Baramizi Lab logo

PSYCHOLOGICAL SEGMENTATION 5 เรื่องน่ารู้กับ PSYCHOLOGICAL SEGMENTATION

PSYCHOLOGICAL SEGMENTATION 5 เรื่องน่ารู้กับ PSYCHOLOGICAL SEGMENTATION

การทำ Segmentation คือการแบ่งคนที่มีความต้องการ (Needs/ Want) หรือแรงจูงใจ (Motivation) ในการเลือกสินค้าของแต่ละประเภท และหลายคนคงรู้จักรูปแบบการแบ่ง Segmentation กันบ้างแล้วว่ามีกี่รูปแบบ

รูปแบบที่ 1 Demographic Segmentation เช่น เพศ อายุ อาชีพ รายได้ เป็นต้น

รูปแบบที่ 2 Geographic Segmentation เช่น ตำแหน่งที่อยู่ ภูมิภาค เป็นต้น

รูปแบบที่ 3 Behavioral Segmentation เช่น พฤติกรรมการซื้อ ความถี่ที่ซื้อ เป็นต้น

รูปแบบที่ 4 Psychological Segmentation เช่น ทัศนคติ รูปแบบการใช้ชีวิต ค่านิยมเป็นต้น

โดยในเนื้อหานี้จะทำให้ทุกท่านได้เห็นว่า  PSYCHOLOGICAL SEGMENTATION มีความสำคัญมากน้อย หรือมีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจ/ แบรนด์

 

1.Psychological Segmentation ช่วยบอกธุรกิจว่าควรเดินอย่างไร?

Psychological Segmentation ช่วยบอกธุรกิจว่าควรเดินอย่างไร

แน่นอนว่าเมื่อเราต้องผลิตสินค้าหรือสร้างโครงการอะไรสักอย่าง สิ่งสำคัญคือการศึกษาภาพรวมหรือทำวิจัยว่าสิ่งที่เราจะผลิตหรือโครงการที่เราจะทำมีโอกาสในการขายได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งเราต้องหาจุดคุ้มทุน(ROI) และ 1 ในการวิจัยที่เราควรทำ คือ การหา Segment ในรูปแบบ Psychological Segmentation ที่เป็นการเชิงเจาะลึกถึงถึงรูปแบบของว่าที่ลูกค้าเราในอนาคต โดยข้อมูลที่ได้จะทำให้เห็นว่าธุรกิจเรามีรูปแบบ Segment กี่รูปแบบ และแต่ละ Segment มีพฤติกรรมอย่างไร

ข้อมูลนี้เรามักจะนำมาใช้กำหนดกลยุทธ์ต่อไป โดยแบรนด์/ ธุรกิจต้องเลือกกลุ่มเป้าหมาย และกลุ่มเป้าหมายที่เราเลือกนั้น เราควรสร้างประสบการณ์อย่างไรให้จับใจ หรือโดนใจกลุ่มคนเหล่านี้

 

2. Psychological Segmentation มีความสำคัญมากขึ้นเพราะมีการบริโภคแบบ Bi-Polar Consumption

Psychological Segmentation มีความสำคัญมากขึ้นเพราะมีการบริโภคแบบ Bi-Polar Consumption

ด้วยโลกที่เปิดกว้าง อินเทอร์เน็ตเข้าถึงทุกคนทำให้คนเริ่มเข้าใจตัวเองและหาสิ่งสังคมที่ตรงกับความชื่นชอบของตัวเอง การเดินทางที่ง่ายขึ้นทำให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์ที่แตกต่าง ทำให้เกิดความคิด หรือความสนใจที่แตกต่างกันไป ดังนั้นทำให้การแบ่งกลุ่มด้วย Psychological Segmentation จึงมีความสำคัญมากขึ้น ประกอบกับสมัยปัจจุบันมีการบริโภคแบบ Bi-Polar Consumption คือ การบริโภคที่ไม่เป็นไปตามปกติตามอดีตที่ผ่านมา จึงทำให้การกำหนด Segmentation ควรเริ่มมองที่ Psychological Segmentation มากกว่า Segment รูปแบบอื่นๆ

 

3.Psychological Segmentation สามารถนำไปใช้ได้จริง และสามารถนำไปต่อยอดได้

Psychological Segmentation สามารถนำไปใช้ได้จริง และสามารถนำไปต่อยอดได้

โดยปกติหากเราทำวิจัยกับผู้คนเราก็จะสามารถเรียนรู้พฤติกรรม ความต้องการ ไลฟสไตล์ ได้ แต่หากเรานำเสนอในรูปแบบเชิงสถิติเพียงอย่างเดียว เช่น สัดส่วนของเพศ สัดส่วนของรายได้ เพื่อทำให้เห้นภาพรวม เราอาจจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ต่อยาก แต่หากเราแบ่งกลุ่มที่เราเห็นว่าเค้ามี Needs/ Want มีความชอบ มีไลฟ์สไตล์ หรือมีทัศนคติต่อเรื่องนั้นๆ เหมือนกัน เราจะได้ Psychological Segmentation ซึ่งข้อมูลนี้ทำให้เกิดการนำไปใช้ต่อหรือต่อยอดได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดกลยุทธ์ให้แบรนด์/ธุรกิจ (เพราะรากฐานที่สำคัญของการกำหนดกลยุทธ์แบรนด์ที่ควรคือ การหา STP) และนอกจากนี้เรายังสามารถนำไปต่อยอดในเชิงของการทำการตลาด Inbound Marketing  โดยเราสามารถสร้างสรรค์เนื้อหา (Content) หรือพัฒนาประสบการณ์ด้านต่างๆ ที่สอดรับกับคุณค่าแบรนด์ ที่จะดึงดูดกลุ่มคนเหล่านี้เข้ามาหาแบรนด์/ ธุรกิจของเรา เช่น เราจะรู้ว่าเราต้องใช้ Keyword แบบใดเพื่อดึงดูดกลุ่มคนเหล่านี้มา รวมถึง Channel ต่างๆ ที่เราจะเลือกใช้ในการเข้าถึงคนเหล่านี้

 

4. Psychological Segmentation ทำได้ทุกส่วนงานภายในองค์กร(แม้กระทั่ง HR ในองค์กร) 

Psychological Segmentation ทำได้ทุกส่วนงานของภายในองค์กร

การหา Segmentation เราสามารถทำได้ตั้งแต่ การทำในระดับภาคใหญ่ของประเทศ เช่น การหา Segmentation นักท่องเที่ยวของผู้บริโภคชาวไทย (กรณีศึกษาใน VDO Seminar)  การทำในระดับลูกค้าขององค์กร (ซึ่งอาจจะเป็นหน่วยงานฝ่ายสื่อสารองค์กร หรือหน่วยงานที่ขับเคลื่อนองค์กรที่ดูแลส่วนนี้) การทำในกรณีต้องการสร้างโครงการใหม่  (หน่วยงานที่เป็น Product Development หรือ Business Development) การทำในกรณีออกสินค้าใหม่ หรือแม้กระทั้งการทำในระดับพนักงานภายในองค์กร

5. Psychological Segmentation สามารถหาได้โดยใช้กระบวนการวิจัยที่สอดรับกับประเภทธุรกิจ 

Psychological Segmentation สามารถหาได้โดยใช้กระบวนการวิจัยที่สอดรับกับประเภทธุรกิจ

การเก็บข้อมูลเราสามารถใช้วิธีการวิจัยทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณได้ (ยิ่งถ้าได้ข้อมูลเชิงปริมาณก็จะทำให้ข้อมูล Solid มากขึ้น) ซึ่งขึ้นอยู่กับรูปแบบประเภทธุรกิจว่ามีความ Mass Market หรือ Niche Market และเป็นกลุ่มลูกค้าประเภท B2B หรือ B2C

ซึ่งหากเป็นธุรกิจที่ซับซ้อน เช่น ลูกค้าเป็น B2B และ Niche Market เราสามารถเลือกใช้กระบวนการวิจัยแบบ Traditional Research คือ การทำ Face to Face Interview หรือ In-depth Interview แต่หากเป็นลูกค้าที่ Mass Market (กลุ่มลูกค้าที่เป็น B2C) สามารถใช้เครื่องมือวิจัยแบบออนไลน์ได้ เช่น เครื่องมือ Online Poll (สอดรับกับสถานการณ์ Covid-19 และสามารถทำได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น สะดวกขึ้น)

เรียนรู้เพิ่มเติมเครื่องมือ Online Poll

หากท่านใดต้องการ Service ด้านการทำ Psychological Segmentation สามารถติดต่อได้ที่ คุณป่าน 085-5469664 

สำหรับท่านใดที่ต้องการทำความเข้าใจเรื่อง Psychological Segmentation สามารถรับชม VDO สัมมนาออนไลน์ (ย้อนหลัง)

#Segmentation #PsychologicalSegmentation #OnlinePoll #BipolarConsumption #BrandStrategy

 

RECOMMEND

การคาดการณ์อนาคตธุรกิจด้วย Strategic Foresight: กรณีศึกษา IKEA และ Shell
read more
09.07.2025 54

‘ปักหมุด’ อนาคตของธุรกิจ ผ่านแว่น IKEA และ Shell

มองอนาคต 3 รูปแบบ: อนาคตที่น่าจะเป็น อนาคตเป็นไปได้ และ อนาคตที่อยากให้เป็น ผ่าน 2 กรณีศึกษา บริษัทชั้นนำต่างๆ ในโลกธุรกิจไม่ได้เพียงสร้างผลกำไรในปัจจุบัน แต่กำลัง “ลงทุน” ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง การลงทุนในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่ตัวเลขทางการเงิน แต่คือการทุ่มเททรัพยากร ทั้งเวลา, บุคลากร, และการวิจัย เพื่อทำความเข้าใจ และสร้างธุรกิจให้พร้อมในวันข้างหน้า เครื่องมือสำคัญที่บริษัทเหล่านี้ใช้คือ “การคาดการณ์อนาคตเชิงกลยุทธ์” (Strategic Foresight) และเครื่องมือในการใช้งานก็คือ “The Futures Cone” (กรวยแห่งอนาคต) ซึ่งช่วยให้มองเห็นภาพอนาคตที่หลากหลาย ตั้งแต่ อนาคตที่น่าจะเกิดขึ้น (Probable), อนาคตที่เป็นไปได้ (Plausible), ไปจนถึงการเลือกสร้างอนาคตที่อยากให้เป็น (Preferable) แม้จะดูคล้ายการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ที่ทำหน้าที่ ป้องกัน (Defensive) มูลค่าของธุรกิจในปัจจุบันจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น หรือการวิจัยและพัฒนา (R&D) ซึ่งเป็นการ ต่อยอด (Incremental) สร้างมูลค่าใหม่โดยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิม หรือสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อยู่ใกล้เคียงกับธุรกิจหลั […]

index วัดผลการสร้างแบรนด์
read more
04.07.2025 345

วัดผลการสร้างแบรนด์ยังไงให้ได้ผลลัพธ์ที่ทุกคนยอมรับ?

ก่อนจะพูดถึงกลยุทธ์หรือเครื่องมือไหนๆ อยากชวนคุณติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกก่อนนะคะ  สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มองว่า “แบรนด์” เป็น “สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้” และนั่นคือมุมมองที่ทำให้หลายคนยัง “ลังเล” ว่าจะลงทุนสร้างแบรนด์ดีไหม แค่ลังเล อาจทำให้คุณพลาดโอกาสสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว ✅ การลงทุนกับการสร้างแบรนด์คือสิ่งที่ถูกต้อง ✅ การสร้างแบรนด์ไม่จำเป็นต้องใช้งบเสมอไป เพราะการสร้างแบรนด์คือการควบคุมทุกจุดสัมผัสของลูกค้าให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพียงแค่มีเข็มทิศที่แม่นยำ และควบคุมทุกประสบการณ์ให้ไปในทิศทางนั้น หากมีงบ ก็สามารถเพิ่มพลังความสร้างสรรค์ให้แตกต่างจนลูกค้าจดจำได้ไม่รู้ลืม 🅾️ แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่มั่นใจคือ “จะวัดผลแบรนด์อย่างไร?” ยอดขายขึ้นหมายถึงแบรนด์ดีหรือไม่? ถ้ายอดขายไม่ขึ้น แปลว่าแบรนด์แย่หรือเปล่า? เราเข้าใจความสับสนตรงนี้ดีค่ะ เพราะแม้แต่คนที่อยู่ในวงการแบรนด์มานาน ยังต้องกลับมาตั้งคำถามนี้กับตัวเองอยู่บ่อย ๆ Baramizi Lab กับการพัฒนาเครื่องมือวัดแบรนด์ Baramizi Lab (ซึ่งหมวกหนึ่งคือนักวิจัยเพื่อการพัฒนาแบรนด์) เข้าใจหัวอกหัวใจนักสร้างแบรนด์ทุกคนใน […]

Future of Cheese
read more
03.07.2025 314

Future of Cheese: ถอดรหัสกระแสอาหารโลกผ่านมุมมองชีส

ขนาดตลาดชีสโลกและไทย: โอกาสเติบโตที่ไม่ควรมองข้าม ตลาดชีสโลกกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่า 93.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดการณ์ว่าจะเติบโตด้วยอัตรา CAGR 5.08% จากปี 2025-2033 เพื่อไปสู่มูลค่า 153.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2033 ในขณะที่แหล่งข้อมูลอื่นคาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโตไปสู่ 210.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2030 Global cheese market size projections showing steady growth from 2024 to 2030, with various forecasting models สำหรับตลาดไทย ชีสกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากมูลค่า 2,146.5 ล้านบาทในปี 2563 เติบโตเป็น 4,924.1 ล้านบาทในปี 2567 ซึ่งคิดเป็นการเติบโต 7.6% ในปีที่ผ่านมา การเติบโตนี้สะท้อนอัตรา CAGR 23.07% ระหว่างปี 2020-2024 แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของชีสในตลาดไทย Thai cheese market showing dramatic growth from 2020 to 2024, with market value more than doubling สาเหตุที่ทำให้เกิดเทรนด์ชีส 1. อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย การเติบโตของเทรนด์ชีสได้รับอิทธิพลอย่างมากจากโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok ที่มี hashtag #cottagecheese ได้รับการดูมากกว่า 500 […]

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Trends)
read more
02.07.2025 380

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV Trends) ปี 2025-2026

สรุปภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2024 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกทะลุ 17 ล้านคัน คิดเป็นกว่า 20% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดทั่วโลก และคาดว่าในปี 2025 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านคัน เติบโตสูงกว่า 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน ราคาชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีความสามารถในการแข่งขันใกล้เคียงกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ขณะเดียวกัน โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟฟ้าก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว สนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างมากขึ้น 1. ยอดขายและส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปี 2024 สูงกว่า 17 ล้านคัน เติบโต 25% เมื่อเทียบกับปี 2023 คิดเป็นกว่า 20% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดทั่วโลก จีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่สุด จำหน่ายรถ EV กว่า 11 ล้านคัน คิดเป็นเกือบ 50% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศ และคิดเป็นเกือบสองในสามของยอดขาย EV โลก สหรัฐฯ มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าราว 1.6 ล้านคัน เติบโต 10% ยุโรปได้รับผลกระทบจากการถอนเงินอุดหนุน แต่ยังรักษาสัดส่วนยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ประมาณ 20% 2. แนวโน้มภูมิภาคและตลาดเกิด […]

ชาไทยไม่ใส่สี
read more
25.06.2025 249

เทรนด์ชาไทยไม่ใส่สี: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย

แบรนด์ชั้นนำหลายแห่งประกาศผลิตชาไทยที่ไม่ใส่สี Sunset Yellow FCF ซึ่งเป็นสีสังเคราะห์ที่ทำให้ชาไทยดั้งเดิมมีสีส้มสดใส เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การแข่งขันของแบรนด์ชั้นนำ คาเฟ่ อเมซอน นำหน้าเปิดขาย คาเฟ่ อเมซอน ได้ประกาศตัวเป็น “เจ้าแรก” ที่ขายชาไทยไม่ใส่สี โดยเริ่มขายเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2025 ภายใต้ชื่อ “Premium Thai Tea” ซึ่งคัดสรรใบชาอัสสัมคุณภาพดีจากจังหวัดน่าน ผ่านการเบลนด์สูตรพิเศษโดย Tea Master ให้รสชาติโทนวานิลลาหอมละมุน และหวานนุ่มแบบคาราเมลไลซ์ จำหน่ายในราคา 60 บาท ชาตรามือ เตรียมวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม ชาตรามือ แบรนด์ชาไทยเก่าแก่กว่า 80 ปี เตรียมวางจำหน่าย “ชาไทยไม่ใส่สี” ภายในเดือนกรกฎาคม 2025 โดยใช้สูตรดั้งเดิมที่ตัดสีสังเคราะห์ Sunset Yellow ออกทั้งหมด พร้อมเปิดตัวเมนูใหม่ “ชาไทยสีธรรมชาติ” ในไตรมาส 3 ซึ่งใช้สีผสมอาหารจากธรรมชาติ เช่น แครอท ในการแต่งเติมสี เหตุผลเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลง ปัญหาของสี Sunset Yellow FCF สี Sunset Yellow FCF เป็นสีผสมอาหารสังเคราะห์ที่ทำให้ชาไทยมีสีส้มสดใส อย่างไรก็ตาม สารนี้ถูกห้ามใช้หรือควบคุมการใช้ในหลายประเท […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง