ชาตรามือออกแบรนด์ชา CTM เดินตลาดตาม Trend Specialty Tea
ชาตรามือ แบรนด์ใหม่ CTM
CTM หรือ Captivating Tea Muse เป็นแบรนด์ชาใหม่ล่าสุดจากชาตรามือ ที่เน้นชาพรีเมียมคัดสรรคุณภาพดีเยี่ยม ผสมผสานกับวัตถุดิบคุณภาพสูงเพื่อมอบประสบการณ์รสชาติที่แปลกใหม่และสนุกขึ้น แบรนด์นี้มีใบชาหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 10 ชนิด พร้อมเมนูเด่น เช่น ชาอู่หลงนางงาม ที่ถือเป็นจุดขายสำคัญของแบรนด์ CTM ได้ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญด้านชาอย่างลึกซึ้งของชาตรามือเพื่อสร้างชาในมิติใหม่ที่เหนือชั้นกว่าเดิม
อะไรทำให้ชาไทย Specialty เป็นเทรนด์ฮิตตอนนี้
- การเติบโตของอุตสาหกรรมชาไทยที่มีการพัฒนาเชิงโครงสร้างในด้านคุณภาพของใบชา ความหลากหลายของแหล่งปลูก และกำลังการผลิต ทำให้ไทยกลายเป็นตลาดค้าชารายใหญ่อันดับ 7 ของโลก
- ผู้บริโภคไทยเริ่มรับรู้และสนใจเครื่องดื่ม Specialty มากขึ้น หลังจากที่กาแฟ Specialty ได้รับความนิยมก่อนหน้านี้ ทำให้มีการพัฒนาชาไทยแบบพรีเมียม ที่มีการคัดใบชาจากแหล่งปลูกหลากหลายทั่วไทย รวมถึงการใช้เทคนิคการชงที่ทันสมัย
- ชาไทย Specialty เน้นความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกใบชาคุณภาพสูงที่มีโน้ตรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวแตกต่างกันตามแหล่งปลูก เช่น ชาเชียงราย ชาแม่ฮ่องสอน ชาปัตตานี เป็นต้น ทำให้รสชาติชาไทยมีความซับซ้อนและแตกต่างจากชาเย็นทั่วไปที่ชงจากผงชาสำเร็จรูป
เทรนด์ชา Specialty ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างไร
- ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพและเรื่องราวของชาไทยมากขึ้น เช่น การเลือกใบชาจากแหล่งปลูกเฉพาะที่มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว แตกต่างจากชาแบบเดิมที่เป็นผงสำเร็จรูป ทำให้การดื่มชาเป็นประสบการณ์รสชาติที่ละเอียดและมีมิติ
- กลุ่มผู้บริโภคเริ่มเปิดรับเมนูชาสไตล์ Specialty ที่หลากหลายและมีนวัตกรรม เช่น ชาไทยไม่ใส่สี ชาเพื่อสุขภาพ หรือชาในรูปแบบใหม่ที่เน้นความสะอาด ธรรมชาติและสุขภาพ รวมถึงเมนูที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกและดีต่อสุขภาพ
- การซื้อและบริโภคชาไทย Specialty เติบโตสูงในช่องทางเดลิเวอรี โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ ที่มีร้านชา Specialty เปิดเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% ในช่วง 3 ปี รวมถึงยอดสั่งซื้อผ่านเดลิเวอรีโตขึ้น 81% ในปี 2024 สะท้อนถึงความนิยมและการเข้าถึงที่สะดวกของผู้บริโภค
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดื่มชาในกลุ่มคนรุ่นใหม่
- คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความเป็น Specialty ของชา มากกว่าการดื่มชาแบบธรรมดา พวกเขาเลือกบริโภคชาที่มีแหล่งที่มาชัดเจน รสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว เช่น ชาไทย Specialty ที่คัดสรรใบชาคุณภาพสูงจากแหล่งปลูกต่างๆ ทั่วประเทศไทย
- กลุ่มคนรุ่นใหม่สนใจชาในมิติของสุขภาพและความยั่งยืน เช่น ชาออร์แกนิก ชาไทยไม่ใส่สี และชาเพื่อสุขภาพ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงมองหาเครื่องดื่มที่ปราศจากวัตถุเจือปน
- พฤติกรรมการสั่งชาเปลี่ยนไป สะดวกสบายและเน้นช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยช่องทางเดลิเวอรีกลายเป็นแม่เหล็กสำคัญให้คนรุ่นใหม่สั่งชา Specialty ที่ร้านดังๆ รวมถึงรูปแบบเมนูที่หลากหลายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เช่น การปรับความหวาน การเลือกกลิ่นและรสชาติ
บทสรุปส่งท้าย
การมาของ CTM ไม่ใช่แค่การเปิดแบรนด์ใหม่ของชาตรามือ แต่คือการก้าวเข้าสู่กระแส Specialty Tea ที่กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคไทย และยกระดับ “ชาไทย” ไปสู่การเป็นเครื่องดื่มไลฟ์สไตล์ระดับโลก