลา แทนที่การ ‘รักษา’ ให้คงไว้ ตัวอย่างเช่น การเตรียมตัวเพื่อถอนตัวล่วงหน้า (Banksying), การค่อยๆ เว้นระยะห่างก่อนจากลา (Slow Fade), หรือ การหายไปเฉย ๆ ตัดการสื่อสารทันที (Ghosting) ซึ่งทั้งหมด มี “รากพฤติกรรมร่วม” คือการ หลีกเลี่ยงความอึดอัด (Avoidance), ปกป้องตนเองทางอารมณ์ (Self-Preservation) และ “ภาวะล้นทางเลือก” (Choice Overload) ซึ่งจะเกิดเป็น “ความเหนื่อยล้า” (Dating-App Fatigue) ภาวะทั้งหมดนี้ล้วนกระทบธุรกิจที่ซึ่งขาย ‘ควา […]

Ultra-Processed Foods (UPF)
read more
08.09.2025 63

UPF: อาหารแปรรูปสูง ที่คุณคิดว่า “ดีต่อสุขภาพ” อาจไม่ใช่อย่างที่คิด

เฮลตี้? หรือแค่ภาพลวงตาของอุตสาหกรรมอาหาร เช้า: ซีเรียลแท่งไฟเบอร์สูงในมือคุณ กลางวัน: ข้าวกล่องคลีนแช่แข็ง เย็น: โยเกิร์ต fat-free รสผลไม้ คุณอาจคิดว่ากำลังกินเพื่อสุขภาพ แต่จริง ๆ แล้ว… สิ่งเหล่านี้จำนวนมากคือ Ultra-Processed Foods (UPF) อาหารแปรรูปสูงที่ผ่านการแต่ง เติม ปรุง ปลอม จนแทบไม่เหลือร่องรอยธรรมชาติ UPF คืออะไร ทำไมถึงอันตรายกว่าที่คิด?  อาหารแปรรูประดับสูงคืออาหารที่ถูกผ่านกระบวนการผลิตหลายขั้นตอน จนแทบไม่เหลือร่องรอยของวัตถุดิบธรรมชาติดั้งเดิม จุดเด่นคือมีการเติมสารสังเคราะห์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สารกันเสีย สารแต่งกลิ่น สี สารเพิ่มความหวาน และสารปรุงแต่งรส เพื่อให้อาหารเก็บได้นาน ดูน่ากิน และถูกปากยิ่งขึ้น ที่น่าตกใจคือ… หลายครั้งอาหารที่ถูกโฆษณาให้ดู “เฮลตี้” ก็ยังเข้าข่ายเป็น UPF เช่น ซีเรียลไฟเบอร์สูงที่จริงแล้วใส่น้ำตาลหรือสารให้ความหวานแทน ขนมปังโฮลวีตในถุง ที่มักใส่สารปรับสภาพแป้งและวัตถุเจือปนหลายชนิด โยเกิร์ต fat-free รสผลไม้ ที่เต็มไปด้วยน้ำตาลและกลิ่นสังเคราะห์ นมอัลมอนด์หรือนมถั่วเหลืองแต่งรส ที่ผ่านการแต่งเติมจนแทบไม่เหลือคุณค่าจากถั่วจริง ๆ อาหารเหล่านี้อาจมีฉล […]

Vibe coding Trend
read more
05.09.2025 86

Vibe coding Trend คืออะไร? เทรนด์นี้จะเปลี่ยนอาชีพนักพัฒนาในอนาคตอย่างไร

Vibe coding คืออะไรและต่างจากการใช้ Copilot ยังไง อนาคตของอาชีพนักพัฒนาจะเปลี่ยนไปอย่างไร Vibe coding คืออะไรและต่างจากการใช้ Copilot ยังไง Vibe Coding คือแนวทางการพัฒนาโปรแกรมที่เน้นการทำงานร่วมกับ AI ผ่านการสื่อสารด้วยภาษาธรรมชาติ เช่น คำสั่งภาษาอังกฤษ ให้ AI ช่วยสร้าง ปรับแต่ง และแนะนำโค้ดแบบไหลลื่นและมีความสร้างสรรค์สูง ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดทีละบรรทัด ส่วน GitHub Copilot คือหนึ่งในเครื่องมือ AI ที่ช่วยแนะนำโค้ดระหว่างการเขียนจริง ๆ โดยมันจะเติมโค้ดหรือฟังก์ชันที่คาดว่าจะใช้ในบริบทนั้น ๆ แต่ยังต้องให้ผู้พัฒนาเป็นผู้เขียนและควบคุมหลัก ความแตกต่างหลักระหว่าง Vibe Coding กับ Copilot คือ Vibe Coding เป็นแนวคิดที่กว้างกว่า เน้นการใช้ AI เป็นเหมือนผู้ช่วยในการพัฒนาโค้ดทั้งโปรเจกต์ผ่านการสื่อสารด้วยภาษาธรรมชาติแบบโต้ตอบ ที่ช่วยให้การสร้างโค้ดเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสร้างสรรค์ขึ้น Copilot เป็นเครื่องมือหนึ่งใน Ecosystem ของ Vibe Coding ที่ให้การช่วยเติมโค้ดและแนะนำฟังก์ชัน แต่ยังคงเป็นเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดแบบเดิมที่มีรูปแบบที่จำกัดและใช้คำสั่งโดยตรงน้อยกว่า เทรนด์นี้จะเปลี่ยนอาชีพนักพัฒนา […]

polka dot trend
read more
03.09.2025 77

Nostalgia จิตวิทยาที่ทำให้
เสื้อ Polka Dot เป็นTrendช่วงนี้ ได้อย่างไร?

การค้นหาคำว่า “polka dot outfits” บน Pinterest เพิ่มขึ้น 1,026% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ววงจรแฟชั่น 20 ปีและกระแส Y2K Revival เสื้อ Polka Dot คืออะไร เสื้อ Polka Dot เป็นเสื้อผ้าลายจุดกลมที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนและรักษาความคลาสสิก รวมถึงโดดเด่นด้วยความสดใสและมีชีวิตชีวา จึงเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมตลอดกาลเสื้อ Polka Dot คือเสื้อผ้าที่มีลวดลายจุดกลม ๆ กระจายทั่วผืนผ้า โดยจุดมักจะมีขนาดเท่ากันและเว้นระยะห่างเท่ากัน ชื่อ Polka Dot มาจากชื่อการเต้นรำในยุโรปช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ซึ่งลายจุดนี้สื่อถึงความร่าเริงและจังหวะสนุกสนานของการเต้นรำ แฟชั่น Polka Dot เป็นสไตล์คลาสสิกที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2025 ลายนี้กลับมาเป็นเทรนด์ฮิตอีกครั้ง เพราะให้ความรู้สึกสดใส มีชีวิตชีวา และเหมาะกับหลายโอกาส ทั้งลุคหวาน ลุคชิค หรือแฟชั่นสตรี ทำไมเสื้อ Polka Dot ถึงเป็นกระแสช่วงนี้ 1.จิตวิทยาความคิดถึงและการหาความปลอดภัย Nostalgia การค้นหาคำว่า “polka dot outfits” บน Pinterest เพิ่มขึ้น 1,026% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่คำค้นหา “polka dot” พ […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง