Baramizi Lab logo

Sports Science Trends: เทรนด์ใหม่ในวิทยาศาสตร์การกีฬา

Sports Science Trends: เทรนด์ใหม่ในวิทยาศาสตร์การกีฬา

ตอนนี้หลายๆ ท่านน่าจะกำลังอินกับเทศกาลโอลิมปิกที่จัดขึ้นในช่วงนี้ มีการแข่งขันที่ทำให้แฟนกีฬาชาวไทยได้ติดตามเชียร์ และใจฟูไปกับความสำเร็จของนักกีฬ่าที่คว้าเหรียญ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมีเบื้องหลังมากมายที่เรามองไม่เห็น นักกีฬาต้องฟิตซ้อมร่างกายอย่างหนัก ในด้านจิตใจก็ต้องมีจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาทำให้นักกีฬาใจแกร่งขึ้น และยังมีทีมงานที่เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อร่วมกันผลักดันให้นักกีฬาไปถึงฝั่งฝัน

วันนี้ศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซ็ปต์แห่งอนาคต บารามีซี่แล็บ เราอยากมาชวนคุยถึงเรื่องหนึ่งที่เป็นอีกหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬา นั่นคือเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่ไม่เคยหยุดพัฒนา ด้วยการวิจัยและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยเสริมสร้างความรู้และประสิทธิภาพในการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาอย่างต่อเนื่อง เรามาดูกันว่าเทรนด์ใหม่ในวิทยาศาสตร์การกีฬามีอะไรบ้างที่น่าสนใจและมีผลกระทบอย่างไรต่อวงการกีฬาและสุขภาพ

เทคโนโลยีการสวมใส่ (Wearable Technology)

การใช้เทคโนโลยีการสวมใส่ เช่น Smart Watch สายรัดข้อมือที่ตรวจวัดชีพจร และเซนเซอร์อื่น ๆ ได้กลายเป็นเรื่องปกติในหมู่นักกีฬาและผู้ที่รักการออกกำลังกาย เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกาย เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ การนับก้าว การเผาผลาญแคลอรี่ และการนอนหลับ และผู้ใช้สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์และปรับปรุงการออกกำลังกายของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence/AI)

AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลการกีฬาและสุขภาพ เช่น การวิเคราะห์การเคลื่อนไหว การคาดการณ์อาการบาดเจ็บ และการปรับโปรแกรมการฝึกซ้อมให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล AI ยังสามารถช่วยในการวางแผนการฟื้นฟูและปรับปรุงการแสดงของนักกีฬาได้อีกด้วย

โภชนาการเฉพาะบุคคล (Personalized Nutrition)

การปรับแต่งโปรแกรมอาหารและเสริมสารอาหารตามความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคลได้รับความสนใจมากขึ้น การใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมและข้อมูลสุขภาพเพื่อกำหนดแผนการบริโภคอาหารที่เหมาะสมช่วยให้การฟื้นฟูร่างกายและการเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายเป็นไปได้อย่างดีที่สุด

การออกกำลังกายผ่านแอปพลิเคชัน (Fitness Apps)

แอปพลิเคชันที่ช่วยในการติดตามการออกกำลังกาย ให้คำแนะนำ และสร้างแรงบันดาลใจและเป้าหมายให้กับผู้ใช้งาน มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการออกกำลังกาย แอปพลิเคชันเหล่านี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีการสวมใส่เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมและให้คำแนะนำที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้อีกด้วย

การฟื้นฟูร่างกายด้วยเทคโนโลยี (Recovery Technology)

การฟื้นฟูร่างกายเป็นส่วนสำคัญของการออกกำลังกายและการฝึกซ้อมกีฬา เทคโนโลยีที่ช่วยในการฟื้นฟู เช่น การบำบัดด้วยความเย็น (Cryotherapy) การใช้เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง (High Power Laser) และการนวดด้วยเครื่องมือพิเศษได้รับความนิยมมากขึ้น นักกีฬาใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกายและลดอาการบาดเจ็บ

การวิเคราะห์แนวโน้มและประสิทธิภาพของนักกีฬา (Analyzing Performance of Athletes)

ในยุคที่ข้อมูลมีบทบาทสำคัญในทุกวงการ วิทยาศาสตร์การกีฬาก็ไม่ต่างกัน การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของนักกีฬาได้กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาสมรรถภาพของนักกีฬา การป้องกันการบาดเจ็บ การตรวจจับความเสี่ยงของการบาดเจ็บ และการปรับปรุงโปรแกรมการฝึกซ้อมจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากการฝึกซ้อม การแข่งขัน และการใช้เทคโนโลยีการสวมใส่จะสามารถช่วยให้ผู้ฝึกสอนและนักกีฬามีข้อมูลในการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การวางแผนการฝึกซ้อม การปรับกลยุทธ์การแข่งขัน และการจัดการการฟื้นฟูร่างกาย ข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัยทำให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีเหตุผลและมีพื้นฐานจากความเป็นจริง ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ

การติดตามและนำเทรนด์ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา แต่ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในทุกช่วงวัยได้อย่างยั่งยืน

 

ผู้เขียน: วทาชิดา จิรวัฒน์นิมิต

ที่มา:

https://www.roojai.com/article/health-guide/health-care-like-footballers/

https://www.sarirarak.com/single-post/high-power-laser-therapy

https://hdmall.co.th/c/cryotherapy

RECOMMEND

CTM Cafe
read more
15.09.2025 106

ชาตรามือออกแบรนด์ชา CTM
เดินตลาดตาม Trend Specialty Tea

ชาตรามือ แบรนด์ใหม่ CTM CTM หรือ Captivating Tea Muse เป็นแบรนด์ชาใหม่ล่าสุดจากชาตรามือ ที่เน้นชาพรีเมียมคัดสรรคุณภาพดีเยี่ยม ผสมผสานกับวัตถุดิบคุณภาพสูงเพื่อมอบประสบการณ์รสชาติที่แปลกใหม่และสนุกขึ้น แบรนด์นี้มีใบชาหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 10 ชนิด พร้อมเมนูเด่น เช่น ชาอู่หลงนางงาม ที่ถือเป็นจุดขายสำคัญของแบรนด์ CTM ได้ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญด้านชาอย่างลึกซึ้งของชาตรามือเพื่อสร้างชาในมิติใหม่ที่เหนือชั้นกว่าเดิม อะไรทำให้ชาไทย Specialty เป็นเทรนด์ฮิตตอนนี้ การเติบโตของอุตสาหกรรมชาไทยที่มีการพัฒนาเชิงโครงสร้างในด้านคุณภาพของใบชา ความหลากหลายของแหล่งปลูก และกำลังการผลิต ทำให้ไทยกลายเป็นตลาดค้าชารายใหญ่อันดับ 7 ของโลก ผู้บริโภคไทยเริ่มรับรู้และสนใจเครื่องดื่ม Specialty มากขึ้น หลังจากที่กาแฟ Specialty ได้รับความนิยมก่อนหน้านี้ ทำให้มีการพัฒนาชาไทยแบบพรีเมียม ที่มีการคัดใบชาจากแหล่งปลูกหลากหลายทั่วไทย รวมถึงการใช้เทคนิคการชงที่ทันสมัย ชาไทย Specialty เน้นความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกใบชาคุณภาพสูงที่มีโน้ตรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวแตกต่างกันตามแหล่งปลูก เช่น ชาเชียงราย ชาแม่ฮ่องสอน […]

read more
12.09.2025 222

แนวโน้ม Trend สำคัญของโรงงาน ในปี 2025

โรงงานยุคใหม่ต้องเป็นทั้ง “อัจฉริยะ” และ “ยั่งยืน” เพื่อรักษาความแข่งขันในตลาดโลก “อัจฉริยะ” และ “ยั่งยืน” โรงงานยุคใหม่ต้องเป็นทั้ง “อัจฉริยะ” และ “ยั่งยืน” เพื่อรักษาความแข่งขันในตลาดโลก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัลและความเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน ผลักดันให้โรงงานต้องพัฒนาไปสู่ระบบอัตโนมัติที่มีความสามารถในการคาดการณ์ ใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และสร้างประสบการณ์ที่ดึงดูดผู้บริโภค มากไปกว่านั้น ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม กลายเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดกลยุทธ์ของผู้ประกอบการโรงงานทั้งหลาย เทรนด์โรงงานแห่งอนาคต 1. Foresight Factories: โรงงานมองการณ์ไกล ระบบ Predictive Maintenance ช่วยระบุปัญหาก่อนเกิดเหตุจริง และใช้ Digital Twin ในการจำลองสถานการณ์ผลิตเพื่อปรับปรุงกระบวนการอย่างแม่นยำ ภายในปี 2025 อัตราการใช้ระบบอัตโนมัติจะเพิ่มจาก 69% เป็น 79% ขณะที่การเชื่อมต่อทุกกระบวนการช่วยให้ตัดสินใจได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น 2. Decentralized Manufacturing: ผลิตแบบกระจายศูนย์ โรงงานขนาดเล็กเคลื่อนย้ายได้ พร้อมตอบสนองความต้องการในท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว ผู้ผลิตรายใหญ่เริ่มพัฒนาชุดโรงงานย่อยที่ […]

Day One Tactics
read more
10.09.2025 274

Day One Tactics ธุรกิจจับคู่จะชนะอย่างไร เมื่อ ‘ความเร็ว’ และ ‘ตัวเลือกเยอะ’ ไม่ใช่คุณค่าหลักของพฤติกรรมผู้ใช้งาน

ในโลกที่ความสัมพันธ์ไม่ใช่เส้นตรงอีกต่อไป ตั้งแต่หาเพื่อน, หากลุ่มเฉพาะทางที่สนใจ, หางานที่ตรงสาย ไปจนหาเดตที่ใช่ ในทุกวันนี้ทุกอย่างกำลังกระจายตัวสู่ “แพลตฟอร์มตัวกลาง” ที่ทำให้คนอยากเจอกันได้เจอกันง่ายขึ้น แต่ความต้องที่ซับซ้อนอยู่ในตัวทุกคน เรามีความเหงาแต่ก็ขี้เกียจในเวลาเดียวกัน แอปต่างๆ อาจทำให้การเริ่มบทสนทนาง่ายขึ้น แต่ไม่ได้ตอบโจทย์ที่ตรงใจ กลับกัน มันยิ่งตอกคำถามว่าเราจะรักษาความตั้งใจ ความปลอดภัย และความคุ้มค่าของเวลาที่จ่ายลงไปอย่างไร ความซับซ้อนของพฤติกรรมทำให้รูปแบบการมองหาความสัมพันธ์เกิดความยากขึ้น ผู้ใช้งานพร้อมที่จะ ‘ยกเลิก’ ความสัมพันธ์ตลอดเวลา แทนที่การ ‘รักษา’ ให้คงไว้ ตัวอย่างเช่น การเตรียมตัวเพื่อถอนตัวล่วงหน้า (Banksying), การค่อยๆ เว้นระยะห่างก่อนจากลา (Slow Fade), หรือ การหายไปเฉย ๆ ตัดการสื่อสารทันที (Ghosting) ซึ่งทั้งหมด มี “รากพฤติกรรมร่วม” คือการ หลีกเลี่ยงความอึดอัด (Avoidance), ปกป้องตนเองทางอารมณ์ (Self-Preservation) และ “ภาวะล้นทางเลือก” (Choice Overload) ซึ่งจะเกิดเป็น “ความเหนื่อยล้า” (Dating-App Fatigue) ภาวะทั้งหมดนี้ล้วนกระทบธุรกิจที่ซึ่งขาย ‘ควา […]

read more
08.09.2025 159

UPF: อาหารแปรรูปสูง ที่คุณคิดว่า “ดีต่อสุขภาพ” อาจไม่ใช่อย่างที่คิด

เฮลตี้? หรือแค่ภาพลวงตาของอุตสาหกรรมอาหาร เช้า: ซีเรียลแท่งไฟเบอร์สูงในมือคุณ กลางวัน: ข้าวกล่องคลีนแช่แข็ง เย็น: โยเกิร์ต fat-free รสผลไม้ คุณอาจคิดว่ากำลังกินเพื่อสุขภาพ แต่จริง ๆ แล้ว… สิ่งเหล่านี้จำนวนมากคือ Ultra-Processed Foods (UPF) อาหารแปรรูปสูงที่ผ่านการแต่ง เติม ปรุง ปลอม จนแทบไม่เหลือร่องรอยธรรมชาติ UPF คืออะไร ทำไมถึงอันตรายกว่าที่คิด?  อาหารแปรรูประดับสูงคืออาหารที่ถูกผ่านกระบวนการผลิตหลายขั้นตอน จนแทบไม่เหลือร่องรอยของวัตถุดิบธรรมชาติดั้งเดิม จุดเด่นคือมีการเติมสารสังเคราะห์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สารกันเสีย สารแต่งกลิ่น สี สารเพิ่มความหวาน และสารปรุงแต่งรส เพื่อให้อาหารเก็บได้นาน ดูน่ากิน และถูกปากยิ่งขึ้น ที่น่าตกใจคือ… หลายครั้งอาหารที่ถูกโฆษณาให้ดู “เฮลตี้” ก็ยังเข้าข่ายเป็น UPF เช่น ซีเรียลไฟเบอร์สูงที่จริงแล้วใส่น้ำตาลหรือสารให้ความหวานแทน ขนมปังโฮลวีตในถุง ที่มักใส่สารปรับสภาพแป้งและวัตถุเจือปนหลายชนิด โยเกิร์ต fat-free รสผลไม้ ที่เต็มไปด้วยน้ำตาลและกลิ่นสังเคราะห์ นมอัลมอนด์หรือนมถั่วเหลืองแต่งรส ที่ผ่านการแต่งเติมจนแทบไม่เหลือคุณค่าจากถั่วจริง ๆ อาหารเหล่านี้อาจมีฉล […]

Vibe coding Trend
read more
05.09.2025 109

Vibe coding Trend คืออะไร? เทรนด์นี้จะเปลี่ยนอาชีพนักพัฒนาในอนาคตอย่างไร

Vibe coding คืออะไรและต่างจากการใช้ Copilot ยังไง อนาคตของอาชีพนักพัฒนาจะเปลี่ยนไปอย่างไร Vibe coding คืออะไรและต่างจากการใช้ Copilot ยังไง Vibe Coding คือแนวทางการพัฒนาโปรแกรมที่เน้นการทำงานร่วมกับ AI ผ่านการสื่อสารด้วยภาษาธรรมชาติ เช่น คำสั่งภาษาอังกฤษ ให้ AI ช่วยสร้าง ปรับแต่ง และแนะนำโค้ดแบบไหลลื่นและมีความสร้างสรรค์สูง ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดทีละบรรทัด ส่วน GitHub Copilot คือหนึ่งในเครื่องมือ AI ที่ช่วยแนะนำโค้ดระหว่างการเขียนจริง ๆ โดยมันจะเติมโค้ดหรือฟังก์ชันที่คาดว่าจะใช้ในบริบทนั้น ๆ แต่ยังต้องให้ผู้พัฒนาเป็นผู้เขียนและควบคุมหลัก ความแตกต่างหลักระหว่าง Vibe Coding กับ Copilot คือ Vibe Coding เป็นแนวคิดที่กว้างกว่า เน้นการใช้ AI เป็นเหมือนผู้ช่วยในการพัฒนาโค้ดทั้งโปรเจกต์ผ่านการสื่อสารด้วยภาษาธรรมชาติแบบโต้ตอบ ที่ช่วยให้การสร้างโค้ดเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสร้างสรรค์ขึ้น Copilot เป็นเครื่องมือหนึ่งใน Ecosystem ของ Vibe Coding ที่ให้การช่วยเติมโค้ดและแนะนำฟังก์ชัน แต่ยังคงเป็นเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดแบบเดิมที่มีรูปแบบที่จำกัดและใช้คำสั่งโดยตรงน้อยกว่า เทรนด์นี้จะเปลี่ยนอาชีพนักพัฒนา […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง