Baramizi Lab logo

“Gartner” เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมธุรกิจปี 2569

03
11.2025
view
893
SHARE

“Gartner” เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมธุรกิจปี 2569

ในปี 2569 จะเป็นปีที่สำคัญต่อผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ต้องเผชิญกับการหยุดชะงัก นวัตกรรม ไปจนถึงความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน
เทรนด์เทคโนโลยีทั้งหมดในปีหน้าจะเชื่อมโยงกับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-driven world) และเชื่อมต่อกัน
ตลอดเวลา ซึ่งองค์กรธุรกิจต้องขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ ดำเนินงานด้วยความเป็นเลิศ และสร้างความไว้วางใจทางดิจิทัลไปพร้อมกัน

ผู้นำองค์กรต้องเผชิญกับ การหยุดชะงัก (Disruption) นวัตกรรม และความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็ว

10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญแห่งปี 2569

1. AI Supercomputing Platforms 

AI Supercomputing Platforms (แพลตฟอร์ม AI ซูเปอร์คอมพิวติ้ง) เป็นการรวมพลังของ CPU, GPU, ชิป AI ASICs และการประมวลผลแบบนิวโรมอร์ฟิก (จำลองสมองมนุษย์) ช่วยให้องค์กรจัดการงานที่ซับซ้อนมหาศาล ปลดล็อกประสิทธิภาพและนวัตกรรม ต้องอาศัย Orchestration Software เพื่อจัดการเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนโดยอัตโนมัติ คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 องค์กรชั้นนำ 40% จะใช้สถาปัตยกรรม Hybrid Computing (เพิ่มจาก 8% ในปัจจุบัน) ตัวอย่างการใช้งาน: คิดค้นยาใหม่ในไม่กี่สัปดาห์ (แทนที่จะใช้เวลาหลายปี) หรือจำลองตลาดโลกเพื่อลดความเสี่ยง

2. Multi Agent Systems (MAS)

Multi Agent Systems (MAS) คือชุดของ AI Agent (ตัวแทน AI) ที่โต้ตอบกันเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ซับซ้อน ช่วยให้องค์กรสามารถทำให้กระบวนการทางธุรกิจที่ซับซ้อนเป็นอัตโนมัติได้จริง

สร้างวิธีการใหม่ๆ ให้ “คน” และ “AI Agent” ทำงานร่วมกัน Agent แบบโมดูลาร์ (Modular) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เร่งการส่งมอบ และลดความเสี่ยง ทำให้องค์กรสามารถขยายการดำเนินงาน (Scale) และปรับใช้ได้รวดเร็วตามความต้องการ

3. Domain-Specific Language Models (DSLMs)

LLM (โมเดลภาษาขนาดใหญ่) ทั่วไป มักไม่ตอบโจทย์งานเฉพาะทางของธุรกิจ DSLMs คือโมเดลภาษาที่ถูกฝึกหรือปรับแต่งด้วย ข้อมูลเฉพาะทาง สำหรับอุตสาหกรรมนั้นๆ

DSLMs ให้ความแม่นยำสูงกว่า ต้นทุนต่ำกว่า และปฏิบัติตามข้อกำหนด (Compliance) ได้ดีกว่า คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 มากกว่าครึ่งหนึ่ง (50%) ของโมเดล GenAI ที่องค์กรใช้ จะเป็นแบบ DSLMs AI Agent ที่ใช้ DSLM จะตีความบริบทเฉพาะอุตสาหกรรมและตัดสินใจได้ถูกต้องแม่นยำ

4. AI Security Platforms

AI Security Platforms เป็นแนวทางการทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชัน AI ทั้งหมด ช่วยรวมศูนย์การมองเห็น (Visibility) และบังคับใช้นโยบายการใช้งาน AI ป้องกันความเสี่ยงเฉพาะของ AI เช่น
Prompt Injection (การโจมตีด้วยพรอมต์),

Data Leakage (ข้อมูลรั่วไหล) ป้องกันการกระทำที่เป็นอันตรายของ Agent (Rogue Agent Actions) คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 องค์กรมากกว่า 50% จะใช้ AI Security Platforms

5. AI-Native Development Platforms

AI-Native Development Platforms คือแพลตฟอร์มที่ใช้ GenAI เพื่อสร้างซอฟต์แวร์ได้รวดเร็วและง่ายขึ้น ช่วยให้ Software Engineer ที่ทำงานหน้างาน (Forward-Deployed Engineer) ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในโดเมนเพื่อพัฒนาแอปฯ ได้โดยตรง องค์กรสามารถใช้ ทีมขนาดเล็กที่ทำงานคู่กับ AI เพื่อสร้างแอปพลิเคชันได้มากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญในโดเมนที่ไม่ใช่สายเทคนิค (Non-technical) ก็สามารถผลิตซอฟต์แวร์เองได้ คาดการณ์ว่าภายในปี 2573 องค์กร 80% จะเปลี่ยนทีมวิศวกรซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ ให้เป็นทีมที่เล็กและคล่องตัวขึ้นโดยมี AI เสริม

6. Confidential Computing

Confidential Computing เป็นแนวทางใหม่ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล “ขณะกำลังถูกประมวลผล” (Data-in-use) ใช้วิธีแยกภาระงาน (Workload) ไว้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย (Trusted Execution Environment – TEE) ช่วยให้ข้อมูลเป็นส่วนตัว แม้แต่จากเจ้าของโครงสร้างพื้นฐาน

หรือผู้ให้บริการคลาวด์ มีประโยชน์สูงสุดกับอุตสาหกรรมที่มีการควบคุมเข้มงวด หรือมีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
คาดการณ์ว่าภายในปี 2572 มากกว่า 75% ของการประมวลผลบนโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่น่าเชื่อถือ จะใช้ Confidential Computing

7. Physical AI

Physical AI คือการนำความฉลาดของ AI มาสู่โลกจริง โดยฝังไว้ในเครื่องจักรและอุปกรณ์ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ หุ่นยนต์ (Robotics), โดรน และอุปกรณ์อัจฉริยะ

ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพที่วัดผลได้จริง ในอุตสาหกรรมที่เน้นระบบอัตโนมัติและความปลอดภัย องค์กรที่นำไปใช้ ต้องการทักษะใหม่ที่เชื่อมโยงระบบไอที (IT), การดำเนินงาน (OT) และวิศวกรรม (Engineering)

8. Preemptive Cybersecurity

Preemptive Cybersecurity คือการเปลี่ยนโหมดจากการป้องกันแบบ Reactive (ตั้งรับ) ไปสู่โหมด Proactive (เชิงรุก) หมายถึงการดำเนินการ “ก่อน” ที่ผู้โจมตีจะโจมตีสำเร็จ ใช้เทคโนโลยี

เช่น AI-powered SecOps, Programmatic Denial และ Deception (เทคโนโลยีลวง) เพื่อหลอกล่อ Hacker คาดการณ์ว่าภายในปี 2573 โซลูชันเชิงป้องกันล่วงหน้า จะคิดเป็นครึ่งหนึ่ง (50%) ของการใช้จ่ายด้านความปลอดภัยทั้งหมด

9. Digital Provenance

คือความสามารถในการตรวจสอบ แหล่งที่มา, ความเป็นเจ้าของ และความสมบูรณ์ (Integrity) ของสินทรัพย์ดิจิทัล จำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อองค์กรต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์ Open Source, โค้ดจากบุคคลที่สาม และเนื้อหาที่สร้างโดย AI เครื่องมือใหม่ๆ ที่ใช้คือ Software Bills of Materials (SBoM), Attestation Database และ Digital Watermarking

คาดการณ์ว่าภายในปี 2572 องค์กรที่ไม่ได้ลงทุนด้านนี้ จะเผชิญความเสี่ยงถูกลงโทษมูลค่ามหาศาล

10. Geo patriation

คือการย้ายข้อมูลและแอปพลิเคชันจาก Global Public Cloud (คลาวด์สาธารณะระดับโลก) กลับสู่การดำเนินงานแบบท้องถิ่น (Local) สาเหตุหลักมาจาก ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risk) และความต้องการ Cloud Sovereignty (อธิปไตยบนคลาวด์) การย้ายกลับไปใช้ Sovereign Cloud หรือ Regional Cloud Provider ช่วยให้องค์กรควบคุมการเก็บข้อมูลในพื้นที่ได้ดีขึ้น

ช่วยปรับปรุงการปฏิบัติตามกฎระเบียบท้องถิ่น (Local Regulations) และสร้างความไว้วางใจให้ลูกค้า

บทสรุป

ปี 2569 ไม่ใช่แค่ยุคของเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดกว่า แต่ยังเป็นยุคที่ต้อง “ใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ” องค์กรที่สามารถผสาน นวัตกรรม ความปลอดภัย และความไว้วางใจ เข้าด้วยกันได้ จะเป็นผู้กำหนดอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลในทศวรรษต่อไปอย่างแท้จริง

บทความโดย : ภูชิต มุณีวงศ์ (Future Trend Researcher)


อ้างอิงจาก:

Gartner Identifies the Top Strategic Technology Trends for 2026
เข้าถึงได้จาก: https://www.gartner.com/en/newsroom/press-releases/2025-10-20-gartner-identifies-the-top-strategic-technology-trends-for-2026

RECOMMEND

สรุป Pinterest Predicts 2026
read more
19.12.2025 12

เจาะลึก Pinterest Predicts 2026: ถอดรหัส 4 กลยุทธ์ธุรกิจ เปลี่ยน “เทรนด์” ให้เป็น “ยอดขาย”

ในโลกธุรกิจที่หมุนเร็ว การรู้เทรนด์ก่อนคู่แข่งเพียงก้าวเดียว อาจหมายถึงส่วนแบ่งการตลาดมหาศาล ล่าสุด Pinterest แพลตฟอร์มที่เปรียบเสมือน “ลูกแก้วพยากรณ์” ของโลกการตลาด ได้ปล่อยรายงาน Pinterest Predicts สำหรับปี 2026 ออกมาแล้ว ความน่าสนใจของรายงานนี้คือ Pinterest ไม่ได้วิเคราะห์จากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่วิเคราะห์จาก “Search Intent” (เจตนาการค้นหา) ของผู้ใช้งานกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความต้องการซื้อที่จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เราพบว่าปี 2026 จะไม่ใช่ปีแห่งความ “เรียบง่าย” หรือ “มินิมอล” อีกต่อไป แต่มันคือปีแห่งการแสดงออก (Expression), สัมผัส (Sensory), และการผสมผสาน (Hybrid) นี่คือ 4 กลยุทธ์ทางธุรกิจ ที่เราถอดรหัสมาจากเทรนด์ เพื่อให้ผู้ประกอบการและนักการตลาดนำไปปรับทิศทางแบรนด์ได้ทันที กลยุทธ์ที่ 1: Sensory Marketing – เอาชนะใจด้วย “ผิวสัมผัส” และ “สีสัน” ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราคุ้นชินกับความงามแบบ “Clean Girl Aesthetic” และงานดีไซน์แบบ “Flat Design […]

read more
18.12.2025 144

Classic or Create Christmas Tree เศรษฐกิจ ธุรกิจ พฤติกรรม ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงของต้นคริสต์มาส

เศรษฐกิจ ธุรกิจ พฤติกรรม ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงของต้นคริสต์มาส แม้เทศกาลคริสต์มาสจะไม่ได้มีต้นกำเนิดที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยโดยตรง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความนิยมและอิทธิพลของเทศกาลได้แพร่กระจายไปแทบทุกมุมโลก “บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง” กลายเป็นกลิ่นอายที่พบได้ทั้งในเมืองใหญ่ ห้างสรรพสินค้า พื้นที่สาธารณะ ไปจนถึงพื้นที่ส่วนตัวอย่างบ้านและคอนโด ในบริบทของการออกแบบและตกแต่งที่อยู่อาศัย “ต้นคริสต์มาส” (หรือก็คือต้นส้น) ทำหน้าที่เป็น “พระเอก” ของงานนี้มาอย่างยาวนาน เป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนรับรู้ถึงเทศกาลได้ทันที อย่างไรก็ตาม หากมองต้นคริสต์มาสในฐานะ “องค์ประกอบการออกแบบ” มากกว่าของประดับตามฤดูกาล คำถามสำคัญคือที่ผ่านมา และในอนาคต อะไรบ้างที่จะเข้ามากำหนดหน้าตาและบทบาทของมัน? แน่นอนว่าเรามักบอกว่าเลือกเพราะ “ความสวยงาม” แต่ความจริงแล้ว การเลือกนั้นมีระบบเศรษฐกิจ สภาพสังคม และค่านิยมร่วมสมัยซ่อนอยู่เสมอ ตั้งแต่รูปแบบการอยู่อาศัยในเมือง ความคุ้มค่าและต้นทุนที่ผันผวน ตามข้อมูลขององค์การการค้าโลก (WTO) ปริมาณการค้าระหว่างประเทศโดยทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 15% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยมีแรงขับเ […]

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย
read more
05.12.2025 1,073

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย

ตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยปี 2026 กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี AI พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความคาดหวังด้านความรวดเร็วและความเป็นส่วนตัวที่สูงขึ้น ประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 65.4 ล้านคน (91% ของประชากร) และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 56.6 ล้านคน (79.1% ของประชากร) โดยค่าใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลคาดว่าจะแตะ 34.5 พันล้านบาท (+10% YoY)​ บมความนี้สรุป 10 เทรนด์หลักที่นักการตลาดไทยต้องเข้าใจและปรับตัวให้ทันในปี 2026 ตั้งแต่การใช้ AI แบบ Agentic, การตลาดผ่าน Social Commerce, ไปจนถึงความสำคัญของ Sustainability และ Omnichannel Experience โดยแต่ละเทรนด์จะมีผลกระทบโดยตรงต่อกลยุทธ์การตลาดและการลงทุนของธุรกิจไทยในปีหน้า 1. Agentic AI Marketing: จาก Generative AI สู่ AI ผู้ช่วยที่แท้จริง ปี 2026 เป็นปีที่ AI จะก้าวจากเครื่องมือสร้างคอนเทนต์ (Generative AI) ไปสู่ “Agentic AI” ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างอัตโนมัติและชาญฉลาด AI ในปี 2026 จะไม่ใช่แค่ตอบคำถามหรือสร้างภาพ แต่จะสามารถวางแผนแคมเปญ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ปรับกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ และดำเนินการตั […]

NEO Luxury Trend
read more
02.12.2025 344

NEO Luxury Trend
ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่แค่สิ่งของ
แต่คือประสบการณ์

ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่ “ของ” แต่คือ “ประสบการณ์ คุณค่า และความหมาย” โลกของ Luxury กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในปี 2025 ไม่ได้ถูกนิยามด้วยโลโก้หรือสัญลักษณ์สถานะอีกต่อไป แต่สะท้อนถึงความ เข้าใจตัวตน คุณค่าชีวิต และความตั้งใจในการเลือกบริโภค (Intentional Consumption) มากกว่าที่เคย ผู้บริโภคกลุ่ม Luxury โดยเฉพาะ Millennials และ Gen Z ไม่ได้มองความหรูในฐานะการแสดงความมั่งคั่ง แต่มองว่า Luxury คือ “คุณภาพของชีวิต” และ “ประสบการณ์ที่มีความหมาย” ที่พวกเขาเลือกลงทุนอย่างตั้งใจ ทำให้เกิดแนวคิด NEO Luxury – New Luxury Paradigm ที่ผสมผสานความยั่งยืน เทคโนโลยี ประสบการณ์เฉพาะบุคคล และหัตถศิลป์เข้าด้วยกัน บทความนี้จะพาไปสำรวจ 5 หลักการสำคัญที่กำลังกำหนดความหมายใหม่ของ Luxury ในปี 2025 1. Quiet Luxury: ความหรูหราแบบเงียบ ๆ ที่ซ่อนความเข้าใจลึกซึ้งในคุณภาพ Quiet Luxury กลายเป็นตัวแทนของความหรูยุคนี้อย่างแท้จริง เพราะผู้บริโภคไม่ได้ต้องการประกาศความร่ำรวย แต่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง ใช้งานได้นาน และบ่งบอกตัวตนกับคนที่ “เข้าใจจริง” ลักษณะเด่นของ Quiet Luxury คุณภาพเหนือปริมาณ: เลือกสินค้าชิ้นสำคัญแทนกา […]

read more
19.11.2025 768

ความมืดเริ่มเป็นความงามใหม่

สำรวจ ‘ความมืด’ ในฐานะเฉดใหม่ของการออกแบบโลกประสบการณ์ ในอดีต “ความมืด” มักถูกผูกกับภาพของความกลัว, ภัยอันตราย หรือสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ในยุคที่ผู้คนเริ่มโหยหาความสงบ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ และประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน “ความมืด” กำลังถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นทรัพยากรทางวัฒนธรรมและทางธุรกิจที่ทรงพลัง กรอบคิดว่าด้วยการใช้ความมืดเป็นแกนกลางในการออกแบบประสบการณ์และรูปแบบธุรกิจ (Dark Experience) Dark Experience คือแนวคิดของธุรกิจที่ใช้ “ความมืด” เป็นหัวใจของการออกแบบประสบการณ์ ไม่ใช่เพื่อทำให้ผู้คนหวาดกลัว แต่เพื่อ “มองเห็น” สิ่งที่สำคัญกว่าเดิม ทั้งตัวเอง ธรรมชาติ และเรื่องราวที่เคยถูกกลบอยู่ในเงามืดของสังคม สาระสำคัญของ Dark Experience Business คือการใช้ความมืดเป็น “เครื่องมือในการออกแบบประสบการณ์” แทนที่จะใช้แสงและสิ่งเร้าเข้มข้นแบบที่ธุรกิจยุคก่อนมักใช้ดึงความสนใจผู้บริโภค สังคมปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหา Overstimulation อย่างหนัก ทั้งจากแสงไฟ เมือง 24 ชั่วโมง และหน้าจอที่อยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา ทำให้สมองแทบไม่เคยได้พักจากการประมวลผล สิ่งต่างๆ เหล่านี้สะสมเป็นความล้าโดยไม่รู้ตัว […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง