Baramizi Lab logo

CONSUMER INSIGHTS – THE FUTURE OF MARKETING

CONSUMER INSIGHTS – THE FUTURE OF MARKETING

“Consumer Insights” Wording สุดคลาสสิคที่อยู่คู่การทำการตลาดมาตลอดกาลแต่วันนี้ก็ยังพูดได้ว่า Consumer Insights คือ Future of Marketing อยู่ดีมาดูกันว่า Consumer Insights มันทำงานอย่างไร แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร

ลองมาจำลองสถานการณ์กันดูนะคะ

เรามีธุรกิจร้านอาหารมีสาขาทั่วประเทศ ธุรกิจเราไปได้เรื่อยๆ เติบโตแบบ Organic ตามจำนวนการเปิดสาขาใหม่ ในแต่ละมื้ออาหารมีลูกค้าเข้าร้านปริ่มๆ เกือบเต็มแต่ไม่เต็ม และมีช่วง Peak Time แค่สั้นๆ เป็นช่วงเวลา Main Meal ได้แก่ช่วงเที่ยง และช่วงมื้อเย็น …..ในฐานะผู้บริหารผู้ต้องชี้ทิศทางเพื่อนำพาแบรนด์สู่การเติบโต คำถาม คือ เราจะโตได้อย่างไร?

ตีโจทย์การเติบโตซิว่า…ธุรกิจร้านอาหารเราจะโตได้จากอะไร?

  1. ฐานลูกค้าเดิมยังคงเหนียวแน่น ยังคงรักเราและกินเราสม่ำเสมอ (อันนี้ยังไม่โตนะแต่ต้องเขียนกำกับไว้ไม่งั้นเผลอทิ้งเค้าโดยไม่รู้ตัว)
  2. ทำให้ลูกค้าเดิมซื้อเพิ่มในการเข้าร้านแต่ละครั้ง และทำให้ลูกค้าเดิมเข้าร้านในความถี่เพิ่มขึ้น
  3. ทำให้ลูกค้าใหม่เข้าร้านของเรา เลือกเราเพิ่มขึ้น

รับรองว่าถ้าทำได้ทั้ง 3 ข้อนี้ โตแน่นอน! จริงเสียยิ่งกว่าจริง

หลักคิดนี้จริงๆ ก็มีโมเดลรองรับนะคะคือ โมเดลที่ชื่อว่า Ansoff Matrix หรือ Product/Market Expansion Grid เราโตได้ด้วยการเพิ่มลูกค้าและการทำให้ลูกค้าเดิมซื้อเพิ่มกับการมี Product & Service ใหม่ๆ

Ansoff Matrix

อ้างอิงจาก:

Ansoff Matrix : The Product/Market Expansion Grid
เข้าถึงได้จาก: https://corporatefinanceinstitute.com/resources/management/ansoff-matrix/

จากบทวิเคราะห์โอกาสการเติบโตของร้านเรา ทุกคนจะเห็นว่ามันเป็นโอกาสที่ชัดเจนแจ่มแจ้งมากๆ คิดได้ง่ายมากๆ ที่เหลือคือแค่ว่า….เราจะทำให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ดังที่ทุกคนค่อยๆ คิดตามมาเรื่อยๆ จะเห็นชัดตรงกันว่าการเติบโตของเราขึ้นอยู่กับ “ลูกค้า” หรือ “ว่าที่ลูกค้า” ของเราตัดสินใจที่จะ “ซื้อเรา” การทำให้เค้าซื้อเรา สิ่งที่ธุรกิจทำได้คือการใช้เครื่องมือหรือกลไกทางการตลาดต่างๆ เข้าต่อสู้หว่านล้อมค่ะ

เครื่องมือทางการตลาดมีอะไรบ้าง? 

เอาแบบเบสิคและคลาสสิคที่สุดก็คือ Marketing Mix Strategy หรือที่เรารู้จักกันในนาม 4Ps Strategy หรือ 7Ps Strategy สำหรับธุรกิจบริการ เอา 4Ps เบสิคที่สุดละกันนะคะ 4Ps ประกอบด้วย

P1 – Product หรือสินค้า การพัฒนาสินค้าเดิม เพิ่มเติมสินค้าใหม่ การจัดเซ็ตสินค้า Bundle Package ฯลฯ ทำอะไรได้อีกเยอะมากไม่รู้จบเลยค่ะ

P2 – Price หรือราคา ได้แก่ การกำหนดราคาขาย กลยุทธ์ด้าน Price มีกูรูการตลาดบางท่านให้ความเห็นว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ต้นทุนน้อยที่สุดแล้วค่ะ คิดว่าจริงมั้ย…ทุกท่านลองใช้แล้วลองเทียบเคียงดูนะ

P3 – Place หรือช่องทางการขาย กลยุทธ์ด้านช่องทางการเลือกช่องทางที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของเราได้ดีที่สุด

P4 – Promotion หรือการโปรโมต แคมเปญการสื่อสาร การมีโปรโมชั่นจูงใจต่างๆ

ทุกคนจะเห็นว่า…เครื่องมือรอเราอยู่เพียบพร้อมเลยนะคะ ส่วนงบประมาณถ้าเพื่อการเติบโตที่คาดการณ์ได้เราก็ควรจะตั้งงบมารอดำเนินการได้ แต่ปัญหาสำคัญคือ เราจะทำอะไรล่ะ ถึงจะเป็นการใช้งบประมาณแล้วหวังผลได้สูงสุด ทำมันทุกๆ อย่างๆ เท่าๆ กัน หรือทำบางอย่างแบบจัดหนัก ทุ่มทุนเล่นใหญ่ไปเลยดีกว่า นี่คือสิ่งที่ผู้บริหารทุกคนต้องการคำตอบค่ะ

ลองคิดภาพต่อว่า ถ้าเรารู้ใจของ “ลูกค้า” และ “ว่าที่ลูกค้า” ของเราเป็นอย่างดีล่ะ! ถ้าเรารู้ความในใจของเค้าว่า เค้ากำลังทุกข์ใจเรื่องอะไร กำลังรู้สึกว่ามีอะไรไม่ตอบโจทย์ รู้สึกมีความคาดหวังอะไรบางอย่างที่ไม่เคยมีใครทำให้สมหวัง รู้สึกติดๆ ไม่สะดวกสบายในบางเรื่อง แล้วถ้าเรารู้ว่ามันคือสิ่งที่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้เปลี่ยนใจมาเลือกแทนที่ใช้อยู่ประจำเลย เราจะตัดสินใจหยิบเครื่องมือมาบริหารจัดการตัดสินใจลงงบและไม่ลงงบได้ง่ายขึ้นขนาดไหน

นี่แหละค่ะ คือ “Consumer Insights” จะเห็นว่ามันคือหัวใจสำคัญก้าวแรก ที่ช่วยให้ก้าวต่อๆ ไปสู่การเติบโตของธุรกิจเราเกิดขึ้นได้จริง

Consumer Insights คือ 

การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึง เหตุผลเบื้องหลัง พฤติกรรม ความคิด ความรู้สึก ความต้องการ และแรงจูงใจของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่การรู้ว่าผู้บริโภค “ทำอะไร” แต่เป็นการเจาะลึกไปถึง “ทำไม” พวกเขาจึงทำเช่นนั้น

หรือชาวบารามีซี่เราชอบเรียกสั้นๆ ว่าค้นหา “Why” Behind “What” ค่ะ

Consumer Insights ที่ดีจะต้อง:

  1. ไม่ชัดแจ้งในตอนแรก (Non-obvious): ไม่ใช่แค่ข้อมูลทั่วไปที่ใครๆ ก็รู้ แต่ต้องเป็นการค้นพบที่ลึกซึ้งขึ้น
  2.  นำไปปฏิบัติได้ (Actionable): สามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ สร้างกลยุทธ์ทางการตลาด พัฒนาสินค้าหรือบริการให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้จริง
  3. ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค (Change Consumer Behavior): ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อพฤติกรรมการซื้อหรือการใช้งานของผู้บริโภค
  4.  เกิดประโยชน์ร่วมกัน (Mutual Benefit): ไม่ใช่แค่ประโยชน์ต่อธุรกิจ แต่ต้องตอบสนองความต้องการและสร้างคุณค่าให้กับผู้บริโภคด้วย

วิธีการหา Consumer Insights ก็ต้องใช้กระบวนการวิจัยแบบ Future Lab Research Methodology ที่เป็นกระบวนการหลักของพวกเรา

ตัวอย่างกรณีศึกษาการพัฒนาธุรกิจร้านอาหาร

ทาง Baramizi ได้มีโอกาสร่วมงานด้วย เช่น แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า เมื่อช่วงปี 2012 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการ Transform Brand ของบาร์บีก้อน เราได้ร่วมกับทีมบริหารค้นพบว่า ลูกค้าปัจจุบันของแบรนด์รักแบรนด์เพราะประสบการณ์มื้ออาหารของบาร์บีคิวพลาซ่าสนุกและอบอุ่นที่สุดและทำให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน

สิ่งนี้เป็นโจทย์ที่ผู้บริหารและทีมการตลาดต้องคิดต่อว่าจะไม่ทำเรื่องที่ทำให้คุณค่านี้หายไป และจะขยายผลคุณค่าและความรู้สึกนี้ให้ว่าที่ลูกค้าคนอื่นๆ รับรู้ด้วยได้อย่างไร

และเราก็ค้นพบว่า “ว่าที่ลูกค้า” คนที่ชอบกินปิ้งย่างที่ยังไม่เลือกรับประทานร้านบาร์บีคิวพลาซ่า เป็นเพราะพวกเขารู้สึกว่าแบรนด์มีเนื้อหมูที่ไม่ได้มีคุณภาพสูง แบรนด์มีความไม่จริงใจจงใจเสิร์ฟเนื้อหมูที่มีผักรองอยู่ข้างใต้เพราะอยากให้หมูดูเยอะกว่าความเป็นจริง ไม่ใส่ใจในการกำจัดควันหรือกลิ่น และที่สำคัญคือร้านนี้ราคาต้องแพงแน่ๆ โอ้ววว..วว ถ้าคุณเป็นผู้บริหารแบรนด์ ความในใจเหล่านี้ดูเป็นข้อหาที่ร้ายแรงมากเลย ว่ามั้ยคะ 😅😅 มันไม่เป็นความจริงเลย เพียงแต่ลูกค้าไม่อาจรู้ความจริงที่แท้จริงได้ พวกเขาแค่ตีความจาก Touchpoint ต่างๆ ที่พวกเขามองเห็นและได้สัมผัสซึ่งหลายครั้งแบรนด์ไม่ได้ตั้งใจจะส่งสาส์นแบบนั้น เพียงแค่เรารู้ไม่มากพอว่าประสบการณ์ต่างๆ ที่เราปล่อยออกไปจะมีพลังในการสื่อสารมากขนาดนั้น….เนื้อหมูคุณภาพแต่อยู่บนจานเมลามีนสีชมพูเก่าๆ การไม่มีฮู้ดดูดควันที่ดึงลงมาที่โต๊ะได้ (แต่มีบนฝ้าเพดานนะ) การจัดจานให้สวยงามใช้ผักกะหล่ำปลีฝอยเป็นส่วนประกอบคู่กับเนื้อหมูเพื่อให้เกิดสีสันน่ารับประทานและหวังดีอยากให้ทานคู่กันเพื่อสุขภาพที่ดี และการไม่มีโมเดลบุฟเฟ่ต์เพียงเพราะอยากรักษาจิตวิญญาณดั้งเดิมที่เป็นต้นตำรับ แต่มันดี…ที่เราได้รู้จริงมั้ยคะ ถ้าไม่รู้บาร์บีก้อนก็คงไม่มีวันนี้

จาก Consumer Insights ในวันนั้นบาร์บีคิวพลาซ่าดำเนินการพัฒนาสินค้า (Product) ประสบการณ์การจัดจานอุปกรณ์การรับประทานบนโต๊ะทั้งหมด และเสิร์ฟกะหล่ำปลีฟรี พัฒนาต้นแบบร้านใหม่ (Place) เพิ่มโซนที่นั่งแบบ Round Booth ที่ช่วยตอกย้ำคุณค่าความเป็น The Most Enjoyable Meal  การพัฒนาฮู้ดดูดควันที่ตั้งเป็นเสาขึ้นมาจากโต๊ะแทนที่จะดึงลงมาจากฝ้าเพดานแล้วบังหน้าขัดประสบการณ์การกินที่แสนจะอบอุ่น การออกโปรโมชั่น Refill ที่มีคุณสมบัติคล้ายบุฟเฟ่ต์ทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบคุณสมบัติบุฟเฟ่ต์ในแง่มุมของการสบายใจจากราคามื้ออาหารที่คาดการณ์ได้ (Price & Promotion) และจากนั้นก็ได้ทำการปล่อยแคมเปญนำเสนอคุณค่าแบรนด์ “ทำมื้อนี้ให้ดีที่สุด” และตามมาด้วยบาร์บีก้อนตัวใหม่สุด Cute แทนที่คุณปู่ก้อนตัวเดิมที่ออกจะหน้าแก่และดูดุนิดๆ (Communication) ซึ่งพี่ก้อนก็กลายเป็นขวัญใจไม่เพียงแค่เด็กน้อย แต่เป็นขวัญใจของพวกเราทุกคนไปด้วยอย่างมากมาย จากวันนั้นถึงวันนี้บาร์บีก้อนเติบโตเพราะทั้งเก็บลูกค้าเดิมไว้และได้ลูกค้าใหม่เพิ่มเติมกลายเป็นทุกมื้อๆ ร้านไม่เพียงจะมีลูกค้าปริ่มๆ แต่กลายเป็นมีลูกค้าต่อคิวยาวเป็นอันดับ 1 ในทุกๆ มื้อ

Brand Transformation: The New Era of BBQ Plaza

แบรนด์ KFC (ที่ขณะนั้นบริหารโดย Yum Restaurant (Thailand)) ต้องการเพิ่มการเติบโตของแบรนด์โดยเจาะไปที่โจทย์ว่า “ทำอย่างไรให้ในช่วงเวลาระหว่างมื้อ มีคนสนใจใช้บริการ KFC เพิ่มมากขึ้น” …ผู้บริหารแบรนด์ควรทำหน้าที่ซอยโจทย์ค่ะว่าแบรนด์ธุรกิจของเราจะเติบโตจากตรงไหน เมื่อซอยลงไปให้ตื้นที่สุดแล้วเราจะพบว่าเราอยากเข้าใจ Insight เรื่องอะไร และ ใคร คือคนที่เราต้องไปทำความเข้าใจ …เมื่อได้รับโจทย์อย่างนี้ ทีมวิจัยก็เห็นการชี้เป้าค่ะ จริงๆ แล้วในช่วงจังหวะนั้น KFC เตรียมเครื่องมือมาพร้อมแล้วค่ะ คือการมีเมนูอาหารกลุ่มใหม่ที่ตอบโจทย์ Light Meal ที่สามารถเป็นตัวเลือกที่ดีของมื้อบ่ายๆ ได้แก่ บาร์เครื่องดื่มและของหวานที่ชื่อว่า Krusher มีเมนูโดดเด่นคือเครื่องดื่มที่เคี้ยวได้ (อารมณ์เดียวกับชานมไข่มุกนั่นเองค่ะ) แต่ผลการศึกษา Consumer Insights ชี้ชัดให้เห็นว่า บาร์ Krusher สมควรตั้งอยู่ที่หน้าร้านมากกว่าที่จะไปตั้งอยู่ต่อเนื่องไปกับเคาน์เตอร์สั่งอาหารด้านใน เพราะจะให้ประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้าใหม่และสร้างภาพจำที่เปลี่ยนให้แบรนด์ KFC ไม่เท่ากับ Main Meal Only อีกต่อไปแต่คือแบรนด์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การกินได้ตลอดวันให้กับกลุ่มคนเดินห้างทุกรุ่นทุกวัย

พร้อมกันในครั้งนั้น ก็มีการจัดโซนนิ่งที่นั่งของร้านใหม่ให้มีทั้งโซน นั่งกินเร็วๆ เป็นแนวบาร์ๆ หน่อย (แต่ไม่ค่อยฮิตมากในไทยตอนนั้นนะคะ เพราะ KFC ในต่างประเทศคือ Fast Food แต่ในไทยคือมื้อดีๆ ที่ต้องตั้งใจไปทานกัน) โซนเพื่อนนั่งทานนั่งเม้าท์หรือจะนั่งทำงานก็พอตอบโจทย์ได้ และโซนครอบครัว ที่นั่งที่มีความเป็นบูทที่จริงจัง ล้อมวงนั่งสบายนั่งได้นาน การปรับประสบการณ์ที่นั่งนี้เป็นแรงหนุนในการปรับการรับรู้แบรนด์ KFC ให้ตอบโจทย์โอกาสการใช้บริการที่กว้างขึ้นเพิ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ได้ตามเป้าการเติบโตที่หมายมั่นปั้นมือ

ร้านต้นแบบ KFCเห็นมั้ยคะว่า Consumer Insights คือกุญแจไขคำตอบของการเติบโตได้จริงได้เสมอมา อย่างไรก็ตามหัวใจความสำเร็จของทั้ง 2 แบรนด์ที่ได้เล่าสู่กันฟังนอกเหนือจาก Consumer Insight เราแล้วยังควรเรียนรู้เรื่องของการสร้างสรรค์เครื่องมือทางการตลาดใหม่ๆ ที่แตกต่าง สดใหม่ และตอบโจทย์ทั้งมุมของลูกค้าและการใช้งบที่เหมาะสมขององค์กรด้วยนะคะ

สุดท้ายจึงต้องขอสรุปใหม่จากหัวข้อที่เปิดไว้ว่า ตราบเท่าที่ธุรกิจยังต้องการเติบโตและการเติบโตยังคงเกิดจากการที่ลูกค้าซื้อเพิ่ม Consumer Insights จะยังคงเป็นทั้ง The  Past-Present-Future & Forever of Marketing เสมอไปค่ะ โดยใน Future วิธีการได้มาซึ่ง Insights อาจจะเปลี่ยน เครื่องมือการตลาดยุคใหม่ๆ อาจจะเปลี่ยน….แต่การที่ Consumer Insights ยังคงเป็นหัวใจไม่เปลี่ยนอย่างแน่นอนค่ะ ☺️🥰☺️

 

RECOMMEND

read more
22.08.2025 73

เทรนด์ Run Club ในไทยปี 2025

คอมมูนิตี้ของคนที่รวมตัวกันเพื่อวิ่งออกกำลังกายร่วมกัน ทำไมการเข้าร่วม Run Club ถึงได้รับความนิยมในไทยตอนนี้ เทรนด์ Run Club ในไทยมีผลต่อการตลาดและแบรนด์กีฬาอย่างไร Run Club คืออะไร Run Club คือกลุ่มหรือคอมมูนิตี้ของคนที่รวมตัวกันเพื่อวิ่งออกกำลังกายร่วมกัน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิ่งมืออาชีพหรือมีประสบการณ์มาก่อน จุดเด่นของ Run Club คือการสร้างบรรยากาศวิ่งที่สนุกสนาน ผ่อนคลาย และมีมิตรภาพ เป็นพื้นที่ให้คนที่มีใจรักการวิ่งได้มาเจอกัน แชร์ประสบการณ์ และวิ่งด้วยกันในรูปแบบต่าง ๆ ตามระดับความชอบหรือระดับความเร็ว ทำไมการเข้าร่วม Run Club ถึงได้รับความนิยมในไทยตอนนี้ การวิ่งไม่ใช่แค่กีฬาแต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของ lifestyle ที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ การวิ่งใน Run Club คือการได้พบปะผู้คนที่มีความชอบคล้ายกัน ทั้งในเรื่องการวิ่ง แฟชั่นรองเท้าวิ่ง และกิจกรรมสังคม เช่น กินกาแฟหลังวิ่ง แบรนด์แฟชั่นและกีฬาเข้ามามีบทบาทส่งเสริมเทรนด์นี้ เช่น การร่วมมือระหว่างแฟชั่นและกีฬา ทำให้คนมองว่าการวิ่งเป็นกิจกรรมที่ใกล้ตัวและสามารถสร้างภาพลักษณ์ได้ ไม่ใช่แค่เพื่อสุขภาพ แต่ใส่เสื้อผ้าวิ่งยังไปทำงานหรือเที่ยวได้ด้ […]

read more
20.08.2025 93

OATSIDE TREND แบรนด์ที่ทำให้คาเฟ่ ทั้งประเทศปรับราคานมโอ๊ต

กระแสของ OATSIDE ซึ่งเป็นแบรนด์นมโอ๊ตชื่อดังจากสิงคโปร์ กำลังมาแรงมากในปี 2025 ทำไม OATSIDE จึงลดราคานมลงถึง 50% อย่างถาวร ใช้กลยุทธ์อะไรในการขยายฐานลูกค้าจากกลุ่ม Niche สู่ Mass กระแสนมโอ๊ต OATSIDE ในช่วงปีที่ผ่านมา เกิดกระแสใหม่ในไทยที่ร้านคาเฟ่หรือร้านอาหารเปิดบริการตอนกลางวัน แต่มีสไตล์แบบร้านเหล้าผับในเวลากลางคืน เช่น มี DJ มาเปิดเพลงสร้างบรรยากาศ ปกติเราจะเห็นดีเจในร้านบาร์ช่วงค่ำ แต่ตอนนี้ดีเจถูกนำเข้ามาอยู่ในร้านคาเฟ่ขณะยังไม่มืด ด้วยคอนเซ็ปต์ผสมผสานความเป็น “คาเฟ่ & บาร์” หรือ “Cafe and Bar” โดยลูกค้าสามารถจิบกาแฟหรือรับประทานอาหาร พร้อมฟังเพลงจากดีเจและชิลล์ในบรรยากาศเหมือนปาร์ตี้เบา ๆ ได้ในเวลากลางวัน OATSIDE ใช้กลยุทธ์อะไรในการขยายฐานลูกค้าจากกลุ่ม niche สู่ mass ตั้งราคานมโอ๊ตในช่วงแรกสูงกว่าเพื่อนำเสนอในกลุ่มลูกค้าพรีเมียมหรือกลุ่ม Early Adopters ที่พร้อมจ่ายเพื่อสินค้าทางเลือกคุณภาพสูงและรสชาติที่เหมาะกับคนเอเชีย (Price Skimming) พัฒนาสูตรนมโอ๊ตที่รสชาติลงตัวสำหรับคนเอเชีย โดยผ่านการทดลองสูตรมากกว่า 50 สูตร จนได้รสชาติที่ถูกใจกลุ่มเป้าหมายแรกเ […]

read more
26.08.2025 7

CONSUMER INSIGHTS – THE FUTURE OF MARKETING

“Consumer Insights” Wording สุดคลาสสิคที่อยู่คู่การทำการตลาดมาตลอดกาลแต่วันนี้ก็ยังพูดได้ว่า Consumer Insights คือ Future of Marketing อยู่ดีมาดูกันว่า Consumer Insights มันทำงานอย่างไร แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร ลองมาจำลองสถานการณ์กันดูนะคะ เรามีธุรกิจร้านอาหารมีสาขาทั่วประเทศ ธุรกิจเราไปได้เรื่อยๆ เติบโตแบบ Organic ตามจำนวนการเปิดสาขาใหม่ ในแต่ละมื้ออาหารมีลูกค้าเข้าร้านปริ่มๆ เกือบเต็มแต่ไม่เต็ม และมีช่วง Peak Time แค่สั้นๆ เป็นช่วงเวลา Main Meal ได้แก่ช่วงเที่ยง และช่วงมื้อเย็น …..ในฐานะผู้บริหารผู้ต้องชี้ทิศทางเพื่อนำพาแบรนด์สู่การเติบโต คำถาม คือ เราจะโตได้อย่างไร? ตีโจทย์การเติบโตซิว่า…ธุรกิจร้านอาหารเราจะโตได้จากอะไร? ฐานลูกค้าเดิมยังคงเหนียวแน่น ยังคงรักเราและกินเราสม่ำเสมอ (อันนี้ยังไม่โตนะแต่ต้องเขียนกำกับไว้ไม่งั้นเผลอทิ้งเค้าโดยไม่รู้ตัว) ทำให้ลูกค้าเดิมซื้อเพิ่มในการเข้าร้านแต่ละครั้ง และทำให้ลูกค้าเดิมเข้าร้านในความถี่เพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้าใหม่เข้าร้านของเรา เลือกเราเพิ่มขึ้น รับรองว่าถ้าทำได้ทั้ง 3 ข้อนี้ โตแน่นอน! จริงเสียยิ่งกว่าจริง หลักคิดนี้จริงๆ ก็มีโมเดลรอ […]

read more
30.07.2025 149

I Buy, Therefore I am การตลาดบนมูลค่าแห่งความรู้สึก

ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากอิทธิพลของวิถีชีวิตที่ซับซ้อน การเข้าใจแค่ “ใครซื้อ” หรือ “ซื้ออะไร” ไม่เพียงพออีกต่อไป ผู้บริโภคเริ่มตัดสินใจจาก “ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้น” (Desired Outcome) มากกว่าประเภทของสินค้า หรือแบรนด์โดยตรง แนวคิด “Consumer Need States” หรือ “ภาวะความต้องการของผู้บริโภค” จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำความเข้าใจแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังการเลือกบริโภค โดยเป็นการมองผู้บริโภคจากสิ่งที่พวกเขาต้องการรู้สึกหรือบรรลุในช่วงเวลานั้น เช่น ความสงบ ความมั่นใจ ความกระปรี้กระเปร่า หรือการฟื้นฟูร่างกาย เมื่อการตัดสินใจไม่ได้เริ่มต้นจากคำถามว่า “จะซื้ออะไร” แต่เป็นคำถามว่า “ทำไมถึงต้องซื้อ” หรือ “อยากได้ผลลัพธ์อะไรจากการบริโภค” แนวทางการทำความเข้าใจผู้บริโภคที่อิงจากข้อมูลพื้นฐาน เช่น เพศ อายุ หรือพฤติกรรมซื้อตามหมวดหมู่ จึงไม่เพียงพออีกต่อไป ตัวอย่างเช่น ธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งคาดว่ามีมูลค่ากว่า 2.26 แสนล้านบาทในปี 2025 โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ซึ่งมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ในตลาดนี้ ผู้บริโภคไม่ได้เลือกซื้อเพียงเพราะรสชาติหรือราคาอีกต่อไ […]

เทรนด์อาหารคนโสดในปี 2025
read more
21.07.2025 228

โสดก็กินข้าวอร่อยได้ 3 เทรนด์อาหารคนโสดในปี 2025

คนโสดให้ความสำคัญกับความสะดวก (Convenience) การควบคุมมื้อ (Portion Control) และการลงทุนเพื่อประสบการณ์ส่วนตัว ทำให้เกิด “Self Splurge” และ “Solo Dining” 3 เทรนด์อาหารสำหรับคนโสด 1.Functional & High-Protein Snacks
 คนโสดกลุ่มสายเฮลท์ตี้มองหาของว่างที่มีประโยชน์มากขึ้น โปรตีนบาร์ ขนมอบกรอบจากไข่ขาว ถั่ว และเครื่องดื่มโปรตีนสปาร์กลิง (protein-infused sparkling) ตอบโจทย์สุขภาพและการควบคุมน้ำหนัก. Superfood จากทะเล (สาหร่าย สาหร่ายสไปรูลิน่า) และ Sea Moss Gel ถูกนำมาสร้างสรรค์ในรูปแบบขนมและเครื่องดื่มมากขึ้น 2.Self-Splurge Dining & Premium Experiences
 “Self Splurge” คือการใช้จ่ายเพื่อรางวัลตัวเอง ส่งผลให้คนโสดทานอาหารนอกบ้านและลงทุนกับกิจกรรมเกี่ยวกับอาหาร การใช้จ่ายหมวด Dining สูงกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับคนมีครอบครัว และพร้อมจ่ายค่ากิจกรรมเวิร์กช็อปทำอาหาร. เทรนด์ Sake Pairing ของ GrabFood ชูประสบการณ์จับคู่สาเกกับเมนูต่าง ๆ ใน Casual Dining. 3.Personalization & Experiential Food
 คนโสดต้องการอาหารที่สะท้อนตัวตนและสร้างประสบการณ์ใหม่ เมนูผสมรสหวาน-คาว “Swavory” วาร์ไรตี้อาหารสต […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง