Baramizi Lab logo

ตัวชี้วัดแบรนด์ยุคใหม่: เปิดผล Thailand Brand Superfans Index 2024 ครอบคลุม 30 อุตสาหกรรมไทย

ตัวชี้วัดแบรนด์ยุคใหม่: เปิดผล Thailand Brand Superfans Index 2024 ครอบคลุม 30 อุตสาหกรรมไทย

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน
กลับมาอีกครั้งกับซีรีย์ Future Brand Evaluation ที่ครั้งนี้เราจะมาเจาะลึกกับข้อมูลผลวิจัยด้านตัวชี้วัดแบรนด์แห่งยุคสมัย Brand Superfans Index ของอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทยครั้งล่าสุดที่สามารถใช้เป็น Benchmark ของการกำหนดตัวชี้วัดการสร้างแบรนด์ของแบรนด์คุณได้กันค่ะ

ตัวชี้วัดการสร้างแบรนด์ยุคใหม่คืออะไร?

Brand Superfans Index ชื่อนี้หลายคนที่ติดตามคอนเทนต์ความรู้ของ Baramizi Group น่าจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดีนะคะ

Brand Superfans Index คือตัวชี้วัดการสร้างแบรนด์ยุคใหม่ที่วิจัยโดย รศ.ดร.ณัฐพล อัสสะรัตน์ ประธานหลักสูตรบริหารธุรกิจและอาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับทีมที่ปรึกษาและทีมงานวิจัยจาก Baramizi Lab

เผยแพร่ในหนังสือ สร้างมูลค่าแบรนด์สู่โลกอนาคต Brand Future Valuation ด้วยเครื่องมือ BFV Model โดย รศ.ดร.ณัฐพล อัสสะรัตน์ และ Baramizi Group

โดยในการวัดค่า Brand Superfans Index จะเกิดจากการใช้แบบประเมินวัดระดับด้านทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มตัวอย่างมีต่อแบรนด์ที่พวกเขาใช้งานเป็นประจำเพื่อประเมินระดับความเป็นสาวกของแบรนด์ โดยความเป็นสาวกของแบรนด์หรือ Superfans สามารถนิยามได้ดังนี้ 

Superfans คือใคร และสำคัญต่อแบรนด์อย่างไร

Superfans คือ กลุ่มคนที่มีพฤติกรรมและความคิดที่แสดงถึงความรักแบรนด์อย่างแรงกล้าในทั้ง 4 มิติ ได้แก่

  1. เชื่อมั่นศรัทธา (Brand Faith Index)
  2. อยากสนับสนุนซื้อและติดตามแบรนด์เสมอ (Brand Supporter Index)
  3. แนะนำบอกต่อเผยแพร่ชื่อเสียงดีๆ ให้กับแบรนด์ (Net Promoter Score: NPS)
  4. พร้อมที่จะปกป้องให้กับแบรนด์ (Brand Guardian Index)

Superfans Index 4 ตัวชี้วัดย่อยของ Superfans

ประโยชน์ของ Superfans ต่อธุรกิจ

จากนิยามดังกล่าว ทุกคนน่าจะเห็นภาพตามได้ว่า ยิ่งแบรนด์หนึ่งแบรนด์มีคนที่เป็น Superfans มากเท่าไร ก็จะยิ่งสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อธุรกิจมากเท่านั้น

เพราะนอกจากพวกเขาจะเป็นลูกค้าที่ภักดีและให้การสนับสนุนแบรนด์ของเราอย่างต่อเนื่องแล้ว พวกเขายังทำหน้าที่กระจายเสียงบอกต่อเรื่องราวดีๆ และเชื้อเชิญให้คนอื่นๆ ตามมาเป็นลูกค้าของเรา

แถมยัง คอยแก้ต่างให้กับแบรนด์ของเราเวลาที่ใครมาว่าร้ายอีกด้วย ซึ่งใน 2 คุณสมบัติหลังนี้ มีบทบาทต่อการสร้างการเติบโตอย่างมากในยุคสมัยที่เราทุกคนมีหลายตัวตนอยู่ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน

Superfans จึงเหมือนเป็น เครื่องการันตีความสำเร็จในอนาคต เป็น Key Result สำคัญ ของความสำเร็จด้านยอดขายและกำไรที่จะตามมานั่นเอง

ประสบการณ์ที่สร้าง Superfans: Brand Experience Model

งานวิจัยของเราชี้ให้เห็นว่า Superfans เกิดขึ้นจากการได้รับประสบการณ์ด้านสินค้า บริการ การส่งมอบบรรยากาศ และการสื่อสารที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง (Power of Design) จนนำไปสู่การรับรู้คุณค่าที่เป็นคุณค่าที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น (Customer Value: Life Changing Value) เมื่อสัมผัสเรื่องราวดีๆ ของแบรนด์อย่างต่อเนื่องจนเกิดความเข้าใจในสาส์นที่แบรนด์อยากส่งมอบ แล้วสาส์นนั้นเป็นสิ่งที่ตรงใจมากกลุ่มเป้าหมายจะรู้สึกผูกพัน ใกล้ชิด รู้สึกเหมือนว่าแบนด์เป็นคนเป็นเพื่อนของพวกเขา และเมื่อแบรนด์กลายเป็นคนได้พวกเขาก็จะสามารถรู้สึกชื่นชมและหลงรักแบรนด์ได้นั่นเอง

Brand Experience Model

จากผลการศึกษามาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 8 ปีนี้จึงทำให้เราสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า Superfans ส่งผลต่อความสำเร็จและ Superfans นั้นสร้างได้บริหารจัดการได้นั่นเองค่ะ

ทีนี้ Brand Superfans Index ล่ะวัดยังไง

วิธีการวัดผล: Brand Superfans Index

Brand Superfans Index คืออัตราส่วนของคนที่เข้าเงื่อนไขความเป็น Superfans ของแบรนด์ต่อลูกค้าที่ซื้อ/ใช้บริการแบรนด์บ่อยที่สุดนั่นเอง

ข้อมูลค่าเฉลี่ย Brand Superfans Index ของแต่ละอุตสาหกรรมในบริบทประเทศไทย

ครั้งแรกกับงานศึกษาวิจัยตัวชี้วัด Brand Superfans Index ที่ใหญ่และครับอุตสาหกรรมมากที่สุดของประเทศไทย โดยความร่วมมือระหว่างภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ Baramizi Group

Sample Size Thailand Brand Superfans 2024

Profile Brand Thailand Superfans 2024

Superfans Index ในแต่ละอุตสาหกรรม

Brand Superfans Index Benchmark

Category 1: ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ (Body Wash)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย (เงื่อนไขคือ มีจำนวนผู้ใช้เป็นประจำไม่น้อยกว่า 50 ตัวอย่าง) จำนวน 5 แบรนด์ ได้แก่ Dettol, Shokubutsu, Lux, Protex และ Parrot
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 50%, Min. = 37.4%, Average = 42.2%

Category 2: ผลิตภัณฑ์นม (Dairy Product)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ Meiji, ThaiDenmark, Foremost และ Dutch Milk
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 46.4%, Min. = 34.2%, Average = 40.9%

Category 3: คอมพิวเตอร์ (Laptop/Notebook)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 6 แบรนด์ ได้แก่ Apple Macintosh, HP, Dell, Acer, levono และ Sumsung
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 57.7%, Min. = 27.7%, Average = 40.4% 

Category 4: รถยนต์ (Passenger Car)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 5 แบรนด์ ได้แก่ Toyota Corolla, Toyota Vios, Honda City, Honda Jazz และ Toyota Yaris
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 43.5%, Min. = 15.4%, Average = 39.4%

Category 5: รถกระบะ (Commercial Vehicle)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ Mitsubishi, Isuzu DMax, Toyota Hilux Vigo/Revo, และ Ford Ranger
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 44.2%, Min. = 37.4%, Average = 39.1%

Brand Superfans Index Benchmark

Category 6: บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (Instant Noodle)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 5 แบรนด์ ได้แก่ Mama, Waiwai, Nissin, Yumyum และ Quick
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 45.6%, Min. = 33.9%, Average = 39.1%

Category 7: กาแฟสำเร็จรูป (Coffee)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ Nescafe, Moccona, เขาช่อง และ Birdy
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 44.7%, Min. = 20.2%, Average = 38.4%

Category 8: แอปพลิเคชันส่งอาหาร (Food Delivery Platform)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 3 แบรนด์ ได้แก่ Line Man, Grab Food และ Food Panda
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 39.7%, Min. = 31.9%, Average = 37.9%

Category 9: โทรศัพท์มือถือ (Mobile Phone)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ iPhone, Samsung, OPPO และ Nokia
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 45.9%, Min. = 23.4%, Average = 37.6%

Category 10: เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (Functional Drink)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ MANSOME, ยันฮี, SAPPE และ C-vitt
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 42.6%, Min. = 35.2%, Average = 37.4%

Brand Superfans Index Benchmark

Category 11: คาเฟ่/ ร้านกาแฟ (Coffee Shop)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 3 แบรนด์ ได้แก่ สตาร์บัคส์, คาเฟ่ อเมซอน และ อินทนิล
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 39.7%, Min. = 30.7%, Average = 37.2%

Category 12: ขนมขบเคี้ยว (Snacks)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 3 แบรนด์ ได้แก่ Lay’s, Tasto และ Hanami
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 37%, Min. = 31.5%, Average = 36.6%

Category 13: ผลิตภัณฑ์ผงซักฟอก (Fabric Wash)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 3 แบรนด์ ได้แก่ Attack, Breeze และ Omo
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 40.8%, Min. = 30.6%, Average = 36.6%

Category 14: ผงปรุงรส (Seasoning)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 3 แบรนด์ ได้แก่ Attack, Breeze และ Omo
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 40.8%, Min. = 30.6%, Average = 36.5%

Category 15: บริษัทขนส่ง (Logistics)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ ไปรษณีย์ไทย, Kerry Express, Flash Express และ J&T
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 42.1%, Min. = 28.3%, Average = 36.4%

Brand Superfans Index Benchmark

Category 16: ร้านอาหารที่มีสาขา (Chain Restaurants)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 3 แบรนด์ ได้แก่ McDonald, MK และ KFC
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 45.7%, Min. = 35.2%, Average = 36.1%

Category 17: ธนาคาร (Bank)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 5 แบรนด์ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารออมสิน
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 42.1%, Min. = 28.3%, Average = 35.9%

Category 18: สื่อสังคมออนไลน์ (Social Network)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ Line, Facebook, Tiktok และ Instragram
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 39.1%, Min. = 25.9%, Average = 34.7%

Category 19: ผลิตภัณฑ์บำรุงผม (Hair Care)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ Pantene, Head and Shoulders, Sunsilk และ Clear
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 42.9%, Min. = 28..8%, Average = 34.6%

Category 20: รถมอเตอร์ไซค์ (Motorcycle)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 3 แบรนด์ ได้แก่ Vespa, Yamaha และ Honda
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 37.7%, Min. = 33.5%, Average = 34.1%

Brand Superfans Index Benchmark

Category 21: ประกันชีวิต (Life Insurance)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ กรุงไทย แอกซ่า, เมืองไทยประกันชีวิต, AIA, และ ไทยประกันชีวิต
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 35.8%, Min. = 30.1%, Average = 33.9%

Category 22: แพลตฟอร์มซื้อของออนไลน์ (Online Shopping)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 2 แบรนด์ ได้แก่ Lazada และ Shopee
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 34%, Min. = 33.1%, Average = 33.8%

Category 23: ยาสีฟัน (Oral Care)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ Twinlotus, Darlie, Colgate และ Salz
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 40.8%, Min. = 30.8%, Average = 33.5%

Category 24: อสังหาริมทรัพย์ (ลูกบ้าน) (Property : Residents)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 5 แบรนด์ ได้แก่ แสนสิริ, ศุภาลัย, เอพีไทยแลนด์, พฤกษา เรียลเอสเตท และ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 41.6%, Min. = 22%, Average = 32.4%

Category 25: อสังหาริมทรัพย์ (คนกำลังมองหาบ้าน) (Property: Prospects)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 10 แบรนด์ ได้แก่ เอพีไทยแลนด์, แสนสิริ,  แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, พฤกษา เรียลเอสเตท, อนันดา, แอล.พี.เอ็น, เอส ซี แอซเซ็ต, พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟ็คท์ และ คิวเฮ้าส์
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 35.55%, Min. = 25.71%, Average = 30.09%

Brand Superfans Index Benchmark

Category 26: น้ำผลไม้ (Juice)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ Tipco, Unif, Malee และ ดอยคำ
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 39.2%, Min. = 23.1%, Average = 31.5%

Category 27: อาหารกระป๋อง (Canned Food)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 3 แบรนด์ ได้แก่ Roza, สามแม่ครัว และ ปุ้มปุ้ย ปลายิ้ม
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 35.3%, Min. = 30.6%, Average = 31.5%

Category 28: ประกันภัยรถยนต์ (Car Insurance)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ สินมั่นคง, วิริยะประกันภัย, เมืองไทย ประกันภัย และ กรุงเทพประกันภัย
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 37%, Min. = 27.6%, Average = 31.3%

Category 29: เครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drink)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ Red Bull, Carabao Dang, M150 และ LiPo
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 46.1%, Min. = 23.7%, Average = 31.3%

Category 30: ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า (Facial & Skin Care)

  • มีแบรนด์ปรากฏในงานวิจัย จำนวน 4 แบรนด์ ได้แก่ นีเวีย, การ์นิเย่, ซิตร้า และ วาสลีน
  • Brand Superfans Index Benchmark: Max. = 34.1%, Min. = 26.5%, Average = 31.1%

โดยค่าเฉลี่ยรวมของทุกแบรนด์จากทุกอุตสาหกรรมคือ 33.92%

บทสรุป

ผลสำรวจอย่างเป็นทางการครั้งแรกนี้ ได้สร้าง Benchmark ให้กับนักสร้างสรรค์แบรนด์ทุกคน สามารถใช้เป็น Baseline หรือตัวชี้วัดของตัวเอง ในแต่ละปีได้

เมื่อดำเนินการ วัดผลแบรนด์ตัวเองในปีแรกแล้วเสร็จ การกำหนด KPI ในปีถัดไป ส่วนหนึ่งคือการ เทียบอุตสาหกรรม และอีกส่วนคือการ พยายามสร้างการเติบโตให้ตัวเอง โดยกำหนดให้ตัวเลขมีความก้าวหน้าขึ้นไปกว่าที่เคยบรรลุได้นั่นเอง

สนใจรายละเอียดงานวิจัย Thailand Brand Superfans Index 2024 หรือต้องการใช้ SuperfansIndex.com เพื่อวัดแฟนคลับแบรนด์คุณ ติดต่อคุณไนซ์ที่ 094-528-3047

บทความโดย : ปรมา ทิพย์ธนทรัพย์ (Baramizi Lab Director)


บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

RECOMMEND

สรุป Pinterest Predicts 2026
read more
19.12.2025 14

เจาะลึก Pinterest Predicts 2026: ถอดรหัส 4 กลยุทธ์ธุรกิจ เปลี่ยน “เทรนด์” ให้เป็น “ยอดขาย”

ในโลกธุรกิจที่หมุนเร็ว การรู้เทรนด์ก่อนคู่แข่งเพียงก้าวเดียว อาจหมายถึงส่วนแบ่งการตลาดมหาศาล ล่าสุด Pinterest แพลตฟอร์มที่เปรียบเสมือน “ลูกแก้วพยากรณ์” ของโลกการตลาด ได้ปล่อยรายงาน Pinterest Predicts สำหรับปี 2026 ออกมาแล้ว ความน่าสนใจของรายงานนี้คือ Pinterest ไม่ได้วิเคราะห์จากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่วิเคราะห์จาก “Search Intent” (เจตนาการค้นหา) ของผู้ใช้งานกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความต้องการซื้อที่จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เราพบว่าปี 2026 จะไม่ใช่ปีแห่งความ “เรียบง่าย” หรือ “มินิมอล” อีกต่อไป แต่มันคือปีแห่งการแสดงออก (Expression), สัมผัส (Sensory), และการผสมผสาน (Hybrid) นี่คือ 4 กลยุทธ์ทางธุรกิจ ที่เราถอดรหัสมาจากเทรนด์ เพื่อให้ผู้ประกอบการและนักการตลาดนำไปปรับทิศทางแบรนด์ได้ทันที กลยุทธ์ที่ 1: Sensory Marketing – เอาชนะใจด้วย “ผิวสัมผัส” และ “สีสัน” ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราคุ้นชินกับความงามแบบ “Clean Girl Aesthetic” และงานดีไซน์แบบ “Flat Design […]

read more
18.12.2025 178

Classic or Create Christmas Tree เศรษฐกิจ ธุรกิจ พฤติกรรม ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงของต้นคริสต์มาส

เศรษฐกิจ ธุรกิจ พฤติกรรม ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงของต้นคริสต์มาส แม้เทศกาลคริสต์มาสจะไม่ได้มีต้นกำเนิดที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยโดยตรง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความนิยมและอิทธิพลของเทศกาลได้แพร่กระจายไปแทบทุกมุมโลก “บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง” กลายเป็นกลิ่นอายที่พบได้ทั้งในเมืองใหญ่ ห้างสรรพสินค้า พื้นที่สาธารณะ ไปจนถึงพื้นที่ส่วนตัวอย่างบ้านและคอนโด ในบริบทของการออกแบบและตกแต่งที่อยู่อาศัย “ต้นคริสต์มาส” (หรือก็คือต้นส้น) ทำหน้าที่เป็น “พระเอก” ของงานนี้มาอย่างยาวนาน เป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนรับรู้ถึงเทศกาลได้ทันที อย่างไรก็ตาม หากมองต้นคริสต์มาสในฐานะ “องค์ประกอบการออกแบบ” มากกว่าของประดับตามฤดูกาล คำถามสำคัญคือที่ผ่านมา และในอนาคต อะไรบ้างที่จะเข้ามากำหนดหน้าตาและบทบาทของมัน? แน่นอนว่าเรามักบอกว่าเลือกเพราะ “ความสวยงาม” แต่ความจริงแล้ว การเลือกนั้นมีระบบเศรษฐกิจ สภาพสังคม และค่านิยมร่วมสมัยซ่อนอยู่เสมอ ตั้งแต่รูปแบบการอยู่อาศัยในเมือง ความคุ้มค่าและต้นทุนที่ผันผวน ตามข้อมูลขององค์การการค้าโลก (WTO) ปริมาณการค้าระหว่างประเทศโดยทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 15% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยมีแรงขับเ […]

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย
read more
05.12.2025 1,113

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย

ตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยปี 2026 กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี AI พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความคาดหวังด้านความรวดเร็วและความเป็นส่วนตัวที่สูงขึ้น ประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 65.4 ล้านคน (91% ของประชากร) และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 56.6 ล้านคน (79.1% ของประชากร) โดยค่าใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลคาดว่าจะแตะ 34.5 พันล้านบาท (+10% YoY)​ บมความนี้สรุป 10 เทรนด์หลักที่นักการตลาดไทยต้องเข้าใจและปรับตัวให้ทันในปี 2026 ตั้งแต่การใช้ AI แบบ Agentic, การตลาดผ่าน Social Commerce, ไปจนถึงความสำคัญของ Sustainability และ Omnichannel Experience โดยแต่ละเทรนด์จะมีผลกระทบโดยตรงต่อกลยุทธ์การตลาดและการลงทุนของธุรกิจไทยในปีหน้า 1. Agentic AI Marketing: จาก Generative AI สู่ AI ผู้ช่วยที่แท้จริง ปี 2026 เป็นปีที่ AI จะก้าวจากเครื่องมือสร้างคอนเทนต์ (Generative AI) ไปสู่ “Agentic AI” ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างอัตโนมัติและชาญฉลาด AI ในปี 2026 จะไม่ใช่แค่ตอบคำถามหรือสร้างภาพ แต่จะสามารถวางแผนแคมเปญ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ปรับกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ และดำเนินการตั […]

NEO Luxury Trend
read more
02.12.2025 348

NEO Luxury Trend
ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่แค่สิ่งของ
แต่คือประสบการณ์

ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่ “ของ” แต่คือ “ประสบการณ์ คุณค่า และความหมาย” โลกของ Luxury กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในปี 2025 ไม่ได้ถูกนิยามด้วยโลโก้หรือสัญลักษณ์สถานะอีกต่อไป แต่สะท้อนถึงความ เข้าใจตัวตน คุณค่าชีวิต และความตั้งใจในการเลือกบริโภค (Intentional Consumption) มากกว่าที่เคย ผู้บริโภคกลุ่ม Luxury โดยเฉพาะ Millennials และ Gen Z ไม่ได้มองความหรูในฐานะการแสดงความมั่งคั่ง แต่มองว่า Luxury คือ “คุณภาพของชีวิต” และ “ประสบการณ์ที่มีความหมาย” ที่พวกเขาเลือกลงทุนอย่างตั้งใจ ทำให้เกิดแนวคิด NEO Luxury – New Luxury Paradigm ที่ผสมผสานความยั่งยืน เทคโนโลยี ประสบการณ์เฉพาะบุคคล และหัตถศิลป์เข้าด้วยกัน บทความนี้จะพาไปสำรวจ 5 หลักการสำคัญที่กำลังกำหนดความหมายใหม่ของ Luxury ในปี 2025 1. Quiet Luxury: ความหรูหราแบบเงียบ ๆ ที่ซ่อนความเข้าใจลึกซึ้งในคุณภาพ Quiet Luxury กลายเป็นตัวแทนของความหรูยุคนี้อย่างแท้จริง เพราะผู้บริโภคไม่ได้ต้องการประกาศความร่ำรวย แต่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง ใช้งานได้นาน และบ่งบอกตัวตนกับคนที่ “เข้าใจจริง” ลักษณะเด่นของ Quiet Luxury คุณภาพเหนือปริมาณ: เลือกสินค้าชิ้นสำคัญแทนกา […]

read more
19.11.2025 769

ความมืดเริ่มเป็นความงามใหม่

สำรวจ ‘ความมืด’ ในฐานะเฉดใหม่ของการออกแบบโลกประสบการณ์ ในอดีต “ความมืด” มักถูกผูกกับภาพของความกลัว, ภัยอันตราย หรือสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ในยุคที่ผู้คนเริ่มโหยหาความสงบ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ และประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน “ความมืด” กำลังถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นทรัพยากรทางวัฒนธรรมและทางธุรกิจที่ทรงพลัง กรอบคิดว่าด้วยการใช้ความมืดเป็นแกนกลางในการออกแบบประสบการณ์และรูปแบบธุรกิจ (Dark Experience) Dark Experience คือแนวคิดของธุรกิจที่ใช้ “ความมืด” เป็นหัวใจของการออกแบบประสบการณ์ ไม่ใช่เพื่อทำให้ผู้คนหวาดกลัว แต่เพื่อ “มองเห็น” สิ่งที่สำคัญกว่าเดิม ทั้งตัวเอง ธรรมชาติ และเรื่องราวที่เคยถูกกลบอยู่ในเงามืดของสังคม สาระสำคัญของ Dark Experience Business คือการใช้ความมืดเป็น “เครื่องมือในการออกแบบประสบการณ์” แทนที่จะใช้แสงและสิ่งเร้าเข้มข้นแบบที่ธุรกิจยุคก่อนมักใช้ดึงความสนใจผู้บริโภค สังคมปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหา Overstimulation อย่างหนัก ทั้งจากแสงไฟ เมือง 24 ชั่วโมง และหน้าจอที่อยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา ทำให้สมองแทบไม่เคยได้พักจากการประมวลผล สิ่งต่างๆ เหล่านี้สะสมเป็นความล้าโดยไม่รู้ตัว […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง