Baramizi Lab logo

การท่องเที่ยวของประเทศไทยจะไปต่อได้อย่างไร มิติไหนบ้างที่ต้องเร่งปรับเพื่อให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพ

การท่องเที่ยวของประเทศไทยจะไปต่อได้อย่างไร มิติไหนบ้างที่ต้องเร่งปรับเพื่อให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพ

แนวทางกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าการท่องเที่ยวของประเทศไทย ควรเปลี่ยนอย่างไรเพื่อให้มีความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงและพัฒนาประสบการณ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการมากยิ่งขึ้น 

Tourist – Centric มุ่งนักท่องเที่ยว (ยุคใหม่) เป็นศูนย์กลาง” คงจะเป็นเป้าหมายในการพัฒนาสินค้าการท่องเที่ยวที่ช่วยให้ประเทศของเรา ที่เป็นประเทศพึ่งพาทรัพยากรภายในที่หลากหลายมาทำประโยชน์ให้คุ้มค่ามากที่สุด 

คำถามถัดมาคือ เรื่องอะไรบ้างที่ต้องปรับ เพื่อสอดรับกับทิศทางเหล่านี้ในการพัฒนาสินค้าการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งสรุปได้เป็น 4 หัวข้อหลัก ได้แก่

1. การแบ่งกลุ่มนักท่องเที่ยว 

ปรับจาก : อายุ, เจนเนอเรชั่น เป็น “เที่ยวทำไม” วัตถุประสงค์การท่องเที่ยว ในกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพสูง

ใช้วัตถุประสงค์การเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวเป็นตัวแบ่งกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้มองเห็นถึงความสนใจ และประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ต้องการได้รับ ซึ่งจะสัมพันธ์กับการสร้างสรรค์สินค้าทางการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์พวกเขาได้

2. การแบ่งกลุ่มประเภทการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยว

ปรับจาก : ประเภทแหล่งท่องเที่ยว เป็น  “ประเภทประสบการณ์เน้นคุณค่าและประโยชน์ที่เป็น Meaningful Travel” 

เพื่อให้เข้าใจว่า “เที่ยวแล้วได้อะไร” ใช้ประเภทประสบการณ์ที่เน้นคุณค่าและประโยชน์ที่เป็น Meaningful Travel เป็นประเภทของสินค้าการท่องเที่ยวที่เป็นทางเลือกให้กับนักเดินทางแทน เพื่อสร้างทางเลือกที่ชัดเจน ตรงกับวัตถุประสงค์การท่องเที่ยว ทำให้สามารถบริหารความคาดหวังของนักท่องเที่ยวกับผู้สร้างสินค้าได้อย่างเจาะจง

3. การพัฒนาผลิตภัณฑ์

ปรับจาก : สร้าง Trip ท่องเที่ยวให้ เป็น “สร้างแนวคิด Short Journey ที่ท้องถิ่นร่วม Co-Create โดย Localize และ Connect เป็น Trip”

เพื่อให้รู้ว่า “สร้างประสบการณ์การเที่ยวให้ลึกซึ้ง” สร้าง Short Journey (1 วัน) ที่ขับเน้นประสบการณ์ที่ตรงกับคุณค่าของกลุ่มเป้าหมาย มีข้อกำกับถึงประสบการณ์ที่ชัดเจน แต่ปลายเปิดสำหรับการประยุกต์ใช้วัตถุดิบในแต่ละท้องถิ่น เป็นการเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นออกแบบตามแบบฉบับของตนเองและมีความยืดหยุ่นที่จะร้อยหลายๆ Short Journeys เป็นทริปที่ส่งมอบประสบการณ์ที่หลากหลายได้

4. การเสนอขาย

ปรับจาก : ขายเป็นแหล่งเป็นเส้นทาง เป็น “ขายเป็นธีม ที่มีทางเลือกใหม่ๆ ทั่วประเทศภายใต้ธีมเดียวกัน ตอบโจทย์ Amazing Hidden Unlimited”

เพื่อให้รับประสบการณ์ “เที่ยวเลือกได้และไม่ซ้ำ” สร้าง Short Journey (1 วัน) ที่ขับเน้นประสบการณ์ที่ตรงกับคุณค่าของกลุ่มเป้าหมาย มีข้อกำกับถึงประสบการณ์ที่ชัดเจน แต่ปลายเปิดสำหรับการประยุกต์ใช้วัตถุดิบในแต่ละท้องถิ่น เป็นการเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นออกแบบตามแบบฉบับของตนเองและมีความยืดหยุ่นที่จะร้อยหลายๆ Short Journeys เป็นทริปที่ส่งมอบประสบการณ์ที่หลากหลายได้

ประเทศไทยสามารถนำเสนอ Product Portfolio อะไรบ้างที่จะนำเสนอเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายได้

จากการศึกษาของเรา พบว่าความต้องการหลักของนักท่องเที่ยวในการออกเดินทางมีคุณค่าหลักอยู่ 4 มิติหลัก ซึ่งครอบคลุมมิติคุณประโยชน์ที่สัมพันธ์ไปกับแนวโน้มเทรนด์และมุมมองจากภาคีเครือข่ายในอุตสาหกรรมนี้ ได้แก่ 

1. กลุ่ม Healthy Life Expectancy – ออกเดินทางเพื่อตอบโจทย์สุขภาวะของชีวิตในทุกมิติ – สุขภาพกาย, สุขภาพใจ, สุขภาพความสัมพันธ์ของทั้งระหว่างเพื่อน คนรอบตัวและคนรัก

2. กลุ่ม Learn Life Long – ออกเดินทางเพราะต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่มีสิ้นสุด – เรียนรู้มิติวิถีชีวิตของคนต่างถิ่น, เรียนรู้มิติของสภาพแวดล้อม เมืองใหม่ที่ใหม่ๆ, เรียนรู้ในมิติขององค์ความรู้ท้องถิ่นที่มีอยู่เดิม, เรียนรู้ความหลากหลายของธรรมชาติและระบบนิเวศที่แตกต่าง

3. กลุ่ม Excitement – ออกเดินทางเพราะต้องการประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น – ท้าทายขีดความกลัว, ได้ประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในชีวิตประจำวัน, ได้ท้าทายศักกยภาพร่างกาย หรือได้ประสบการณ์เหนือระดับสุดพิเศษ 

4. กลุ่ม Immersive Story – ออกเดินทางเพราะต้องการซึบซับรากเหง้า หรือเรื่องราว – สถานที่ที่ย้อนอดีต อิเวนต์ที่สวยงามยามเย็น, ตามรอยเรื่องราวแห่งศรัทธา, ตามรอยหนังหรือซีรีย์ที่ประทับใจ

ซึ่งจากงานวิจัยเทรนด์และการสัมภาษณ์และเก็บข้อมูลจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมประกอบกับแนวทางการพัฒนาสินค้าแบบ Product Themes ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงคุณค่าของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ

ประเด็นการพัฒนาภาคีเครือข่ายใน Supply Chain เพื่อนำไปสู่ประเด็นที่ควรได้รับการพัฒนา ให้ครบมิติของแนวคิดและเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ได้ดังนี้

1. Localization

“เข้าใจพื้นที่ เข้าใจผู้คน สร้างเอกลักษณ์เฉพาะของไทยในแต่ละภูมิภาค” 

เป้าหมาย: ยกระดับภูมิภาคสู่ “Destination Branding” ที่ชัดเจน แข่งขันได้ และมีความร่วมมือในห่วงโซ่ท่องเที่ยว
แนวคิดนี้มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยยึด “ภูมิภาค” และ “อัตลักษณ์ท้องถิ่น” เป็นหัวใจสำคัญ เพื่อให้ทุกพื้นที่มีจุดขายเฉพาะตัวที่แตกต่างและสอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในยุคใหม่

2. Responsibility

“ท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และอนาคต”

เป้าหมาย: เปลี่ยนภาพลักษณ์ประเทศไทยจาก “Tourism Destination” สู่ “Responsible Tourism Leader” ในภูมิภาค เป็นการปรับทิศทางสู่การท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบต่อผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยเน้นแนวทาง Green Tourism และ Sustainable Practice

3. Hospitality

“ยกระดับการบริการด้วยหัวใจแบบไทยและประสิทธิภาพระดับโลก”

เป้าหมาย: สร้างภาพลักษณ์ “Thailand: The Land of Warm Hospitality”
เน้นการพัฒนาคนในอุตสาหกรรมบริการให้มีทั้งคุณภาพ มาตรฐาน และเอกลักษณ์ “Thai Touch” ที่ไม่สามารถลอกเลียนได้

4. Standardization

“ยกระดับมาตรฐานคุณภาพ ประสบการณ์ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว”

เป้าหมาย: ให้ “คุณภาพ ความปลอดภัย และความหมาย” กลายเป็นตราสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวไทย
มาตรฐานคือเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและมูลค่าเพิ่มให้กับประสบการณ์การท่องเที่ยวไทย

5. Infrastructure

“วางรากฐานเพื่อการเดินทางที่ไร้รอยต่อ สะดวก และพร้อมเชื่อมโลก”

เป้าหมาย: ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายที่เดินทางสะดวก เข้าถึงง่าย และตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่
พัฒนาและบูรณาการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการเดินทาง การขนส่ง และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

6. Digitalization

“ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี”

เป้าหมาย: พลิกบทบาทประเทศไทยให้เป็น “Smart Tourism Hub” ที่เชื่อมต่อคน ข้อมูล และโอกาสอย่างชาญฉลาด โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเพิ่มศักยภาพทางการตลาด การบริหารจัดการ และประสบการณ์นักท่องเที่ยว

ข้อมูลจากงานวิจัยโดย Baramizi Lab Co., Ltd. and Pradit Ratanawijitrasilp

บทความโดย : กรภัทร คงโชคชัย (Brand and Innovation Researcher)


บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

RECOMMEND

สรุป Pinterest Predicts 2026
read more
19.12.2025 16

เจาะลึก Pinterest Predicts 2026: ถอดรหัส 4 กลยุทธ์ธุรกิจ เปลี่ยน “เทรนด์” ให้เป็น “ยอดขาย”

ในโลกธุรกิจที่หมุนเร็ว การรู้เทรนด์ก่อนคู่แข่งเพียงก้าวเดียว อาจหมายถึงส่วนแบ่งการตลาดมหาศาล ล่าสุด Pinterest แพลตฟอร์มที่เปรียบเสมือน “ลูกแก้วพยากรณ์” ของโลกการตลาด ได้ปล่อยรายงาน Pinterest Predicts สำหรับปี 2026 ออกมาแล้ว ความน่าสนใจของรายงานนี้คือ Pinterest ไม่ได้วิเคราะห์จากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่วิเคราะห์จาก “Search Intent” (เจตนาการค้นหา) ของผู้ใช้งานกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความต้องการซื้อที่จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เราพบว่าปี 2026 จะไม่ใช่ปีแห่งความ “เรียบง่าย” หรือ “มินิมอล” อีกต่อไป แต่มันคือปีแห่งการแสดงออก (Expression), สัมผัส (Sensory), และการผสมผสาน (Hybrid) นี่คือ 4 กลยุทธ์ทางธุรกิจ ที่เราถอดรหัสมาจากเทรนด์ เพื่อให้ผู้ประกอบการและนักการตลาดนำไปปรับทิศทางแบรนด์ได้ทันที กลยุทธ์ที่ 1: Sensory Marketing – เอาชนะใจด้วย “ผิวสัมผัส” และ “สีสัน” ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราคุ้นชินกับความงามแบบ “Clean Girl Aesthetic” และงานดีไซน์แบบ “Flat Design […]

read more
18.12.2025 187

Classic or Create Christmas Tree เศรษฐกิจ ธุรกิจ พฤติกรรม ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงของต้นคริสต์มาส

เศรษฐกิจ ธุรกิจ พฤติกรรม ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงของต้นคริสต์มาส แม้เทศกาลคริสต์มาสจะไม่ได้มีต้นกำเนิดที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยโดยตรง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความนิยมและอิทธิพลของเทศกาลได้แพร่กระจายไปแทบทุกมุมโลก “บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง” กลายเป็นกลิ่นอายที่พบได้ทั้งในเมืองใหญ่ ห้างสรรพสินค้า พื้นที่สาธารณะ ไปจนถึงพื้นที่ส่วนตัวอย่างบ้านและคอนโด ในบริบทของการออกแบบและตกแต่งที่อยู่อาศัย “ต้นคริสต์มาส” (หรือก็คือต้นส้น) ทำหน้าที่เป็น “พระเอก” ของงานนี้มาอย่างยาวนาน เป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนรับรู้ถึงเทศกาลได้ทันที อย่างไรก็ตาม หากมองต้นคริสต์มาสในฐานะ “องค์ประกอบการออกแบบ” มากกว่าของประดับตามฤดูกาล คำถามสำคัญคือที่ผ่านมา และในอนาคต อะไรบ้างที่จะเข้ามากำหนดหน้าตาและบทบาทของมัน? แน่นอนว่าเรามักบอกว่าเลือกเพราะ “ความสวยงาม” แต่ความจริงแล้ว การเลือกนั้นมีระบบเศรษฐกิจ สภาพสังคม และค่านิยมร่วมสมัยซ่อนอยู่เสมอ ตั้งแต่รูปแบบการอยู่อาศัยในเมือง ความคุ้มค่าและต้นทุนที่ผันผวน ตามข้อมูลขององค์การการค้าโลก (WTO) ปริมาณการค้าระหว่างประเทศโดยทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 15% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยมีแรงขับเ […]

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย
read more
05.12.2025 1,124

10 Digital Marketing Trends 2026: การตลาดไทย

ตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยปี 2026 กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี AI พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความคาดหวังด้านความรวดเร็วและความเป็นส่วนตัวที่สูงขึ้น ประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 65.4 ล้านคน (91% ของประชากร) และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 56.6 ล้านคน (79.1% ของประชากร) โดยค่าใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลคาดว่าจะแตะ 34.5 พันล้านบาท (+10% YoY)​ บมความนี้สรุป 10 เทรนด์หลักที่นักการตลาดไทยต้องเข้าใจและปรับตัวให้ทันในปี 2026 ตั้งแต่การใช้ AI แบบ Agentic, การตลาดผ่าน Social Commerce, ไปจนถึงความสำคัญของ Sustainability และ Omnichannel Experience โดยแต่ละเทรนด์จะมีผลกระทบโดยตรงต่อกลยุทธ์การตลาดและการลงทุนของธุรกิจไทยในปีหน้า 1. Agentic AI Marketing: จาก Generative AI สู่ AI ผู้ช่วยที่แท้จริง ปี 2026 เป็นปีที่ AI จะก้าวจากเครื่องมือสร้างคอนเทนต์ (Generative AI) ไปสู่ “Agentic AI” ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างอัตโนมัติและชาญฉลาด AI ในปี 2026 จะไม่ใช่แค่ตอบคำถามหรือสร้างภาพ แต่จะสามารถวางแผนแคมเปญ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ปรับกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ และดำเนินการตั […]

NEO Luxury Trend
read more
02.12.2025 355

NEO Luxury Trend
ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่แค่สิ่งของ
แต่คือประสบการณ์

ความหรูยุคใหม่ไม่ใช่ “ของ” แต่คือ “ประสบการณ์ คุณค่า และความหมาย” โลกของ Luxury กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในปี 2025 ไม่ได้ถูกนิยามด้วยโลโก้หรือสัญลักษณ์สถานะอีกต่อไป แต่สะท้อนถึงความ เข้าใจตัวตน คุณค่าชีวิต และความตั้งใจในการเลือกบริโภค (Intentional Consumption) มากกว่าที่เคย ผู้บริโภคกลุ่ม Luxury โดยเฉพาะ Millennials และ Gen Z ไม่ได้มองความหรูในฐานะการแสดงความมั่งคั่ง แต่มองว่า Luxury คือ “คุณภาพของชีวิต” และ “ประสบการณ์ที่มีความหมาย” ที่พวกเขาเลือกลงทุนอย่างตั้งใจ ทำให้เกิดแนวคิด NEO Luxury – New Luxury Paradigm ที่ผสมผสานความยั่งยืน เทคโนโลยี ประสบการณ์เฉพาะบุคคล และหัตถศิลป์เข้าด้วยกัน บทความนี้จะพาไปสำรวจ 5 หลักการสำคัญที่กำลังกำหนดความหมายใหม่ของ Luxury ในปี 2025 1. Quiet Luxury: ความหรูหราแบบเงียบ ๆ ที่ซ่อนความเข้าใจลึกซึ้งในคุณภาพ Quiet Luxury กลายเป็นตัวแทนของความหรูยุคนี้อย่างแท้จริง เพราะผู้บริโภคไม่ได้ต้องการประกาศความร่ำรวย แต่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง ใช้งานได้นาน และบ่งบอกตัวตนกับคนที่ “เข้าใจจริง” ลักษณะเด่นของ Quiet Luxury คุณภาพเหนือปริมาณ: เลือกสินค้าชิ้นสำคัญแทนกา […]

read more
19.11.2025 771

ความมืดเริ่มเป็นความงามใหม่

สำรวจ ‘ความมืด’ ในฐานะเฉดใหม่ของการออกแบบโลกประสบการณ์ ในอดีต “ความมืด” มักถูกผูกกับภาพของความกลัว, ภัยอันตราย หรือสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ในยุคที่ผู้คนเริ่มโหยหาความสงบ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ และประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน “ความมืด” กำลังถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นทรัพยากรทางวัฒนธรรมและทางธุรกิจที่ทรงพลัง กรอบคิดว่าด้วยการใช้ความมืดเป็นแกนกลางในการออกแบบประสบการณ์และรูปแบบธุรกิจ (Dark Experience) Dark Experience คือแนวคิดของธุรกิจที่ใช้ “ความมืด” เป็นหัวใจของการออกแบบประสบการณ์ ไม่ใช่เพื่อทำให้ผู้คนหวาดกลัว แต่เพื่อ “มองเห็น” สิ่งที่สำคัญกว่าเดิม ทั้งตัวเอง ธรรมชาติ และเรื่องราวที่เคยถูกกลบอยู่ในเงามืดของสังคม สาระสำคัญของ Dark Experience Business คือการใช้ความมืดเป็น “เครื่องมือในการออกแบบประสบการณ์” แทนที่จะใช้แสงและสิ่งเร้าเข้มข้นแบบที่ธุรกิจยุคก่อนมักใช้ดึงความสนใจผู้บริโภค สังคมปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหา Overstimulation อย่างหนัก ทั้งจากแสงไฟ เมือง 24 ชั่วโมง และหน้าจอที่อยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา ทำให้สมองแทบไม่เคยได้พักจากการประมวลผล สิ่งต่างๆ เหล่านี้สะสมเป็นความล้าโดยไม่รู้ตัว […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง