Brand Future Scenario เครื่องมือพิฆาตความในใจของลูกค้าที่ได้ผลชะงัด
ฉากทัศน์อนาคต หรือ Brand Future Scenario คือเครื่องมือ Magic ของกระบวนการวิจัยที่จะช่วยไขความลับความในใจของลูกค้าเป้าหมาย
ในระหว่างการบริหารธุรกิจ บริหารกลยุทธ์การตลาด ใครเคยรู้สึกติดๆ รู้สึกอยากได้เครื่องมือที่ล้วงเข้าไปในหัวใจของลูกค้าเป้าหมาย อยากสอบถามพวกเขาจังเลยว่าทำไมถึงทำพฤติกรรมอย่างนี้ไม่ทำอีกแบบนึง แล้วถ้าเราจะเสนออะไรใหม่ๆ จะให้เสนออะไรดีถึงจะหันกลับมาสนใจ
ยิ่งคิดก็ยิ่งคันหัวใจ ใครจะมาหาคำตอบให้ได้กันนะ แล้วจะหายังไงถึงจะล้วงเข้าไปถึงความในใจลึกๆ ของพวกเขาได้ วันนี้เราจะมาเฉลยหนึ่งในเครื่องมือพิฆาตสำหรับล้วงลึกความในใจของลูกค้าที่ชื่อว่า Brand Future Scenario กันค่ะ
ต่อเนื่องจากบทความฉบับที่แล้ว ที่ได้เล่าสู่กันฟังถึงกระบวนการวิจัยที่เรียกว่า Future Lab Research Methodology ซึ่งเป็นกระบวนการวิจัยที่เน้นการค้นหา “Unmet Needs” หรือความต้องการที่ซ่อนเร้น ความในใจของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งหนึ่งในหัวใจสำคัญคือ การเข้าใจและมีสมมติฐานของปัญหา และมองเห็นโอกาสในการเสนอทางออกที่เป็นไปได้หลายๆ ทาง เจ้าเนื้องานของการมองเห็นโอกาสในการเสนอทางออกที่เป็นไปได้หลายๆ ทางนี่แหละ เราเรียกขั้นตอนนี้ว่า Brand Future Scenario Creation (ขั้นตอนการสร้างสรรค์ฉากทัศน์แห่งอนาคตของแบรนด์
ภาพ Future Lab Research Methodology
อ่านบทความ Future Lab Research: ถอดรหัสความในใจลูกค้า เพื่อธุรกิจที่ชนะในอนาคต
Brand Future Scenario คือ
ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้ในอนาคตของแบรนด์ หรือคือ ไอเดียแก้ปัญหาที่น่าสนใจ ที่เราอยากได้ทดลองขายกับกลุ่มตัวอย่าง
ฉากทัศน์อนาคต เป็นได้มากกว่าแค่คอนเซปต์ของแบรนด์ ขึ้นอยู่กับโจทย์งานวิจัยที่เรากำลังค้นหา เช่น
ถ้าเราค้นหากลยุทธ์ Brand Transformation → ฉากทัศน์ก็ต้องเป็น ตัวตนของแบรนด์ในอนาคต
ถ้าเราค้นหา New Product Development → ฉากทัศน์ก็จะต้องเป็น เรื่องราวไอเดียของสินค้าใหม่
หรือถ้าเป็นการพัฒนา…
Service Design
Digital Platform
Retail Experience
Marketing Campaign
อยากจะค้นหาคำตอบเรื่องอะไร เราก็ต้องสร้าง ฉากทัศน์แห่งอนาคตของเรื่องนั้น ค่ะ
เดี๋ยวนี้ธุรกิจบางรายก็ใช้วิธีการนี้กับโจทย์ของการหา New Revenue Model และ New Innovation
การหาวิธีการเอา Innovation ใหม่เข้าตลาด ก็เป็นโจทย์ที่มีมาให้ท้าทายพวกเราอยู่เรื่อยเหมือนกันนะคะ
แล้วฉากทัศน์นี้หน้าตาเป็นยังไง?
ฉากทัศน์อนาคต มาในรูปแบบของ Core Idea ที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมาว่า น่าจะเป็น Solution ในเรื่องนั้นๆ
ในอนาคตที่น่าสนใจและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย
เมื่อคิดตรงนี้ได้อย่างพอใจและมั่นใจแล้ว
ไอเดียเหล่านั้น จึงจะถูกแปรสภาพเป็น เครื่องมือวิจัย Future Lab Research Tools
ที่มีรูปแบบที่หลากหลาย เลือกใช้ได้แบบไม่จำกัด โดยยึด โจทย์ และยึด คาแรกเตอร์ของกลุ่มเป้าหมาย เป็นศูนย์กลาง
Brand Future Scenario ที่ออกมาในรูปแบบ Research Tools มีหน้าตาอย่างไรบ้าง?
ตัวไฮไลท์สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยจะมี 2 ตัวค่ะ คือ
[1] Collage Map
คลังภาพที่ซ่อนไอเดีย New Solution ที่เราอยากจะทดสอบเอาไว้ ให้กลุ่มเป้าหมาย Shopping สร้างสรรค์เป็น Ideal Brand หรือ แบรนด์ในอุดมคติของพวกเขา
ภาพตัวอย่าง Collage Map
[2] Brand Future Scenario Storyboard
บอร์ดภาพประกอบคำอธิบายแนวคิดที่เราอยากจะขายไอเดีย
ภาพตัวอย่าง Brand Future Scenario Storyboard
2 ตัวนี้ประกบคู่กัน จะทำให้ได้ทั้ง ไอเดียเปิดกว้าง และ ข้อมูลปลายปิด เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ เติมคำในช่องว่างด้วยตัวเอง และ เลือกอย่างชัดเจน ทำให้เราตีความผลได้กระจ่างชัดมากยิ่งขึ้นค่ะ
และยังมีเครื่องมือวิจัยอีกมากมาย เช่น…
Model Box ใช้สร้างบ้านในอุดมคติ (กรณีศึกษา: ที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต)
A-B Test เพื่อตัดตัวเลือกและหาน้ำหนักของความสนใจ
VDO Present เพื่อเล่าเรื่องราวให้จับต้องได้
การจะเลือกใช้เครื่องมืออะไรดีนั้น
นักวิจัยจะมอง วัตถุประสงค์ และ ผลลัพธ์ที่ต้องการ เป็นตัวตั้ง
และออกแบบวิธีการที่จะได้มาซึ่งคำตอบเหล่านั้นอีกที
หลายครั้งก็อาจจะได้เครื่องมือแนวคิดใหม่ขึ้นมา เพราะมันเหมาะสมกับโจทย์และกลุ่มเป้าหมายมากกว่า
เราพอใจที่จะเปิดกว้างให้ทีมวิจัยได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์ และอินไปกับกลุ่มเป้าหมายของพวกเขากันค่ะ
เครื่องมือ Brand Future Scenario Storyboard ประกอบด้วยอะไรบ้าง?
องค์ประกอบสำคัญของมันคือ:
ชื่อของแนวคิด
Caption บรรยายคุณลักษณะของแนวคิดนั้น
Keywords กำกับ Mood and Tone (Optional)
Execution Idea ที่ถ่ายทอดแนวคิดลงไปยังประสบการณ์ของแบรนด์ เช่น
ประสบการณ์ด้านสินค้า
ประสบการณ์ด้านการบริการ
ประสบการณ์ด้านบรรยากาศ
ประสบการณ์ด้านการสื่อสาร
เท่านี้เป็นอันครบถ้วน ที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการ เจาะ Insight ล้วงความในใจลูกค้า ได้แล้ว
💡 Tips: ต้องตรวจสอบน้ำหนักให้ชัดว่า “ไม่มีฉากทัศน์ไหนมีน้ำหนักมากกว่าอีกอัน” ไม่อย่างนั้นจะสร้าง Bias ให้กับผลลัพธ์โดยไม่รู้ตัวค่ะ
ต่อไปนี้เราจะมาชวนทุกคนร่วมมีส่วนร่วมกับการเลือกฉากทัศน์อนาคตของ Ideal Brand ที่จะทำให้คุณสนใจได้มากที่สุดกันร่วมกันนะคะ รอติดตามคอนเทนต์ชุด Brand Future Scenario Tools ได้เลย!
ทำไมต้อง Brand Future Scenario Tools?
เพราะ…
ลูกค้า เอ่ยสิ่งที่ตัวเองไม่เคยเห็นไม่ได้
และ ไม่ใช่หน้าที่ของพวกเขาที่จะคิดอะไรใหม่ๆ
ดังนั้น ถ้าเราไปถามพวกเขาตรงๆ ว่าอยากได้อะไร เราก็หวังอะไรใหม่ๆ จากพวกเขาไม่ได้มากนัก
เราต้อง ตั้งหลักให้แน่ใจว่า… มันเป็นหน้าที่ของฝั่งเรา ฝั่งนักคิด นักสร้าง นักพัฒนา ที่จะรังสรรค์อะไรใหม่ๆ ออกมา เพื่อผลักดันการใช้ชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้นและก้าวไปข้างหน้าเสมอ
เพราะธุรกิจยุคใหม่ ต้องมี Core Competency
คือ การสามารถประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมได้ด้วยตัวเราเอง หมดยุคที่เราจะเพียง ซื้อมาขายไป หรือ ขายแต่ของที่เหมือนคนอื่น แม้จะขายของแบบเดียวกัน แต่ก็ต้อง ขายให้มีนวัตกรรมมากกว่า และนวัตกรรม ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่มันคือ “วิธีแก้ปัญหาที่เวิร์ค และ commercial ได้”
ไม่ว่าแบรนด์เล็กหรือแบรนด์ใหญ่ ก็ทำได้คุณก็สามารถเป็นผู้นำเสนอนวัตกรรมใหม่เข้าสู่ตลาดเพื่อพัฒนาให้อุตสาหกรรม และชีวิตของผู้คนดียิ่งขึ้นกว่าเดิมได้เช่นกันค่ะ
ค่อยๆ เรียนรู้ไปด้วยกันนะคะการล้วงความในใจของลูกค้า ถ้าทำแบบเบื้องต้นเพื่อจุดประกายสร้างไอเดียใหม่ แบบที่ยังไม่ได้ใช้จำนวนกลุ่มตัวอย่างมากเกินไป
เจ้าของธุรกิจทุกคนก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองนะคะ
เพราะ Baramizi Lab เองก็ได้เทรนนิ่งผู้ประกอบการมากมาย ให้ได้ลงมือทำวิจัยด้วยตัวเอง และได้ผลลัพธ์ไปพัฒนาธุรกิจจริง ทุกคนทำได้แน่นอน และ ทำเถอะค่ะ เรามาเรียนรู้และร่วมลงมือทำไปด้วยกัน
#เพราะธุรกิจยุคใหม่ต้องใช้ข้อมูลทำงาน
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง