Baramizi Lab logo

7 Key Economic Trends จาก The Standard Economic Forum 2025

7 Key Economic Trends จาก The Standard Economic Forum 2025

งาน The Standard Economic Forum 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5–7 พฤศจิกายน 2568 ในธีม “Thailand’s Next Frontier” รวบรวมผู้นำระดับโลก นักเศรษฐศาสตร์ และผู้กำหนดนโยบายกว่า 100 คน เพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจไทย ภายในงานมีการเน้น 3 ความท้าทายหลัก (3D Challenges) ก่อนเข้าสู่เทรนด์เฉพาะทาง ได้แก่

3D Challenges ก่อนที่จะเจาะลึกในเทรนด์เฉพาะ มาทำความเข้าใจภาพรวมที่กว้างขึ้นก่อน ผู้นำธุรกิจไทยได้ระบุถึง “3 ความท้าทาย

  1. Digitalization (การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล) เทคโนโลยีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นรากฐานของการแข่งขัน เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนคิดเป็น 15.5% ของ GDP โลกแล้ว โดย 70% ของมูลค่าใหม่ทั่วโลกคาดว่าจะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มดิจิทัลในทศวรรษหน้า

  2. Deglobalization (การทวนกระแสโลกาภิวัตน์)  โลกกำลังแตกออกเป็นส่วนๆ จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ จีน และพันธมิตร ไทยต้องวางตำแหน่งตัวเองใน “จุดยืนที่เป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์” (Geopolitical Neutral Position) และ “ผู้สร้างสมดุลอย่างสร้างสรรค์” (Creative Balancer) เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ตั้งทางยุทธศาสตร์และจุดยืนที่เป็นกลาง พร้อมเร่งรัดข้อตกลงการค้าเสรี (FTA)

  3. Decarbonization (การลดคาร์บอน)
    การปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมกลายเป็นข้อกำหนดทางการค้า ไม่ใช่ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ที่เป็นทางเลือกอีกต่อไป บริษัทที่ไม่สามารถพิสูจน์การลดคาร์บอนใน Scope 3 ได้ จะสูญเสียสิทธิ์ในการส่งออก

เทรนด์ที่ 1: AI และ Cloud Computing  เครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโต

 

โอกาส: การลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ของ AWS ในไทยถือเป็นจุดเปลี่ยนทางยุทธศาสตร์ ประเทศไทยตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลาง AI แห่งอาเซียนภายในปี 2570

ประเด็นน่าสนใจ ช่องว่างในการนำ AI มาใช้ยังมีขนาดใหญ่มาก แม้ว่า 32% ของบริษัทไทยจะเริ่มใช้ AI แล้ว แต่มีเพียง 10% เท่านั้นที่ก้าวไปสู่ขั้นตอนการผลิตจริง (production stage) และ 72% ยังคงอยู่ในระยะทดลอง (experimental phases) นี่คือข้อได้เปรียบในการแข่งขันของไทย: ศักยภาพมหาศาลที่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้

เทรนด์ที่ 2: การผลิตขั้นสูงและสีเขียว เกมการแข่งขันด้านซัพพลายเชน

โอกาส: ไทยกำลังวางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้เล่นหลักในการผลิตเฉพาะทาง: ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เซมิคอนดักเตอร์ (ในบางส่วนของห่วงโซ่อุปทาน) และอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมาตรฐานสีเขียว

ประเด็นน่าสนใจ: ภูมิทัศน์การผลิตทั่วโลกกำลังเปลี่ยนไป บริษัทต่างๆ ต้องการห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน ไม่ใช่แค่แรงงานราคาถูก ความใกล้ชิดของไทยกับจีนและวัตถุดิบ ประกอบกับความเป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ไทยน่าดึงดูดสำหรับ “Friendly-shoring” (การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศพันธมิตร) หรือการกระจายความเสี่ยงออกจากห่วงโซ่อุปทานที่พึ่งพาจีน

เทรนด์ที่ 3: เกษตรและอาหารจากสินค้าโภคภัณฑ์สู่แบรนด์พรีเมียม

 

โอกาส: ไทยเป็น “ครัวของโลก” แต่ความได้เปรียบในการแข่งขันกำลังลดลง ความท้าทายคือการเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มและการวางตำแหน่งแบรนด์ในระดับโลก

ประเด็นน่าสนใจ เกษตรกรรมไทยต้องเปลี่ยนจาก “ปริมาณ” ไปสู่ “มูลค่า” มาตรฐานสีเขียว (กฎระเบียบของสหภาพยุโรป) ควรถูกมองใหม่ว่าเป็นโอกาสในการเติบโต ไม่ใช่ข้อจำกัด ผู้ผลิตรายย่อยสามารถเข้าถึงตลาดโลกได้ผ่านการรวมกลุ่ม (aggregation) และการสร้างมาตรฐาน

เทรนด์ที่ 4: การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสุขภาพ (Wellness)

 

โอกาส: เศรษฐกิจสุขภาพ (Wellness Economy) ทั่วโลกมีมูลค่า 6.3 ล้านล้านดอลลาร์ (ณ ปี 2566) และเติบโต 7.3% ต่อปี คาดว่าจะสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 ประชากรนักท่องเที่ยวของไทยกำลังเปลี่ยนจากนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ชาวจีน ไปสู่นักท่องเที่ยวมาเลเซีย อินเดีย และ Gen Z ที่แสวงหาประสบการณ์ที่มีความหมาย

ประเด็นน่าสนใจ: ยุคแห่งโปสการ์ดจบลงแล้ว นักท่องเที่ยวยุคใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z แสวงหา “ประสบการณ์ที่มีความหมาย” (meaningful experiences) ไม่ใช่แค่การเช็คอินใน Instagram พวกเขาต้องการมีส่วนร่วมในวัฒนธรรมท้องถิ่น สนับสนุนชุมชน และค้นหาเป้าหมายในการเดินทาง

เทรนด์ที่ 5: การปฏิวัติโลจิสติกส์

 

โอกาส: ต้นทุนโลจิสติกส์คิดเป็น 13.5% ของ GDP ไทย การลดลงเพียง 1% จะปลดปล่อยเงิน 2 แสนล้านบาทเข้าสู่ระบบ ภาคส่วนนี้กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ผ่านเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

ประเด็นน่าสนใจ: โลจิสติกส์เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นจนกว่ามันจะล้มเหลว แต่ตอนนี้ มันกำลังกลายเป็นชั้นของการสร้างมูลค่า (value-creation layer) ไม่ใช่แค่ศูนย์ต้นทุน (cost center) บริษัทที่ใช้ “โลจิสติกส์อัจฉริยะ” (Smart Logistics) จะได้เปรียบในการแข่งขัน ส่วนบริษัทที่พึ่งพาโลจิสติกส์แบบดั้งเดิมจะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาด

เทรนด์ที่ 6: พลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความยั่งยืน

 

โอกาส: ไทยมีศักยภาพด้านพลังงานหมุนเวียนสูง และกำลังวางตำแหน่งตัวเองเป็นศูนย์กลางพลังงานสะอาดระดับภูมิภาค สัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยตรง (Direct PPA) และอัตราค่าไฟฟ้าสีเขียว (UGT) กำลังกลายเป็นกลไกสำหรับบริษัทต่างๆ ในการจัดหาพลังงานสะอาด

ประเด็นน่าสนใจสำหรับคอนเทนต์: การเปลี่ยนผ่านพลังงานไม่ใช่เรื่องของความดีงามด้านสิ่งแวดล้อม แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงทางพลังงานและการคาดการณ์ต้นทุนได้ บริษัทที่สามารถทำสัญญาระยะยาวด้านพลังงานสะอาดจะได้ต้นทุนที่คงที่ ส่วนบริษัทที่พึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ผันผวนจะสูญเสียอำนาจต่อรอง

เทรนด์ที่ 7: บริการดิจิทัลและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ – เกมชิงอธิปไตย (ดิจิทัล)

 

โอกาส: ไทยมีความสำเร็จที่พิสูจน์แล้วในด้านคอนเทนต์สร้างสรรค์ (ซีรีส์, เพลง, ครีเอเตอร์ TikTok) โอกาสคือการยกระดับสิ่งนี้ให้เป็นอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ที่มีโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล ศูนย์กลางบุคลากร และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา (IP)

ประเด็นน่าสนใจ: ไทยมี “ซอฟต์แวร์ทางวัฒนธรรม” (Cultural software) ที่ทำงานอยู่แล้ว (ซีรีส์ไทย, T-POP, ครีเอเตอร์ดิจิทัล) แต่โครงสร้างพื้นฐานยังขาดหายไป Microsoft และ TikTok กำลังสร้างศูนย์ข้อมูล (data centers) AWS กำลังลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ ไทยสามารถกลายเป็นมงกุฎดิจิทัลแห่งอาเซียนได้หากเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ขอบคุณข้อมูลจากทาง The Standard Economic Forum 2025 

บทสรุปส่งท้าย

งาน The Standard Economic Forum 2025 ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญทั้ง โอกาสและความท้าทายครั้งใหญ่ ใน 7 ด้านหลัก ได้แก่ เทคโนโลยี AI & Cloud, การผลิตขั้นสูงและสีเขียว, เกษตรและอาหาร, การท่องเที่ยว & Wellness, โลจิสติกส์, พลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมคอนเทนต์ดิจิทัล

การทำความเข้าใจและปรับตัวตามเทรนด์เหล่านี้ จะช่วยให้ธุรกิจไทยสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ และเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาค


บทความเทรนด์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

RECOMMEND

read more
19.11.2025 176

ความมืดเริ่มเป็นความงามใหม่

สำรวจ ‘ความมืด’ ในฐานะเฉดใหม่ของการออกแบบโลกประสบการณ์ ในอดีต “ความมืด” มักถูกผูกกับภาพของความกลัว, ภัยอันตราย หรือสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ในยุคที่ผู้คนเริ่มโหยหาความสงบ พื้นที่ปลอดภัยทางใจ และประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน “ความมืด” กำลังถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นทรัพยากรทางวัฒนธรรมและทางธุรกิจที่ทรงพลัง กรอบคิดว่าด้วยการใช้ความมืดเป็นแกนกลางในการออกแบบประสบการณ์และรูปแบบธุรกิจ (Dark Experience) Dark Experience คือแนวคิดของธุรกิจที่ใช้ “ความมืด” เป็นหัวใจของการออกแบบประสบการณ์ ไม่ใช่เพื่อทำให้ผู้คนหวาดกลัว แต่เพื่อ “มองเห็น” สิ่งที่สำคัญกว่าเดิม ทั้งตัวเอง ธรรมชาติ และเรื่องราวที่เคยถูกกลบอยู่ในเงามืดของสังคม สาระสำคัญของ Dark Experience Business คือการใช้ความมืดเป็น “เครื่องมือในการออกแบบประสบการณ์” แทนที่จะใช้แสงและสิ่งเร้าเข้มข้นแบบที่ธุรกิจยุคก่อนมักใช้ดึงความสนใจผู้บริโภค สังคมปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหา Overstimulation อย่างหนัก ทั้งจากแสงไฟ เมือง 24 ชั่วโมง และหน้าจอที่อยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา ทำให้สมองแทบไม่เคยได้พักจากการประมวลผล สิ่งต่างๆ เหล่านี้สะสมเป็นความล้าโดยไม่รู้ตัว […]

read more
21.11.2025 20

7 Key Economic Trends จาก The Standard Economic Forum 2025

งาน The Standard Economic Forum 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5–7 พฤศจิกายน 2568 ในธีม “Thailand’s Next Frontier” รวบรวมผู้นำระดับโลก นักเศรษฐศาสตร์ และผู้กำหนดนโยบายกว่า 100 คน เพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจไทย ภายในงานมีการเน้น 3 ความท้าทายหลัก (3D Challenges) ก่อนเข้าสู่เทรนด์เฉพาะทาง ได้แก่ 3D Challenges ก่อนที่จะเจาะลึกในเทรนด์เฉพาะ มาทำความเข้าใจภาพรวมที่กว้างขึ้นก่อน ผู้นำธุรกิจไทยได้ระบุถึง “3 ความท้าทาย Digitalization (การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล) เทคโนโลยีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นรากฐานของการแข่งขัน เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนคิดเป็น 15.5% ของ GDP โลกแล้ว โดย 70% ของมูลค่าใหม่ทั่วโลกคาดว่าจะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มดิจิทัลในทศวรรษหน้า Deglobalization (การทวนกระแสโลกาภิวัตน์)  โลกกำลังแตกออกเป็นส่วนๆ จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ จีน และพันธมิตร ไทยต้องวางตำแหน่งตัวเองใน “จุดยืนที่เป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์” (Geopolitical Neutral Position) และ “ผู้สร้างสมดุลอย่างสร้างสรรค์” (Creative Balancer) เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ […]

read more
03.11.2025 479

“Gartner” เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมธุรกิจปี 2569

ในปี 2569 จะเป็นปีที่สำคัญต่อผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ต้องเผชิญกับการหยุดชะงัก นวัตกรรม ไปจนถึงความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน เทรนด์เทคโนโลยีทั้งหมดในปีหน้าจะเชื่อมโยงกับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-driven world) และเชื่อมต่อกัน ตลอดเวลา ซึ่งองค์กรธุรกิจต้องขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ ดำเนินงานด้วยความเป็นเลิศ และสร้างความไว้วางใจทางดิจิทัลไปพร้อมกัน ผู้นำองค์กรต้องเผชิญกับ การหยุดชะงัก (Disruption) นวัตกรรม และความเสี่ยงที่ขยายตัวรวดเร็ว 10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญแห่งปี 2569 1. AI Supercomputing Platforms  AI Supercomputing Platforms (แพลตฟอร์ม AI ซูเปอร์คอมพิวติ้ง) เป็นการรวมพลังของ CPU, GPU, ชิป AI ASICs และการประมวลผลแบบนิวโรมอร์ฟิก (จำลองสมองมนุษย์) ช่วยให้องค์กรจัดการงานที่ซับซ้อนมหาศาล ปลดล็อกประสิทธิภาพและนวัตกรรม ต้องอาศัย Orchestration Software เพื่อจัดการเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนโดยอัตโนมัติ คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 องค์กรชั้นนำ 40% จะใช้สถาปัตยกรรม Hybrid Computing (เพิ่มจาก 8% ในปัจจุบัน) ตัวอย่างการใช้งาน: คิดค้นยาใหม่ในไม่กี่สัปดาห์ (แทนที่จะใช้เวลาหลายป […]

read more
10.11.2025 470

5 Health Mindsets: The Next Big Opportunity: เข้าใจ 5 กลุ่มสุขภาพ = เจอโอกาสใหม่ก่อนใคร

สำรวจทิศทาง 5 พฤติกรรมสุขภาพคนไทย: สัญญาณบ่งชี้โอกาสธุรกิจบริการสุขภาพยุคใหม่ เคยไหม? รู้ว่าควรตรวจสุขภาพประจำปี แต่ก็เลื่อนออกไปเรื่อยๆ หรือรอให้ป่วยก่อนจึงเริ่มใส่ใจสุขภาพ — พฤติกรรมนี้สะท้อนภาพ “ความเฉยเมย” ของคนไทยที่ยังฝังแน่นในวัฒนธรรมการดูแลตัวเอง ปัจจุบัน คนไทยเริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น แต่พฤติกรรมการดูแลตัวเองยังค่อนข้างหลากหลาย บางคนใส่ใจเรื่องการออกกำลังกาย รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่บางส่วนยังละเลยเนื่องจากเวลาจำกัด งานยุ่ง หรือค่าใช้จ่ายสูง บริษัท บารามีซี่ แล็บ และ IQQEW POLL ได้สำรวจผู้บริโภคจำนวน 1200 คนทั่วประเทศ จากผลสำรวจล่าสุด พบว่า  58.83% ของผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของตนเอง โดยเฉพาะกลุ่ม Gen X ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพเป็นอย่างมาก แม้ผู้บริโภคไทยส่วนใหญ่รับรู้ถึงความสำคัญของการตรวจสุขภาพประจำปี แต่กว่า 37.75% ยังคงไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพมากนัก รู้สึกว่ายังไม่จำเป็นต้องตรวจหรือดูแลสุขภาพ พฤติกรรมนี้สะท้อนถึงความ “เฉยเมย” ที่ฝังรากลึก ซึ่งมักเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความยุ่งวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ค่า […]

read more
21.11.2025 25

สุขภาพแบรนด์ (Brand Health) ดีเท่ากับยอดขายที่แข็งแรง

เพราะ “แบรนด์” ก็ต้องตรวจสุขภาพประจำปีเช่นเดียวกับคน เราตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อที่จะรู้ผลประเมินความปกติหรือผิดปกติของร่างกายในฟังก์ชันต่างๆ วิธีการก็คือคุณพยาบาลและนักเทคนิคการแพทย์จะทำการเก็บเลือด เก็บของเสียจากการขับถ่าย ไปจนถึงเอ็กซเรย์สแกนร่างกาย และสิ่งที่เราได้รับก็คือผลตัวเลขทั้งหมดที่บ่งชี้ความปกติ-ไม่ปกติ เปรียบเทียบกับค่ามาตรฐาน และการให้คำปรึกษาจากนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงแนวทางการปฏิบัติตัวเพื่อยกระดับค่าตัวเลขต่างๆ ให้ดีขึ้นใช่มั้ยคะ การตรวจสุขภาพแบรนด์ก็เช่นเดียวกันค่ะ มันคือกระบวนการสแกนร่างกายของแบรนด์ธุรกิจโดยผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์จากมุมมองของลูกค้า โดยเครื่องเอ็กซ์เรย์ที่ดีจะทำหน้าที่ในการประเมินแต่ละฟังก์ชันที่สำคัญของแบรนด์ให้ได้รู้ว่าเราทำได้ดีในส่วนไหนและมีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีกบ้างเมื่อเทียบกับค่ามาตรฐาน และก็มีทีมที่ปรึกษาด้านการวิจัยเพื่อการพัฒนาแบรนด์ให้คำแนะนำการฟิตร่างกายธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้แบรนด์ ทีนี้สุขภาพแบรนด์ที่ดีมีประโยชน์อย่างไร? Share of Mind: ส่วนแบ่งของการรับรู้ในใจลูกค้า ทุกคนเคยได้ยินคำว่า “Share of Mind” มั้ยคะ “Share of Mind” (SOM […]

Subscription

เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เทรนด์และวิจัยต่อเนื่อง