Baramizi Lab logo

ความลับพฤติกรรม ‘ดูซีรีย์รวดเดียวจบ’ ที่ Netflix ไขได้จากการทำวิจัยกับคนดู

อินโฟกราฟิกแสดงการใช้ Big Data และ Thick Data ของ Netflix เพื่อเข้าใจพฤติกรรมการดูซีรีส์แบบรวดเดียวจบ

ความลับพฤติกรรม ‘ดูซีรีย์รวดเดียวจบ’ ที่ Netflix ไขได้จากการทำวิจัยกับคนดู

Big Data ผสาน Thick Data ปลดล็อกนวัตกรรมด้วยข้อมูลสองมิติ

ครั้งหนึ่ง Netflix กำลังทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลกสตรีมมิ่ง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของ Big Data อันมหาศาล อัลกอริทึมอัจฉริยะสามารถแนะนำซีรีส์ และภาพยนตร์ที่ตรงใจผู้ชมได้อย่างน่าทึ่ง วิเคราะห์ทุกการคลิก ทุกการหยุดพัก และทุกยอดวิว พวกเขารู้ว่าผู้คนดูอะไร และ เมื่อไหร่ แต่ท่ามกลางข้อมูลเหล่านั้น มีพฤติกรรมหนึ่งผุดขึ้นมาอย่างโดดเด่นแต่ยังคงเป็นปริศนานั้นคือ “Binge-Watching” หรือการดูซีรีส์รวดเดียวจบแบบมาราธอน

เเต่เพียงเเค่ข้อมูลที่บอก ‘อะไร’ อย่างเดียวคงไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จขนาดนั้น จึงเป็นที่มาของ Thick Data มันคือข้อมูลเชิงคุณภาพที่ให้ความเข้าใจถึงแรงจูงใจ ความเชื่อ และประสบการณ์ส่วนบุคคล ในกรณีของ Netflix อะไรคือแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังการที่ผู้คนเลือกที่จะใช้เวลาสุดสัปดาห์ไปกับการดูซีรีส์อย่างไม่หยุดหย่อน? อะไรคือสิ่งที่กระตุ้นอารมณ์และแรงจูงใจเบื้องลึก?

Netflix ได้เชิญทีมวิจัยเข้าไปทำ Ethnographic Research โดยเข้าไปในบ้านของผู้ชมจริง เพื่อสังเกตการณ์พฤติกรรมการดูซีรีส์ในบริบทธรรมชาติ พวกเขาเฝ้าดูคู่รักที่ดูซีรีส์ด้วยกันในคืนวันศุกร์ สังเกตการผ่อนคลายของผู้คนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือแม้แต่การสร้างวัฒนธรรมร่วมกันในกลุ่มเพื่อนที่ใช้ซีรีส์เป็นหัวข้อสนทนา ทีมวิจัยบันทึกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่บรรยากาศในห้องนั่งเล่น ปฏิกิริยาทางอารมณ์ ไปจนถึงบทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างดู

จากการสังเกตการณ์เชิงลึกนี้เอง พวกเขาค้นพบว่าการ Binge-Watching ไม่ใช่แค่การเสพติดจอ แต่มันตอบสนอง “ความต้องการทางสังคมและอารมณ์” ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น สำหรับคู่รัก มันคือการสร้างความผูกพัน และกิจกรรมร่วมกัน สำหรับคนทำงาน มันคือการหลบหนีจากความเครียดเพื่อการผ่อนคลายอย่างแท้จริง และสำหรับกลุ่มเพื่อน มันคือการสร้างวัฒนธรรมและบทสนทนาที่มีร่วมกัน

โดยสรุปข้อมูลสองตัวนี้ทั้ง Big Data + Thick Data คือ กุญแจไข “ทำไม” สู่สุดยอดนวัตกรรม

Big Data:

  • เน้น “ปริมาณ” (Scale): เพื่อระบุแนวโน้ม รูปแบบ และความสัมพันธ์จากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้สามารถตอบคำถาม “อะไร” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สินค้าขายดีที่สุดคืออะไร กลุ่มประชากรใดมีส่วนร่วมสูงสุด หรือยอดขายสูงสุดในช่วงเวลาใด

Thick Data:

  • เน้น “ความลึก” (Depth of Insights): เพื่อบอกว่า “ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น” ทักษะเป็นสิ่งสำคัญในการนำข้อมูลนี้มาใช้ประโยชน์ เครื่องมือหลักๆ ในการทำ Thick Data ได้แก่:
  • วิธีการวิจัยแบบดั้งเดิม 
    • Participant Observation: นักวิจัยเข้าไปอยู่ร่วมในสภาพแวดล้อมที่ศึกษา (เช่น สังเกตผู้ซื้อในร้านค้า หรือใช้เวลาในที่ทำงาน)
    • In-depth Interviews: การสนทนาตัวต่อตัวที่ก้าวข้ามคำตอบผิวเผิน เพื่อค้นพบแรงจูงใจ ความเชื่อ และประสบการณ์
    • Focus Groups: แม้จะลึกน้อยกว่าการสัมภาษณ์รายบุคคล แต่ก็ช่วยให้จับพลวัตของกลุ่มและบริบททางสังคมได้
  • เครื่องมือใหม่ๆ ในยุคดิจิทัล:
    • Social Listening: วิเคราะห์บทสนทนาออนไลน์ (เว็บบอร์ด รีวิว โซเชียลมีเดีย) เพื่อจับอารมณ์ความรู้สึก ธีมที่เกิดซ้ำ และวิธีที่ผู้คนแสดงออกตามธรรมชาติ
    • Digital Ethnography (Netnography): การปรับเทคนิคเชิงชาติพันธุ์มาใช้กับชุมชนออนไลน์ เพื่อสังเกตพฤติกรรมภายในฟอรัม หรือกลุ่มโซเชียลมีเดียเฉพาะ

การค้นพบ “ทำไม” ครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Netflix อย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่แค่ส่งมอบรายการโทรทัศน์ พวกเขาเริ่มเข้าใจว่ากำลัง “ตอบสนองความต้องการทางอารมณ์และสังคม” ของผู้ชม นี่เป็นแรงบันดาลใจให้ Netflix ลงทุนมหาศาลในการผลิต Original Content ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้เราทุกคนมีอาการ Binge-Watching โดยเฉพาะ ทั้งการตั้งใจปล่อยทั้งซีซันพร้อมกัน หรือสร้างจักรวาลเนื้อหาที่ดึงดูดใจผู้ชมให้ดำดิ่งได้อย่างไม่สิ้นสุด

 

ที่มา: squareholes

RECOMMEND

อินโฟกราฟิกแสดงการใช้ Big Data และ Thick Data ของ Netflix เพื่อเข้าใจพฤติกรรมการดูซีรีส์แบบรวดเดียวจบ
read more
19.06.2025 7

ความลับพฤติกรรม ‘ดูซีรีย์รวดเดียวจบ’ ที่ Netflix ไขได้จากการทำวิจัยกับคนดู

Big Data ผสาน Thick Data ปลดล็อกนวัตกรรมด้วยข้อมูลสองมิติ ครั้งหนึ่ง Netflix กำลังทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลกสตรีมมิ่ง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของ Big Data อันมหาศาล อัลกอริทึมอัจฉริยะสามารถแนะนำซีรีส์ และภาพยนตร์ที่ตรงใจผู้ชมได้อย่างน่าทึ่ง วิเคราะห์ทุกการคลิก ทุกการหยุดพัก และทุกยอดวิว พวกเขารู้ว่าผู้คนดูอะไร และ เมื่อไหร่ แต่ท่ามกลางข้อมูลเหล่านั้น มีพฤติกรรมหนึ่งผุดขึ้นมาอย่างโดดเด่นแต่ยังคงเป็นปริศนานั้นคือ “Binge-Watching” หรือการดูซีรีส์รวดเดียวจบแบบมาราธอน เเต่เพียงเเค่ข้อมูลที่บอก ‘อะไร’ อย่างเดียวคงไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จขนาดนั้น จึงเป็นที่มาของ Thick Data มันคือข้อมูลเชิงคุณภาพที่ให้ความเข้าใจถึงแรงจูงใจ ความเชื่อ และประสบการณ์ส่วนบุคคล ในกรณีของ Netflix อะไรคือแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังการที่ผู้คนเลือกที่จะใช้เวลาสุดสัปดาห์ไปกับการดูซีรีส์อย่างไม่หยุดหย่อน? อะไรคือสิ่งที่กระตุ้นอารมณ์และแรงจูงใจเบื้องลึก? Netflix ได้เชิญทีมวิจัยเข้าไปทำ Ethnographic Research โดยเข้าไปในบ้านของผู้ชมจริง เพื่อสังเกตการณ์พฤติกรรมการดูซีรีส์ในบริบทธรรมชาติ พวกเขาเฝ้าดูคู […]

What is a Unmet Need
read more
09.06.2025 185

What is a Unmet Need? (ความต้องการที่ซ่อนอยู่คืออะไร)

What is a Unmet Need? (ความต้องการที่ซ่อนอยู่คืออะไร) นวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกมักไม่ได้เริ่มจากเทคโนโลยีล้ำยุคเสมอไป แต่มักเริ่มจากคำถามง่ายๆ ว่า “ความต้องการลึกๆ ของลูกค้าคืออะไร” ความต้องการลึกๆ หรือที่เรียกว่า Unmet Need ในเชิงทฤษฎีการออกแบบ และนวัตกรรมความต้องการของผู้ใช้งานสามารถแบ่งออกเป็นหลายระดับตั้งแต่ความต้องการพื้นฐานที่ผู้ใช้อธิบายได้อย่างชัดเจน ไปจนถึงความต้องการที่ยังไม่สามารถระบุ หรือรับรู้ได้ด้วยตนเองซึ่งเรียกว่า Hidden Needs หรือ Unmet Needs ความต้องการเหล่านี้มักอยู่ในระดับที่ลึกกว่าการแสดงออกทั่วไป เป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในพฤติกรรม ความรู้สึก หรือสภาพแวดล้อมที่ผู้ใช้อาศัยอยู่ แนวคิดนี้เชื่อมโยงกับการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human-Centered Design) และแนวทาง Outcome-Driven Innovation ของ Ulwick (2005) ซึ่งชี้ว่า ความเข้าใจใน “งานที่ผู้ใช้อยากให้เสร็จ (Jobs to Be Done)” นั้นต้องลึกซึ้งกว่าคำพูดหรือแบบสอบถามทั่วไป เพราะผู้ใช้จำนวนมากไม่สามารถบอกความต้องการที่แท้จริงของตนออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา (Latent or Unarticulated Needs) ตัวอย่างของ Hidden Needs ได้แก่ ความรู้สึกไม่ […]

read more
06.06.2025 196

ทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะว่า “สร้างแบรนด์ได้ดี” วัดจากอะไร?

ทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะว่า “สร้างแบรนด์ได้ดี” วัดจากอะไร? ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา Baramizi Group (ซึ่งประกอบด้วยนักสร้างแบรนด์ และนักวิจัยและพัฒนาแบรนด์) ได้ร่วมกับ รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพล อัสสะรัตน์ ในการค้นหาคำตอบของคำถามนี้ บนความเชื่อที่ว่า “การสร้างแบรนด์ต้องวัดผลได้” ซึ่งความ ambitious ของเราคือ ไม่ใช่แค่วัดผลเป็น Index หรือเปอร์เซ็นต์ ที่เป็นเพียงตัวเลขอ้างอิงเท่านั้น แต่ต้อง วัดได้เป็น “มูลค่า” ที่จับต้องได้ในเชิงตัวเงินเพราะเมื่อใดก็ตามที่แบรนด์สามารถแปลงค่าเป็นตัวเงินได้ ก็จะทำให้ความเชื่อที่ว่า “แบรนด์คือสินทรัพย์ทางธุรกิจ” พิสูจน์ได้และแพร่หลายได้จริง ระหว่างการศึกษาวิจัย ก่อนที่จะไปถึงตัวเงินเหล่านั้น คำถามสำคัญที่ต้องตอบให้ได้ ทั้งในเชิงวิชาการและคนทำงานจริง คือ:“เราจะบอกได้อย่างไรว่าแบรนด์นี้สร้างได้ดี และให้ผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จ” คำตอบที่เรียบง่าย หลังจากการค้นคว้าทฤษฎีและงานวิจัยจำนวนมาก มีอยู่ 3 ประการด้วยกันค่ะ: 1. แบรนด์ที่ดีจะช่วยขายของได้มากขึ้น แบรนด์ที่มียอดขายสูงในปัจจุบัน เป็นข้อบ่งชี้เบื้องต้นว่าแบรนด์นั้นมีความแข็งแรง โดยเฉพาะในกรณีที่แบรนด์ขายตรงถึงผู้บร […]

read more
19.05.2025 170

Rising Global South : ชายขอบวิวัฒน์ในประเทศกำลังพัฒนา

ประเทศกำลังพัฒนา (Global South) กำลังนิยามการเติบโตทางเศรษฐกิจ, ความเป็นอยู่ที่ดี และการต่อสู้กับสภาพภูมิอากาศในแบบของตนเอง ประเทศเหล่านี้กำลังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงด้วยความสามารถในการปรับตัวสูง, การนำเทคโนโลยีมาใช้ และพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศของตนเอง คำว่า “Global South” คือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในแอฟริกา เอเชีย และละตินอเมริกา มีลักษณะทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่คล้ายคลึงกัน โดยมักมีรายได้ต่ำและความเหลื่อมล้ำสูง การชี้วัดด้วยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพียงอย่างเดียวไม่ได้สะท้อนถึงความเป็นอยู่ที่ดีเสมอไป ประเทศเหล่านี้กำลังสร้างโอกาสอันเป็นเอกลักษณ์สำหรับการเติบโตผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม, หลีกเลี่ยงกระบวนการที่ล้าสมัย และสร้างวิธีการใหม่ในการก้าวหน้าเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), และเทคโนโลยีดิจิทัล ประเทศกำลังพัฒนาจึงอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่จะนำทางในการสร้างศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและส่งเสริมผู้ประกอบการในเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น บล็อกเชนและแพลตฟอร์มดิจิทัล ช่วยให้สามารถสร้างระบบที่ครอบคลุมได้ เช่น โครงการพลังงานหมุนเวียนหรือโครงสร้างพื้นฐานที่ผลิตโดยชุมชนได้ […]

SuperfansIndex
read more
09.04.2025 205

ลูกค้าหายไปไหน? เข้าใจ Insight เพื่อรักษาฐานลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์ได้นานขึ้น

คุณเคยเจอลูกค้าประเภทที่ซื้อครั้งเดียวแล้ว “หายเงียบ” ไปเลยไหม? หลายครั้งที่ลูกค้าไม่พึงพอใจ แต่ไม่เคยบอกตรง ๆ พวกเขาอาจเลือกที่จะไม่กลับมาใช้บริการอีก และเปลี่ยนไปหาแบรนด์อื่นแทน โดยที่คุณไม่มีโอกาสได้รับฟังความคิดเห็น หรือรู้ว่าควรปรับปรุงตรงไหน การเข้าใจเสียงของลูกค้าอย่างแท้จริงจึงเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ที่แข็งแรงและยั่งยืน ทำไมการรักษาลูกค้าเก่าถึงสำคัญกว่าการหาลูกค้าใหม่? งานวิจัยจาก Harvard Business Review เผยว่า: ต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่ สูงกว่าการรักษาลูกค้าเดิมถึง 5 เท่า ลูกค้าเก่า มีแนวโน้มกลับมาใช้บริการซ้ำ มากกว่าลูกค้าใหม่ถึง 3 เท่า กว่า 50% ของลูกค้าเก่า พร้อมที่จะแนะนำแบรนด์ให้กับคนรอบข้าง ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า “ลูกค้าเก่า” ไม่ได้มีคุณค่าเพียงแค่ยอดขายในปัจจุบัน แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตในระยะยาว ทำไมแค่ Engagement ถึงไม่เพียงพอ? หลายธุรกิจเชื่อว่าแค่การสร้าง Engagement กับลูกค้า เช่น การมีคอนเทนต์ดีๆ การตอบแชทเร็ว หรือการมีโปรโมชั่น ก็น่าจะเพียงพอแล้วในการสร้างความสัมพันธ์ แต่ในความเป็นจริง Engagement ไม่ได้สะท้อนระดับความพึงพอใจของลูกค้าเส […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง